ในห้วงกระแสเรือแป๊ะส่อจมแหล่มิจมแหล่ แม้จะบังเอิญแต่ก็มีความหมาย ตามภาพช็อตที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เดินพูดคุยกับ 3 แกนนำหลักพรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ “เดอะท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา

หลังพบหารือกับรองประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่นักข่าวมโน “โชว์ปึ้ก” ท่ามกลางแรงเสียดทาน ม็อบจี้ให้พรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาล ถามไปที่คนในภาพว่าผู้นำส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ ได้รับคำตอบจากนายวราวุธ ไม่มีอะไรในกอไผ่ แค่พูดจากันในมุมของงานแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องของการทำงานร่วมกันในรัฐบาลก็เป็นไปตามปกติ นายกฯเน้นแต่เรื่องงาน ไม่พูดเรื่องการเมือง

สรุปความตามท้องเรื่อง พายุหนักหน่วงยังไง ก็ไม่มีใครโดดเรือหนี ตามฟอร์มธรรมชาตินักการเมืองอาชีพแบบไทยๆกระแสภายนอก แรงขย่มของม็อบไม่มีผลแต่อย่างใด ต่อให้เอาช้าง 100 เชือก รถสิบล้อมาลากก็ยากที่ยี่ห้อภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์จะถอนตัวจากรัฐบาลตราบใดที่ยังมีโอกาสแชร์เกมอำนาจและผลประโยชน์

ละครซาดิสต์ตบจูบเลือดกบปากจะดำเนินต่อไป เส้นใยบางๆที่เกาะเกี่ยวพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ขาดง่ายๆ และนั่นก็หมายรวมถึงสถานะของผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ยากที่จะแซะโดยกระบวนการหักเสียงโหวตในสภาฯ

แต่ที่การันตีไม่ได้ก็คือ เส้นทางยาวๆที่แผ้วถางทางกันไว้ ภายใต้ความผิดพลาดการบริหารจัดการมหาวิกฤติโควิด ทำให้ขุมพลังอำนาจ 3 ป. ถดถอยลงไปมหาศาล ติดเชื้อไวรัสมรณะงอมแงมกันทั้งรัฐบาลผสม

...

ตามปรากฏการณ์ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง “เสี่ยเก่ง” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย คนใหม่ แทน “เสี่ยฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้

ปิดเกม ยื้อยุดฉุดกระชากลากกันมา 2–3 สัปดาห์ โดยเฉพาะยุทธการ “เสือข้ามห้วย” ที่ชื่อของ “ปลัดตุ๋ม” นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่มีแรงผลักดันจาก นายฉัตรชัย โดย “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เสิร์ฟเข้าที่ประชุม ครม. และไฟเขียวจากขาใหญ่บ้านป่ารอยต่อฯ

แต่ต้องเด้งกลับ เพราะรอเช็ก “สัญญาณพิเศษ” และสุดท้ายหวยก็ออกมาที่ชื่อของ “เสี่ยเก่ง” ฟื้นกลับมาจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลุยขุดหนอง ถมโคก ดำนา กลายเป็นปลัด มหาดไทยที่มีเมียรวยสุดในประวัติศาสตร์คลองหลอด ซึ่งพลันที่โผปลัดมหาดไทยคลอด อีกมุมก็ส่อ “แท้ง” เหมือนกัน

ตามรูปการณ์ โยงถึงการตั้งพรรคการเมืองของ “เสี่ยฉิ่ง” น่าจะไปต่อลำบาก เพราะไม่ได้น้องรักอย่าง “ปลัดตุ๋ม” มาเป็นทีมแบ็กอัปคอยหนุน แรงส่งของ “บิ๊กป๊อก” และทีม 3 ป. สะดุดตอ การต่อโปรโมชันอำนาจตามพิมพ์เขียวชักไม่ชัวร์

และว่ากันตามแนวโน้มสถานการณ์ การตั้งปลัดมหาดไทยคนใหม่ หลังต้องเช็ก “สัญญาณพิเศษ” และยังลามไปสะดุดแผนการที่ “ขาใหญ่” จ้องดันเพื่อนเสียบปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ 

เกมพลาด ล้มทั้งกระดาน สัญญาณชัด หมากกลเดินผ่าน “นอมินีข้าราชการ” อยู่ในจุด “ย่ามใจ” เกินไปไม่ได้แล้ว ตามรูปการณ์ ส่อแววกระเทือนหมากกระดานการเมือง ตามท้องเรื่องผ่านมา 7 ปี ทีมทหารเฒ่า 3 ป. เชี่ยวกลเกมอำนาจภายใต้ปลายกระบอกปืน ในแบบฉบับฝ่าย เสธ.กองทัพ

แต่ในมุมการเมืองยังห่างชั้นกับนักเลือกตั้งอาชีพ เขี้ยวสู้ “2 น.” ยี่ห้อภูมิใจไทยไม่ได้ แบบที่เห็นๆเกมไล่เก็บแต้มจากวัคซีนโควิดแลกกับเสียงด่า ที่อื่นยังไม่ได้เข็มแรก แต่การฉีดบูสต์เข็ม 3 ไปโผล่จังหวัดบุรีรัมย์ เมืองหลวงทีม

เซราะกราว ยังไม่นับพื้นที่ ส.ส.ยี่ห้อภูมิใจไทยที่ฉีดเปอร์เซ็นต์สูงกว่าคนอื่น ตามอาการที่คนของพรรคพลังประชารัฐโวยวาย พรรคร่วมรัฐบาลอื่นมองค้อน

หรือการจัดรถไฟขบวนพิเศษส่งผู้ติดเชื้อโควิด–19 กลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา หมุดหมายปลายทางขบวนแรกอยู่ที่ 7 จังหวัดภาคอีสาน บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และนครราชสีมา โซนอีสานใต้ ฐานคะแนนยี่ห้อภูมิใจไทยล้วนๆ

ล่าสุด “เสี่ยโอ๋” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นำทีมเปิดหวูดรถไฟฟ้าสายสีแดง ประกาศให้ขึ้นฟรี 4 เดือน โชว์อีเวนต์ ชิงเหลี่ยมเคลมตีปี๊บผลงาน สวนทางมาตรการล็อกดาวน์กรุงเทพฯและปริมณฑล

แม้แต่ “บิ๊กตู่” ยังทำได้แค่เป็นประธาน “กดปุ่มออนไลน์” คนอื่นแหยง ไม่กล้า แต่ทีมเซราะกราวลุย.

ทีมข่าวการเมือง