เริ่มจากคลื่นใต้น้ำในพลังประชารัฐ จนถึงบริบทที่ต้องวัดกำลัง ระหว่าง พี่กับน้อง วัดอุณหภูมิจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคำพูดของทั้งสองผู้นำที่ทิ้งปริศนาเอาไว้มากมาย ไม่มีความขัดแย้ง ยังรักกันดี ไม่มีแตกแยก รักกันไปจนวันตาย
แต่เดินคนละทาง
วันนี้เริ่มมีคนสงสัยว่า ที่ผ่านมา เป็นลิเก โรงใหญ่ในพลังประชารัฐ หรือไม่ เพราะประเมินสถานการณ์จากการแก้ปัญหาโควิด-19 ของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว หาก มีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ พลังประชารัฐ ได้เละเป็นโจ๊กแน่นอน
คนจะแห่ไปเลือกก้าวไกลถล่มทลาย
เพราะการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นการพิสูจน์ ได้อย่างดีว่า ภาวะผู้นำ และ ความสามารถในการแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ ที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตคนไทย เป็นหมื่นคน กำพร้า พลัดพราก อดอยาก ฆ่าตัวตายอีกจำนวนไม่น้อย จนถึงวันนี้ การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทย ยังสามวันดีสี่วันไข้
อยู่ในขั้นอนาถา
ดังนั้นวิธีที่ พลังประชารัฐ จะอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องเล่นละครการตัดเนื้อร้ายทิ้ง ซึ่งเป็นการยิงนกด้วยกระสุนนัดเดียว จัดระเบียบปรับโครงสร้างภายในพรรคให้อยู่ในมือของ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส ให้อยู่หมัด
แยกกันเดินร่วมกันตี
วันนี้ ส.ส.ในพลังประชารัฐอยู่ในความสงบเรียบร้อย ภาพที่ พลังประชารัฐ กำลังจะสลัด พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งพรรคร่วมรัฐบาล ปัจจุบันไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยในอนาคต
ทำให้ภาพการเมืองเละเทะมากขึ้น
คนยิ่งเบื่อการเมืองอยู่แล้วด้วย ชักจะเคลิ้มกับ การเมืองนอกสภา เห็นด้วยกับม็อบที่กำลังตั้งหน้าตั้งตา จุดพลุไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด
...
เกิดความลังเล
มีนักการเมืองก็เหมือนไม่มี แจกกล้วยกันกลางสภาในเวลาที่ประชาชนเดือดร้อน เลือดตาแทบกระเด็น ข้าวสารยังไม่มีจะกรอกหม้อ มีหรือไม่มีนักการเมืองมีค่าเท่ากัน
ประชาธิปไตยหรือเผด็จการก็ไม่แตกต่าง
คำถามก็คือ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร พลังประชารัฐ กำลังทำเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัว การที่ปล่อยให้การเมืองวุ่นวาย การชุมนุมยืดเยื้อ การแก้ปัญหาโควิดไม่สะเด็ดน้ำ ต่อรองอำนาจในรัฐบาล ปล่อยให้ทุนนิยมครอบงำ บ้านเมืองไม่สงบสุข เพื่อเป้าหมายเดียวคือ การรักษาอำนาจเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่ออะไร.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th