จตุพร พรหมพันธุ์ นำกลุ่มไทยไม่ทน ชุมนุมไล่บิ๊กตู่ พรุ่งนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล โว ยังไงพล.อ.ประยุทธ์ ก็หนีสัจธรรมทางอำนาจทางการเมืองไปไม่ได้ อยู่ไม่เกิน 3 เดือน บอกอย่าได้กลัวโควิด-19 ลั่นยึดสันติวิธี 

วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีพีซทีวี (Peace TV) กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าว ถึงแนวทางการจัดกิจกรรมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย. 2564)

โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า นับตั้งแต่กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้เคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2564  จนกระทั่งบัดนี้ วันพรุ่งนี้ก็ คือ สมรภูมิที่ใหญ่ขึ้นดังที่เคยประกาศเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ายังไง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 3 เดือน และยังคงยืนยันเช่นนั้น แม้ว่าตนจะต้องถูกจัดการก่อนใน 2 สัปดาห์นี้ก็ตาม แต่พล.อ.ประยุทธ์ หนีสัจธรรมทางอำนาจทางการเมืองไปไม่ได้

...

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ที่มีสื่อบางสำนักเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีทางที่จะนำมาเกี่ยวข้อง 

“พวกผมได้พูดถึงกรณีมาตรา 112 พล.อ.ประยุทธ์ คือ สาเหตุที่สำคัญ อยู่วันดีคืนดี ไปประกาศว่า จะไม่เอาโทษในคดี 112 ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเอาโทษ ทำให้มีคนต้องไปติดคุกมากมาย” นายจตุพร กล่าว...

ขณะความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 นายจตุพร กล่าวว่า “อย่าได้กลัว” หลายคนได้แสดงความเป็นห่วง ไม่อยากให้มีการชุมนุมช่วง โควิด-19 ระบาด ตนได้บอกว่า พวกเราทุกคนได้พยายามทุกวิถีทางแล้วทุกครั้ง ที่สามารถทำได้อย่างครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อไม่เป็นผลสำเร็จไม่ได้รับการตอบสนองจาก พล.อ.ประยุทธ์ การลงถนนจึงเป็นมาตรการสุดท้าย และการชุมนุมในครั้งนี้จะยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี จะไม่ใช้วิธีการอย่างอื่น

“วันพรุ่งนี้จะเป็นการวัดหัวใจประชาชนว่า เราจะอยู่ภายใต้ระบอบประยุทธ์ต่อไปหรือไม่ ถ้าเราทนไม่ได้ ร่วมสำแดงพลัง วันพรุ่งนี้ 16.00 น. ที่สะพานผ่านฟ้าฯ นั้น เราจะปราศรัยอย่างเป็นระบบ และยืนยันใช้แนวทางสันติวิธีเท่านั้น หากเราไม่สู้เราก็อยู่ภายใต้ระบอบประยุทธ์นี้ ตราบนานเท่านาน” นายจตุพร กล่าว...

ขณะ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวว่า ได้ให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ มามากพอสมควรแล้ว เช่นเดียวกับประชาชนไทยอีกหลายคน ปรากฏว่า เวลาที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับความสุขดังที่หวังไว้ สิ่งที่กลับได้คือการถูกโกง โกหกหลอกลวง การเอาเปรียบ จากการที่นำพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาสืบทอดอำนาจ

“ส่วนของเรื่องการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นหัวข้อหนึ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อ้างในการทำรัฐประหาร แต่ปรากฏว่า ระยะเวลาที่ตัวเองเข้าสู่อำนาจการทุจริตคอร์รัปชันกลับไม่เคยลดลง มีแต่กลับเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ประเทศเสียหายจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นในฐานะที่เป็นองค์กรภาคประชาชนนะครับที่ติดตามตรวจสอบในเรื่องของความไม่โปร่งใสแล้วก็การทุจริตคอร์รัปชันมาทุกรัฐบาล ทุกยุค ทุกสมัย จึงต้องเรียนกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ว่าเราคงจะทนต่อไปอีกไม่ได้แล้วที่จะให้พวกกบฏที่ยึดอำนาจไปจากประชาชน สืบทอดอำนาจอีกต่อไป ถ้าอยู่ยาวแล้วทำให้ประเทศเจริญเหมือนประเทศสิงคโปร์นี้จะไม่มีปัญหาเลย” นายวีระกล่าว

นายวีระ พูดถึงการปฏิรูปว่า ไม่มีอะไรสำเร็จเลยแม้แต่เรื่องเดียว และทุกอย่างที่อ้างเพียงแค่ซื้อเวลา หาแต่ประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้องคืนความสุขให้กับนายทุนเจ้าสัวเพียงไม่กี่ราย

นอกจากนี้ นายวีระได้พูดเชิญชวนให้ประชาชน ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ในเวลา 19.00 น. โดยนายวีระอ้างว่า เป็นการ “บอกกับคนทั้งประเทศ บอกกับคนทั้งโลกว่า ทำไมถึงต้องขับไล่ประยุทธ์ออกไป”

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมจะเริ่มต้นในเวลา 16.00 น. ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ จะมีการปักหลักตั้งเวทีปราศรัย ก่อนที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อไป ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด

นอกจากนี้ ในการแถลงข่าวยังมีแกนนำจากกลุ่มอื่นๆ ร่วมแถลงอีกด้วย อาทิ นายนันทพงษ์ ปานมาศ แกนนำเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นายณัทพัช อัคฮาด ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภา 2553 นายไทกร พลสุวรรณ์ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ และนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา '35

โดยนายนันทพงษ์ แกนนำเครือข่ายรามคำแหงฯ ได้นัดหมายทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เวลา 12.00 น. ก่อนจะเคลื่อนพลไปสมทบกับกลุ่มไทยไม่ทน ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และทำเนียบรัฐบาล ตามลำดับ