รัฐบาลยืนยัน จัดมาตรการดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยง ติดโควิด และกำพร้าจนโต เผย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงมีพระราชประสงค์รับเด็กที่ผู้ปกครองเสียชีวิตจากโควิด เป็นนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์

วันที่ 8 ส.ค. 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการและเพิ่มศักยภาพในการเข้าดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยระบบการดูแลแบบแยกกักตัวที่บ้าน/ชุมชน เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม จำนวนเตียง เพื่อดูแลผู้ป่วยระดับที่มีอาการและอาการหนัก ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชน เอกชน และอาสาสมัครอย่างดียิ่ง

สำหรับผู้ป่วยเด็กที่พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้การดูแลตามระบบสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและไม่มีคนดูแล เนื่องจากพ่อแม่/ผู้ปกครองติดเชื้อโควิด-19 จะมีการประสานเพื่อไปอยู่ที่สถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน และหากผู้ปกครองยังรักษาตัวไม่หายหรือยังไม่สามารถดูแลเด็กได้ เด็กจะได้รับการดูแลในสถานสงเคราะห์จนกว่าผู้ปกครองจะมีความพร้อม

กรณีเด็กกำพร้าเนื่องจากพ่อแม่หรือผู้ดูแลเสียชีวิตทั้งหมดจากโรคโควิด-19 เบื้องต้น พม. รายงานว่ามีจำนวน 35 คน เป็นตัวเลขที่ยังไม่ครบทุกจังหวัด คาดว่าจะมีมากกว่านี้ โดย พม. จะให้การช่วยเหลือในระยะยาวด้วย ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์รับเด็กที่ผู้ปกครองเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เป็นเด็กนักเรียนในพระบรมราชานุเคระห์ ซึ่งจะได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถเรียนได้สูงที่สุดตามความสามารถของเด็ก ซึ่ง พม. จะดำเนินการประสานขอทุนการศึกษาให้กับเด็กกำพร้าทั้งหมด และหากเด็กไม่มีญาติดูแลก็จะให้เข้าสู่กองทุนคุ้มครองเด็กที่สามารถประสานครอบครัวอุปถัมภ์ โดยจะมอบเงินดูแลจนกว่าเด็กจะจบการศึกษา

...

นอกจากนี้ พม. ยังร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต และองค์การยูนิเซฟประเทศไทย จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเด็กโควิด-19 เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยคำนึงถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา หากประชาชนพบเห็นเด็กกำพร้าหรือกลุ่มเปราะบางกำลังประสบปัญหาทางสังคมและความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรคโควิด-19 สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่

  • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300
  • สายด่วนคนพิการ 1479
  • สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ
  • อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่

น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมจากข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้เร่งเพิ่มจำนวนศูนย์พักคอย/ศูนย์แยกรักษาชุมชน และยังกำชับอยู่ตลอดให้ทุกหน่วยงานคำนึงถึงกลุ่มคนเปราะบางที่ต้องมีระบบการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าคนทั่วไป ซึ่ง กทม. ได้เปิดศูนย์พักคอยสำหรับเด็กเพื่อส่งต่อแห่งแรกไปแล้ว ตั้งอยู่บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย เขตดุสิต สำหรับเด็กอายุ 3-14 ปี มีทีมแพทย์จากวชิรพยาบาล เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วยเด็ก รวมทั้งมีอาสาสมัคร พี่เลี้ยงเด็ก ครูอาสาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมกับ พม. และสมาคมสภาคนพิการทุกประเภท เพื่อเปิดศูนย์พักคอยสำหรับผู้พิการทางสติปัญญา ณ สถาบันราชานุกูล และผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ณ อาคารศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมผู้พิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก (ศพอ.).