“ประยุทธ์” นับถอยหลัง 1 ปีเรือแป๊ะ ขันนอตสั่ง ครม.เร่งปั่นผลงาน อ้อนขอความเข้าใจพรรคร่วมฯ ลั่นเสียงเข้ม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ต้องผ่าน “วิสาร” จวกดิ้นขอกู้เงินหนีการตรวจสอบ “ศิริกัญญา” ห่วงงบฯปี 65 สะท้อนเศรษฐกิจไทยสุดเปราะบาง “จิรายุ” ข้องใจเงินยึดทรัพย์จาก “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” หลายหมื่นล้านล่องหน ไม่โผล่ในงบฯ ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์เชือด “บิ๊กติ๊ก” น้องนายกฯตู่ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ชี้มูลความผิดฟันอาญา 3 ส.ส.ภูมิใจไทย 1 ส.ส.พปชร.เสียบบัตรแทนกัน “พล.อ.ปรีชา” บอกปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม
หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่ารัฐบาลบริหารงานล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ พร้อมกับเกิดปัญหาความขัดแย้งกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ขอความเห็นใจ พร้อมสั่งกำชับพรรคร่วมรัฐบาลในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเวลาที่เหลือ 1 ปีจากนี้ ขอให้เร่งสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้
...
“บิ๊กตู่” นับถอยหลัง 1 ปีสั่งเร่งผลงาน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่อมาเวลา 12.55 น. นายกฯแถลงภายหลังประชุม ครม.ผ่านไลฟ์เพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าว่า ได้สั่งการจำเป็นต้องเร่งรัดหลายกิจกรรมในช่วง 1 ปีที่ยังเหลืออยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน และเตรียมพร้อมจะทำอะไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ส่งต่อให้รัฐบาลวันข้างหน้าต่อไป ตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนงาน 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ถ้าไม่ทำแบบนี้จะไม่ต่อเนื่อง 1 ปีนี้ต้องมีผลสำเร็จจับต้องเป็นรูปธรรมได้ว่าเราแก้ไขปัญหาอะไรไปแล้วบ้างและอีก 1 ปีข้างหน้าจะทำอะไรเตรียมแผนเอาไว้ ทุกคนต้องเข้มแข็ง อดทน เพิ่มขีดความสามารถให้สอดคล้องกับมาตรการต่างๆที่ออกมา
ทำขึงขังใช้งบฯคุ้มค่า-ห้ามทุจริต
นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลยืนยันงบฯที่มีอยู่จะใช้อย่างคุ้มค่า ย้ำในที่ประชุม ครม.เสมอมาให้ระมัดระวังการทุจริต ความไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรมอะไรแล้วแต่ มีคำพูดกล่าวหามากมายขณะนี้ ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลหรือ ครม.มีหน้าที่อนุมัติหลักการและอนุมัติการใช้จ่ายเงิน แต่ขั้นตอนดำเนินการเป็นเรื่องหน่วยงาน คณะกรรมการต่างๆต้องรับผิดชอบ ตนรับผิดชอบในฐานะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารตามลำดับชั้น ยืนยันจะทำทุกอย่างให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ไม่ละเว้นใครแม้แต่คนเดียว จะทำให้มากที่สุดและทุกจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะคนรักคนชอบ มันไม่ใช่ ขอให้ระมัดระวังความขัดแย้งที่มันจะเกิดขึ้น ทำให้บ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ ขอให้รับฟังคำชี้แจงอันเป็นประโยชน์เป็นข้อเท็จจริงในการพิจารณางบฯในชั้นกรรมาธิการ ยืนยันหากมีงบฯอะไรที่แปรญัตติมาแล้ว จะนำมาบริหารเพิ่มให้มากขึ้น ที่ลดน้อยลงไปตามความจำเป็น ฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบต่อไปในอนาคต ขอความร่วมมือด้วย
อ้อน ครม.ขอเพียงความเข้าใจ
“ในฐานะนายกฯ อยู่กับท่านมาหลายปีมาแล้ว ทุกคนคงทราบดีว่ามีความตั้งใจอย่างไร เจตนาของผมเป็นอย่างไร ขอเพียงให้ทุกคนเข้าใจ ไม่เคยบังคับอะไรท่านได้ เพราะเป็นเรื่องประชาชนที่ต้องการ ผมฟังทุกคนทุกภาคส่วน ปัญหาอะไรที่ทับซ้อนยาวนาน บางอย่างเกี่ยวข้องกับกฎหมาย กฎกระทรวง พยายามแก้ไขให้ได้ทุกอย่าง ขอเพียงความเข้าใจ ความร่วมมือ ขอเพียงเท่านี้” นายกฯกล่าว
โปรยหวาน “จุรินทร์” ตามงาน “เสี่ยหนู”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ช่วงท้ายอ่านรายงานความเคลื่อนไหวและความคืบหน้าเรื่องสำคัญทั่วโลกให้ที่ประชุมฟัง พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกคนช่วยกันทำงานให้เป็นรูปธรรม เวลาที่เหลือให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา 1 ปีหลังจากนี้ให้ลองทำดู ความยากจนมอบให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก ขอให้ทำงานด้วยความโปร่งใส สุจริต ต่อมาได้เอ่ยปากชมโครงการจับคู่กู้เงินของกระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ว่าเป็นโครงการที่ดี ถ้าใครมีโครงการดีๆแบบนี้ให้นำมาเสนอ และถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุขว่าในเดือน มิ.ย.จะฉีดวัคซีนได้กี่โดส นายอนุทินตอบว่าจะทำให้ยอดรวมสิ้นเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 7.5-8 ล้านโดส ในสัปดาห์นี้เตรียมทำสัญญาจองวัคซีนไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันรวม 25 ล้านโดส
กำชับเข้มพรรคร่วมฯ พ.ร.ก.ต้องผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้นายกฯได้เน้นย้ำกำชับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทในวันที่ 9 มิ.ย.ว่า ให้ทุกคนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะการโหวตต้องให้ผ่านต้องเป็น ไปด้วยความเรียบร้อย ขอฝากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงให้ครอบคลุมชัดเจนด้วย
ปชป.-ภท.ฟุ้งยุบสภาพร้อมทุกเมื่อ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสการยุบสภาว่าเป็นอำนาจนายกฯ ไม่อยู่ในฐานะจะตอบได้ว่ามีหรือไม่มีเมื่อไหร่ แต่พร้อมเตรียมการมาต่อเนื่อง ผู้สมัคร ส.ส.คืบหน้าไปมาก กทม. 30 เขตเคาะแล้วกว่า 20 กว่าเขต สัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ก.รุ่นใหม่อีก 1 ชุด ภาคใต้ 50 เขตขาดอีกไม่กี่เขต ภาคอื่นคืบหน้าเช่นกัน
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม ส.ส. มีการชื่นชม ส.ส.ที่อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ได้ตรงประเด็น ครอบคลุมเนื้อหา จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ว่า พ.ร.ก.กู้เงินฯการอภิปรายเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ไม่ใช่หัวหน้าพรรคจะสั่งการได้ทุกอย่าง ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทยไม่ได้อภิปรายอย่างราชสีห์แล้วโหวตอย่างหนู หนูนี่แหละที่ช่วยราชสีห์ ที่นายกฯให้รัฐมนตรีเร่งทำงานใน 1 ปีตรงกับกระแสข่าวยุบสภา ยืนยันภูมิใจไทยพร้อมทุกวัน เราเป็นปึกแผ่นไปไหนไปด้วยกัน ใครเจ็บเราเจ็บด้วย ใครดีใจเราดีใจด้วย
“ชวน” ไฟเขียวลากยาวถึง 10 มิ.ย.
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการอภิปราย พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงิน 5 แสนล้านบาทว่า ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลได้เวลาอภิปรายฝ่ายละ 9 ชั่วโมง หากประชุมไม่แล้วเสร็จในวันที่ 9 มิ.ย. ประชุมต่อได้ในวันที่ 10 มิ.ย.เวลา 10.30 น.เพื่อลงมติต่อไป นายกฯต้องมาชี้แจง พ.ร.ก.ด้วยตัวเองต่อที่ประชุมสภาหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล เมื่อถามว่าตอนประชุม กมธ.งบฯปี 64 มีปัญหาสมาชิกไปตบทรัพย์ ทำให้ข้าราชการออกมาร้องเรียน นายชวนตอบว่าสภาฯส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการแล้ว ส่วนการพิจารณารอบนี้ทุกคนต้องช่วยกันจับตาดู
อบรม ตร.สภาเข้มไม่ต้องเกรงใจใคร
ก่อนหน้านี้ เวลา 11.00 น. นายชวนกล่าวให้โอวาทเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาตอนหนึ่งว่า ทุกองค์กรมีคนดีและไม่ดี คนดีปกครองบ้านเมืองก็เคารพกติกา คนไม่ดีปกครองบ้านเมืองก็ทุจริตโกงกิน ต้องไม่เหมาว่าไม่ดีทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาขอให้ทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร รักษาระเบียบวินัยให้ดี ทำหน้าที่จริงจังแต่สุภาพ ขอให้กำลังใจ อย่าไปทำหน้าที่ผิดมารยาทหรือเกินหน้าที่ แต่อย่าดูดาย เห็นอะไรไม่ถูกต้องก็เตือน ผู้ติดตาม ส.ส.นี่ได้ยินบ่อย เช่น ฉีดวัคซีนที่สภาฯ ผู้ติดตามนักการเมืองคนหนึ่งพูดไม่ดีกับเจ้าหน้าที่พยาบาลเป็นเรื่องตัวบุคคล
ซัด “บิ๊กตู่” หนีตรวจสอบพอกหนี้ ปชช.
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะกู้เงินให้เป็นภาระหนี้บุตรหลาน ที่ผ่านมาเงินกู้ 1 ล้านล้านที่รัฐบาลจะนำไปฟื้นฟูประเทศและช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่มีอะไรดีขึ้นเป็นเพียงวาทกรรม เงินกู้หมดไปกับโครงการหาเสียงมากกว่าใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่ขอกู้ และยังเกิดข้อครหาคอร์รัปชัน แต่การตรวจสอบการใช้เงินกู้ทำได้ยากมาก ที่เลือกออกเป็น พ.ร.ก.เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการใช้เงิน ถือว่าไม่ให้เกียรติประชาชน ควรนำเงินที่กู้ 5 แสนล้านบาทไปจัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุดมาฉีดให้ประชาชน นายกฯรู้ดีว่าวัคซีนมีความหมายกับประชาชนมากแค่ไหน แต่ทำไม่ได้ น่าอายที่รัฐบาลมีอำนาจมาก แต่ทำงานไม่เป็น
“ศิริกัญญา”ขยี้งบฯ 65 เปราะบาง
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ก้าวไกล ในฐานะ กมธ.งบปี 65 กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้าชี้แจงในที่ประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ทำให้พบความเปราะบางของเศรษฐกิจที่ต้องคำนึงถึงปี 63-64 รัฐบาลจัดเก็บรายได้พลาดเป้าต้องกู้เงินชดเชยขาดดุลจนเต็มเพดาน และปี 64-65 มีความเสี่ยงจะเก็บรายได้พลาดเป้าจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ การตั้งงบฯที่ตั้งกู้ชดเชยขาดดุลเต็มเพดานตั้งแต่ต้น ถ้าจัดเก็บไม่เข้าเป้าแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว จะทำให้มีงบฯไม่พอใช้ ถึงจะจัดเก็บภาษีได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่ในภาวะความไม่แน่นอนแบบนี้ การประมาณการรายได้อาจพลาดเป้าได้ โจทย์คือเราจะมีวิธีออกแบบงบฯอย่างไรให้สอดรับกับสถานการณ์
งงยึดทรัพย์2 อดีตนายกฯไม่มีในงบฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 มีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. รองประธาน กมธ.ทำหน้าที่ประธาน เชิญหน่วยงานกระทรวงการคลังมาให้ข้อมูล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย โฆษก กมธ.กล่าวว่า กมธ.ตั้งข้อสังเกต 3 ประเด็น คือ 1.สอบถามกรณีการยึดทรัพย์จาก 2 อดีตนายกฯ หลายหมื่นล้านบาท รัฐบาลเอาไปเก็บไว้ที่ใด ไม่มีรายงานงบฯในส่วนนี้ ผู้แทนสำนักงบฯตอบไม่ได้ บอกแค่จะไปหาข้อมูลมา 2.พล.อ.ประยุทธ์ชอบอ้างรัฐบาลชุดนี้ต้องจ่ายเงินใช้หนี้แทนรัฐบาลก่อนในโครงการจำนำข้าว หากนายกฯคนต่อไปเข้ามาบริหารบ้านเมืองจะอ้างต้องนำเงินไปใช้หนี้ให้นายกฯคนที่แล้วบ้างได้หรือไม่ 3.กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ใช้เงินหลายแสนล้านบาทออกมาตรการเยียวยาประชาชน กระทรวงการคลังจะหาเงินจากไหนไปคืน หากรัฐบาลชุดต่อไปเป็นพรรคเพื่อไทยเข้ามาจะใช้ชื่อกองทุนเพื่อไทยเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้หรือไม่ ต้องเป็นบรรทัดฐานใช้ชื่อพรรคเป็นชื่อโครงการของตัวเอง
“แฮงค์” ไม่รู้เรื่อง พปชร.ประชุม 20 มิ.ย.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐเตรียมประชุมใหญ่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ จ.ขอนแก่น ว่า ยังไม่ทราบ กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ เมื่อถามว่าเป็นเลขาธิการพรรคมีข่าวออกมาเช่นนี้ ยังไม่ทราบอีกหรือ นายอนุชากล่าวว่า ยังไม่มีการแจ้งเข้ามา ยังไม่เห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพูดว่าอะไร ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ส่วนกระแสข่าวจะปรับเลขาธิการพรรค ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน แต่ยืนยันว่ายังไม่เคยได้ยิน หัวหน้าพรรคยังไม่ได้ว่าอะไร จึงสรุปว่ายังไม่มีประเด็น เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจใน ตำแหน่งเลขาธิการพรรคใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ได้คิดอย่างนั้น
นายกฯสั่งเฟ้น ก.ม.คุมสื่อออนไลน์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า นายกฯและ รมว.กลาโหม มอบหมายในที่ประชุม ครม.ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดูข้อกฎหมาย และศึกษากฎระเบียบการออกกฎหมายควบคุมเนื้อหาในสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย โดยศึกษาจากในต่างประเทศเสนอให้ ครม.พิจารณา หมายรวมไปถึงแพลตฟอร์มต่างๆที่มีผู้ติดตามจำนวนมากด้วย เพราะ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ใช้เวลานานฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ทันต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน เพื่อลดความขัดแย้ง ลดคดีความ แต่ไม่ใช่ให้ไปเขียนกฎหมายเพียงแต่ให้ไปศึกษากฎหมายจากต่างประเทศที่เริ่มใช้กัน เมื่อถามว่าการศึกษานี้ต้องการพุ่งเป้าไปที่คลับเฮาส์หรือไม่ นายอนุชาตอบว่า การพูดคุยไม่ได้ลงลึก ไม่ได้เอ่ยว่าแพลตฟอร์มอะไร
สองกลุ่มพร้อมใจไล่ “บิ๊กตู่” ไขก๊อก
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล กลุ่มไทยไม่ทน “คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และครม.ลาออก โดยนายจตุพรกล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลผิดพลาด ผูกขาดฉ้อฉลอำนาจเพื่อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง ภายหลังสนับสนุนให้กลุ่มทุนต่างๆ เช่น กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนค้าปลีก กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ ยึดครองประเทศ มีอำนาจเหนือรัฐบาลและรัฐสภา วันนี้ยิ่งกว่าคำว่าทุนสามานย์ วันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นหนังสือต่อประธานวิปฝ่ายค้าน ขอให้ ส.ส.ฝ่ายค้านลาออก
ขณะที่เวลา 14.00 น. ที่ประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล นายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) ตัวแทนกลุ่ม “ประชาชนคนไทย” ยื่นหนังสือถึงนายกฯเรียกร้องให้ลาออก ผ่านนายสาธิต สุธิเสริม รักษาการ ผอ.ส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน โดยนายนิติธรได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกก่อนวันที่ 24 มิ.ย. เพราะเดินมาจนสุดทาง การเมืองแล้ว รัฐบาลนี้มีปัญหาการทุจริต ปล่อยให้บุคคลไม่มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี
“โรม” โวย 2 ตร.บุกคุกคามเมีย
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เเถลงข่าวกรณีมีบุคคลไม่ทราบชื่อ ติดตามคุกคามตนเองและภรรยา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ได้รับแจ้งจากพนักงานประจำอาคารที่พักว่า มีชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌป3978 กรุงเทพมหานคร พยายามขอให้พนักงานเปิดประตูอาคารให้เข้าไปยังห้องพัก อ้างเป็นเพื่อนของภรรยา แต่ไม่ได้อนุญาต มีภาพบันทึกกล้องวงจรปิดไว้ชัดเจน ต่อมาวันที่ 28 พ.ค.64 เวลา 12.56 น. มีผู้ติดต่อเข้ามาที่โทรศัพท์ของภรรยา ถามปลายสายคือภรรยาตนใช่หรือไม่แล้ววางสายไป สืบข้อมูลพบเคยมีผู้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวว่า “พี่แม้ว สน.” เบื้องต้นได้เข้าร้องทุกข์ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ทราบว่าเบอร์ดังกล่าวถูกจดทะเบียนโดยคนต่างชาติ ใช้ในหน่วยงานหนึ่งของตำรวจ ทะเบียนรถเป็นไปได้จะปลอม ทราบมาว่าผู้อยู่เบื้องหลังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมียศระดับสูงมากเกี่ยวพันเรื่องตั๋วช้าง
ต่อมานายรังสิมันต์ ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า มีคนช่วยค้นเบอร์ยิ่งคอนเฟิร์มว่าเป็นเบอร์ของสันติบาล สรุปหน้าที่ตำรวจคือ ไล่ข่มขู่ตามบ้านแล้วหรือครับ ไม่อยากปรักปรำแต่ต้องรีบออกมาชี้แจง
โฆษก ตร.ยันพบ 2 ชายลึกลับจริง
ขณะที่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ค. เวลา 11.50 น.นายรังสิมันต์ ได้มอบอำนาจให้นายชุติพงษ์ ทนายความ แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังรับแจ้งฝ่ายสืบสวน ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในคอนโดลุมพินี พาร์คแล้วพบเห็นชายไทย 2 คน เข้ามาติดต่อนิติบุคคลของคอนโดตามวันเวลาที่ผู้แจ้งระบุ ผบช.ภ.1 ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนหาตัวแล้ว หากพบกระทำความผิดจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ป.ป.ช.ฟัน 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.วันที่ 8 มิ.ย. มีมติชี้มูลความผิดส.ส. 4 ราย ได้แก่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ นายภูมิศิษฐ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กรณีปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 วาระ 2-3 มีหลักฐานชัดเจนว่า ทั้ง 3 คน ไม่อยู่ในห้องประชุม และฝากบัตรลงคะแนนแทนกัน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 172 ให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีความผิดตามประมวลจริยธรรม ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูลความผิด น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. กรณีฝากบัตรให้ผู้อื่นเสียบแทน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงมีความผิดตามประมวลจริยธรรม ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาพิจารณาเช่นกัน
วานเพื่อน ส.ส.เสียบไม่ผิดอาญา
ขณะที่ ส.ส.อีก 2 ราย คือ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐนั้น ป.ป.ช.เห็นว่า กระทำผิดเฉพาะข้อบังคับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากทั้ง 2 คน อยู่ในห้องประชุมสภาแต่ยื่นให้เพื่อนเสียบแทนให้จึงไม่เข้าข่ายความผิดอาญาให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ ดำเนินการเท่านั้น ส่วนนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย และนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ป.ป.ช.มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
มติเอกฉันท์เชือด “บิ๊กติ๊ก” แจ้งบัญชีเท็จ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ที่ถูกกล่าวหาจงใจแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จ ขั้นตอนหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ พล.อ.ปรีชามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา นำพยานหลักฐานมาสืบหักล้าง หลังจากชี้แจงเสร็จค่อยมาสรุปเพื่อวินิจฉัย “ข่าวที่ออกไปว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด พล.อ.ปรีชาแล้วนั้นยืนยันว่าไม่จริง ยังไม่ได้มีการชี้มูล เป็นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น” นายนิวัติไชยกล่าว
“บิ๊กติ๊ก” สงวนท่าทีรอเรียกสอบ
พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. กล่าวว่า กรณี ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จนั้นได้ชี้แจงรายละเอียด ป.ป.ช.ไปหมดแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา คิดว่าไม่มีอะไร ส่วนมติที่ออกมาเป็นเอกฉันท์แล้วแต่ ไม่ทราบ ป.ป.ช.มีเหตุผลอย่างไร หากข่าวออกมาอย่างนี้จะชี้แจงต่อไป ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขอรอดูท่าทีก่อนว่า ป.ป.ช.จะทำอย่างไรต่อ ยังตอบไม่ได้ว่าจะพร้อมสู้ในชั้นต่อไปหรือไม่ เพราะเป็นขั้นตอนของเขา ไม่ใช่เรื่องของตน