ศบค. เคาะแล้ว ไม่ปรับสีจังหวัด มาตรการผ่อนคลายให้นั่งทานในร้านตามเงื่อนไข เปิดห้าง ร้านเสริมสวย ร้านนวดเฉพาะนวดเท้าในพื้นที่นำร่อง แต่ยังคงเคอร์ฟิว 3 ทุ่มถึงตี 4 เริ่ม 1 ก.ย.นี้
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ส.ค. 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่เสร็จสิ้น ครบกำหนดการประเมินในวันที่ 31 ส.ค. 2564 มีมติที่น่าสนใจดังนี้
ที่ประชุม ศบค. ไม่มีการปรับระดับพื้นที่สีจังหวัด แต่มีการปรับมาตรการเข้มข้นขึ้น และผ่อนคลายกิจการกิจกรรมบางส่วน ปรับการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด-19 โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ยังคง 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 11 จังหวัด ตามมติเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 พร้อมคงมาตรการทางสังคม Work From Home และเคอร์ฟิว 21.00-04.00 น. ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้มต่อไปอีก 14 วัน รวมถึงยกระดับมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลสูงสุด (Universal Prevention)
...
นอกจากนี้ เน้นฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ให้บริการและใช้ชุดตรวจ ATK ส่วนลูกค้าต้องร่วมมือมาตรการของร้านอย่างเข้มงวด ต้องมีการฉีดวัคซีน และการตรวจ ATK ก่อนเข้ารับบริการ เป็นมาตรการที่จะทำให้กิจการกิจกรรมต่างๆ เปิดได้มากขึ้น แต่ต้องติดตามกำกับติดตามเข้ม เริ่มใช้ 1 ก.ย. ในพื้นที่นำร่องและสถานที่ที่มีความพร้อม อาทิ ร้านอาหาร ยังไม่มีผลบังคับใช้ทุกร้านและสถานประกอบกิจการ
การเปิดกิจการ/กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ภายใต้มาตรการที่กำหนด ได้แก่
1. การเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้
2. การเปิดบริการของร้านอาหาร ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 75% มีเครื่องปรับอากาศ 50%
3. การปรับมาตรการสำหรับกิจการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์
4. การเปิดกิจการ/กิจกรรมบางประเภท ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม (เฉพาะตัดผม) ร้านนวด เฉพาะนวดเท้า
5. การใช้อาคารของสถานศึกษา
6. การเปิดใช้สนามกีฬา
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้เป็นการอนุญาตให้เปิดในเบื้องต้น บางกิจการเปิดได้ต้องทำให้ปลอดภัย และต้องไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อที่เป็นอันตรายสูงขึ้น.