“ธรรมนัส” ย้ำ พา พปชร.เป็นรัฐบาลพรรคเดียว แย้ม เตรียมทีมเศรษฐกิจไว้แล้ว แต่ไร้ชื่อ “นฤมล” แจง นั่งเลขาฯพรรค เปล่าอยากอัปเลเวล เป็น รมว.มหาดไทย ยังหนุน “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ
วันที่ 21 มิ.ย. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการ พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าจะนำพา พปชร.ขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งและเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ว่า เราต้องไปสร้างทิศทางของตัวเอง ในหลายเรื่องหลายประเด็น สิ่งไหนที่เราทำดีแล้วจะทำต่อไป สิ่งไหนที่ยังไม่ทำ จะเริ่มทำ โดยเฉพาะนโยบายที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ปี 62 มีหลายเรื่องที่ทำไปแล้วและหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ ตอนนี้เหลือเวลาอีก 2 ปี ต้องรีบทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีการเตรียมทำนโยบายที่ยังไม่ได้ทำเอาไว้แล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมา แอบเตรียมไว้บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเข้มแข็งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการสร้างความรักความสามัคคีในสังคมไทย โดยเริ่มทำไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์
เมื่อถามว่า จะมีการเตรียมทีมเศรษฐกิจไว้ด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แอบเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งจะต้องมีการประชุมกันในสัปดาห์หน้า ขออนุญาตไม่เปิดเผย
เมื่อถามว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรค กับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลในอนาคต มีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี ส.ส.ในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า การเตรียมการอะไรต่างๆ ตอนนี้ ประเมินว่า จะมีการยุบสภาหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มองว่ามันไม่ใช่ เวลานี้ถ้ายุบสภา จะเดือดร้อนประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังยุบสภาไม่ได้ เพราะรัฐบาลต้องบริหารประเทศให้หลุดพ้น
...
เมื่อถามว่า จะเร็วไปหรือไม่ที่ประกาศว่า จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในเวลานี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ต้องใช้เวลา สิ่งสำคัญที่สุดต้องทำให้ตัวเองมีความเข้มแข็ง ทำองค์กรและครอบครัว พปชร.ให้มีความเข้มแข็ง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า เราสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
เมื่อถามว่า นักวิชาการมองว่า การปรับทัพของ พปชร.ครั้งนี้ จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ร.อ.ธรรมนัสเอง จะขยับไปนั่งในตำแหน่งสำคัญอย่าง รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่า เรื่องนี้เป็นคนละประเด็น คนละเรื่องกัน การปรับ ครม.เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี นายกฯ จะใช้ดุลยพินิจของตัวเองว่า จะปรับหรือไม่ปรับ ครม. ส่วนเรื่องของ พปชร. เป็นนโยบายของหัวหน้าพรรค มันเป็นคนละเรื่องกัน และส่วนตัวไม่ได้คิดอะไรไปอย่างนั้น คิดอย่างเดียวว่า วันนี้ พรุ่งนี้ จะทำให้ครอบครัว พปชร. โดยความร่วมมือจากสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ทำให้ดี เดินหน้ากันไป เพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้น การปรับ ครม.คงไม่ใช่
เมื่อถามว่า เรื่องเตรียมตัวการเลือกตั้ง ได้มีการประสานกับผู้สมัครจากพรรคอื่นให้มาสมัครในนามของ พปชร.บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเตรียมตัวผู้สมัครเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเริ่มแล้วถึงแม้ว่า ระยะนานสุด คือ 2 ปี เราเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสม ที่จะเป็นตัวแทนประชาชนในเขตนั้นๆ ไม่ใช่ว่าใกล้เวลาแล้วค่อยมาหา
เมื่อถามว่า ตอนนี้อยากได้คนที่มีฐานเสียงเดิมอยู่แล้วมาอยู่กับ พปชร.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ ส.ส.แบบแบ่งเขต เราทุกคนมีคุณภาพ และลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องผู้สมัครรายใหม่ ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคระบุว่า ต้องเฟ้นหาแล้ว ส่วนจะเป็น ส.ส.ปัจจุบันหรือคนรุ่นใหม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาที่ต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่า ในภาคอีสานที่เหมือนเป็นจุดอ่อนของ พปชร. ขณะนี้ได้ทาบทาม ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ไว้บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเป็นคนมีมารยาทในการเล่นการเมือง ถ้าไม่จำเป็นเราไม่เอา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมาจากความสมัครใจ แต่เลือกที่จะสร้างคนใหม่ๆ มากกว่า เมื่อถามว่า หากมีนักการเมืองพรรคอื่นย้ายเข้ามา พร้อมที่จะรับใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องไม่เป็นที่ครหา ไม่เป็นข้อพิพาทระหว่างพรรค
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านยังคงกังขาเรื่องคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส ที่มานั่งในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อดีตไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขให้เป็นปัจจุบันได้ อดีตหลายเรื่องตนได้ชี้แจงต่อสภา ต่อสื่อมวลชน อย่างประเด็นที่เรื่องบุคคลร้องหน่วยงานต่างๆ แต่ในฐานะที่เป็นนักการเมือง โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ไม่ใช่พอถูกตรวจสอบแล้วร้องโวยวาย ไม่ใช่สไตล์ตน ตนพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และเมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบในแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็น คนที่ไปร้องเรียนตนก็ต้องยอมรับในกติกาการเมือง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ตนต้องทำการบ้านเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรี
เมื่อถามว่า ข้อกังขาครั้งนี้มันลามไปถึง พล.อ.ประวิตร ด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกคนที่ตัดสินใจให้ตนมาเป็นเลขาธิการพรรค ตระหนักอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรามีความมั่นใจว่า จะเดินไปข้างหน้าเพื่อประชาชน คำตอบสุดท้ายของการเล่นการเมือง คือ ไม่ใช่การสาดโคลนเข้าหากัน แต่คือทำอะไรให้ประชาชน
เมื่อถามว่า หาก พปชร.ชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า จะชู พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การก่อตั้ง พปชร.ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ และเราก็ทำได้ ตนยืนยันว่าในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ผู้นำต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดขาด ช่วงเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมมากไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พล.อ.ประวิตร ให้นโยบายและดูแลพวกเราได้เดินตามนโยบายที่ท่านวางไว้
เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำหลักฐานแจ้งความกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดให้ดำเนินคดี ร.อ.ธรรมนัส ข้อหาครอบครองเฮโรอีน จำนวน 3.2 กิโลกรัม ไว้เพื่อจำหน่าย จะต่อสู้ในกรณีนี้อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เฉยๆ เพราะถูกกระทำมาสองปีกว่าเต็มๆ ผมก็เข้าสู่กระบวนการทดสอบมาทุกจุด ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้ง ป.ป.ช. ทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็พร้อมถูกตรวจสอบ และพร้อมสู้ แต่ไม่ได้โกรธ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่ง เป็นเรื่องปกติ อย่าไปเครียด ถ้าเล่นการเมืองแล้วเครียด เรื่องสาดโคลนไปไม่รอด สิ่งเหล่านี้ไม่ทำลายอุดมการณ์ของผม”