แอดมินทะลุแก๊สโพสต์ยุติป่วนดินแดงชั่วคราว จนกว่าจะได้ข้อสรุปด้านยุทธศาสตร์ ลั่นกลับมาใหม่ 18 ก.ย.นี้ ส่วน 30 ก.ย. นัดรำลึกวีรชนผู้กล้า ลานพระบรมรูปทรงม้า ผบช.น. รับคลิปรถตำรวจขนผู้ต้องหาขับชนโจ๋ อ้างเป็นเพราะถูกขวางทางและใช้ไม้ทุบรถ คนขับเกรงอันตรายเพราะไม่ได้พกอาวุธ เลยขับฝ่าจนเกิดเฉี่ยวชน ยันไม่ได้ชนแล้วหนี เพราะหยุดดูแต่จะถูกรุมทำร้าย อีกทั้งหลังเกิดเหตุได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ รวมทั้งแจ้งความไว้แล้ว เช่นเดียวกับ กทพ.แจ้งความม็อบเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ทางขึ้น-ลงด่วนดินแดง ส่วนตำรวจนางเลิ้งส่งสำนวนคดีให้อัยการฟ้องม็อบ “ไทยไม่ทน” 25 คน
กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาบริหารงานมา 7 ปี ผิดพลาดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนและการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มีผู้ชุมนุมกันรายวันในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะเดียวกันมีเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างตำรวจควบคุมฝูงชนและกลุ่มมวลชนทะลุแก๊ส ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและวัยรุ่น ที่ตำรวจระบุว่า ไม่ใช่ม็อบ แต่เป็นผู้ก่อความไม่สงบ สถานการณ์เริ่มจะรุนแรงขึ้นทุกวัน ไม่ใช่แค่ตำรวจและกลุ่มวัยรุ่นต่างฝ่ายจะบาดเจ็บแล้ว แต่ยังลามไปถึงกลุ่มชาวแฟลตและผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรบริเวณดังกล่าวที่ได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปรถกระบะขนผู้ต้องหาของตำรวจพุ่งชนกลุ่มวัยรุ่นทะลุแก๊ส เมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ 12 ก.ย.เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ชี้แจงเหตุดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบเป็นตำรวจจริง เป็นรถของ สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับ คำสั่งปฏิบัติภารกิจรับกำลังพล คฝ.จากสามเหลี่ยมดินแดงกลับไปที่ ปส. จากนั้นได้ขับกลับที่ตั้งเพื่อรอรับ คำสั่งในช่วงเช้า หลังเปิดการจราจรปกติในช่วงเวลา 23.00 น. แต่เมื่อมาถึงสามเหลี่ยมดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิต พบกลุ่มบุคคล 6-7 คน ไล่ทุบรถพร้อมทั้งมีเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่เกรงจะได้รับอันตราย ขับรถหลบหนีกระทั่งเกิดเหตุเฉี่ยวชน คนขับหยุดดูแล้วขับต่อนำรถไปจอดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เพราะยางแตกขับต่อไม่ได้ จากนั้นแจ้งต้นสังกัด พร้อม แจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนชนแล้วหนีไม่ช่วยเหลือยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะตรวจสอบสถานพยาบาลแล้วไม่ได้มีใครเข้ารับการรักษา ส่วนเหตุที่ไม่จอดเนื่องจากจะเกิดอันตราย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก บช.น. กล่าวถึงสถานการณ์การก่อความไม่สงบของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่บริเวณแยกดินแดง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. เริ่มรวมตัวเวลา 17.30 น. นำแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ บริเวณทางขึ้นด่วนดินแดงมุ่งหน้าบางนา ใต้ทางด่วน และหน้าสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเหตุให้มีเพลิงไหม้ จนเวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่ออกมาควบคุมเพลิง แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊ก ท่ออัดแก๊ส ยิงลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ หน้ากรมดุริยางค์ทหารบก และฝั่งถนนมิตรไมตรี เป็นระยะๆได้ประกาศเตือนให้ยุติการกระทําและออกจากพื้นที่ แต่ไม่ยอมเชื่อฟังก่อความวุ่นวายต่อ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลุกลาม เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.45 น. ที่ สน.ดินแดง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ส่งตัวแทน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม สืบเนื่องจากวันที่ 12 ก.ย. เวลา 19.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามา บริเวณทางขึ้นทางด่วนดินแดง และเผาซุ้มเฉลิม พระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่บริเวณด่าน เก็บค่าผ่านทางดินแดง ขาเข้า มุ่งหน้าบางนา และ เวลา 23.35 น. ของวันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผา เสาซุ้มบริเวณทางลงด่วนดินแดง ขาออก มุ่งหน้าถนนวิภาวดีฯ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของ กทพ.
วันเดียวกัน นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาฯ กล่าวถึงคลิปเหตุการณ์รถตำรวจพุ่งชนผู้ชุมนุม กลุ่ม “ทะลุแก๊ส” ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ว่า ยังไม่เห็น คลิป แต่สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรรมาธิการฯตรวจสอบคลิป เดิมจะทำหนังสือถึง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในวันที่ 16 ก.ย. แต่กังวล จะล่าช้าไป ให้นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย กมธ.ตำรวจ ไปพบ ผบช.น. วันที่ 14 ก.ย. เวลา 13.00 น. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
อีกด้านหนึ่งที่สำนักงานอัยการพิเศษ คดีศาล แขวง 3 พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง นัดพร้อมแกนนำ ไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชน ส่งฟ้องอัยการพิเศษ ศาลแขวง 25 คน อาทิ นายวีระ สมความคิด นายเมธา มาสขาว น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ นายยศวริศ ชูกล่อม นายณัทพัช อัคฮาด นายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน อาชีวะ นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง กรณีชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลขับไล่นายกรัฐมนตรี พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอสมควรส่งฟ้อง 4 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 2.ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 3.ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆบนพื้นถนน ตาม พ.ร.บ. ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 สืบเนื่องจากการจัดชุมนุมสะพานผ่านฟ้า-ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 24, 26 มิ.ย. และ 3, 11 ก.ค.64 แต่ละคนจะมีข้อหา แตกต่างกัน
ส่วนสถานการณ์ประจำวันที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อเวลา 17.00 น. บรรยากาศโดยรวมเป็นไปในภาวะปกติ หลังทวิตเตอร์กลุ่มทะลุแก๊สโพสต์ยุติการ เคลื่อนไหวใจความว่า “ทะลุแก๊สขอยุติบทบาทชั่วคราว จนกว่าจะได้ข้อสรุปด้านยุทธศาสตร์ และจะกลับมา อีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. ส่วนวันที่ 30 ก.ย. เจอกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เราจะไปรำลึกวีรชนผู้กล้า ผู้เป็นทั้งครูอาจารย์ในการกำหนดจริยธรรมของการต่อต้านเผด็จการและยังเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้ทางการเมืองของแอดมินเสมอมา”
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.ชี้แจงถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น แจ้งเตือนพลเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับภัยการก่อการร้าย ว่า กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าว จากการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคง ยังไม่มีสิ่งใดหรือมีการยืนยันชี้ชัดว่าจะมีการก่อการร้าย โดยประสานงานกับหน่วยงานด้านการข่าวที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ อย่างใกล้ชิด สำหรับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานทูตยังเป็นไปตามวงรอบตามปกติ กองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ ดำเนินการด้านการข่าวและการรักษาความปลอดภัยสถานที่อยู่แล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเฝ้าระวัง สืบสวนหาข่าว ตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร ผู้บังคับหมู่กองร้อยที่ 1 กก.ควบคุมฝูงชน 2 บก.อคฝ. ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแยกดินแดง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 ที่ผ่านมา เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชนและข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีต่อข้าราชการตำรวจ และครอบครัวของข้าราชการตำรวจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.ยิ่งยศยังกล่าวถึงอาการล่าสุดของ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ว่า หลังรับการผ่าตัดจากการถูกไปป์บอมบ์ปาใส่ใบหน้าด้านขวา มีอาการสาหัส ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยภาวะวิกฤติ (ICU) และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องของการดูแลด้านสวัสดิการด้านต่างๆ พล.ต.อ.สุวัฒน์ และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. มอบเงินสวัสดิการและเงินส่วนตัว ช่วยเหลือ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ ผ่านนายคณาวุฒิ จิรคเชนทร บิดา เป็นผู้แทนรับมอบ นอกจากนี้ยังได้มอบเงินสวัสดิการและเงินส่วนตัวช่วยเหลือแก่ ด.ต.โกวิท เหมือนอ้อย ผบ.หมู่ กก.ตชด.ที่ 13 และ ส.ต.ท.จิตติพล จิตเจริญ ผบ.หมู่ กก.ตชด.ที่ 24 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในวันเวลาดังกล่าวด้วย พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่จะได้รับโดยเร่งด่วน
ด้านฝ่ายประสานงานกลุ่มทะลุฟ้า ขอสงวนนาม เผยผู้สื่อข่าวว่า ในการชุมนุมที่แยกดินแดง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ตามภาพข่าวที่ปรากฏในหน้า 1 นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 ก.ย. ระบุข้อความบรรยายภาพ มีกลุ่มทะลุฟ้าเข้าร่วมชุมนุมด้วย ยืนยันว่ากลุ่มทะลุฟ้าไม่ได้ เกี่ยวข้องกับการชุมนุม มีเพียงตัวแทนไปสังเกต และช่วยแจกน้ำเกลือล้างตาบรรเทาอาการระคายเคืองจากการถูกแก๊สน้ำตาให้กับประชาชนในบริเวณนั้น บรรยายภาพที่นำเสนอมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุฟ้าสามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊กเพจทะลุฟ้า
จนกระทั่งเวลา 19.50 น. หลังการประกาศยุติการชุมนุมชั่วคราวของกลุ่มทะลุแก๊ส แต่ยังคงมีวัยรุ่นมารวมตัวกันที่สามเหลี่ยมดินแดงราว 20 คน ได้จุดไฟเผายางรถยนต์ บนผิวถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า แต่การจราจรยังสามารถใช้ได้ตามปกติ ขณะที่วัยรุ่นบางส่วนขี่รถ จยย.และเดินเท้าเข้าไปที่หน้ากรมดุริยางค์ทหารบก แต่ถูกเพื่อนร่วมกลุ่มห้ามปรามไว้ไม่ให้เข้าไปในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่รถ จยย. ใช้พลุไฟ ระเบิดขวด และประทัดยิงเข้าใส่กรมดุริยางค์ทหารบกอีก ส่วน คฝ.ที่อยู่ในที่ตั้งต้องใช้กระสุนยางยิงสวนออกมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งเวลา 20.15 น. กำลัง คฝ.1 กองร้อย พร้อมรถจีโน่ 1 คัน ออกจากที่ตั้ง เพื่อสกัดกั้นการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม มีการปะทะกันเล็กน้อย กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนถูกกระสุนยางบาดเจ็บ แต่ขณะที่ล่าถอยยังจุดพลุไฟยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นเวลานานประมาณ 10 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ คฝ.จะออกมายึดแนวบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีขาออกด้านข้างกรมดุริยางค์ทหารบกสำเร็จ