เด็กพรรคกล้า จี้ กทม.และรัฐบาลทำงานเชิงรุก ทั้งสาธารณสุขและเศรษฐกิจ อย่าปล่อยเกิด 'คลัสเตอร์ใหม่' โควิด-19 ไปเรื่อย โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ หยุดวันเดียวก็ลำบากแล้ว 

วันที่ 5 มิ.ย. จากกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังในกรุงเทพฯ จำนวนมาก 

นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวง พรรคกล้า กล่าวว่า สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจเชิงรุกและการเร่งฉีดวัคซีนที่ตนเคยเรียกร้องมาตลอดก่อนหน้านี้ คือเกิดคลัสเตอร์ที่ไหน วัคซีนต้องถึงที่นั่น เพราะเดิมทีในเขตสวนหลวง เริ่มต้นจากการพบคลัสเตอร์ในเขตแคมป์แรงงานเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อจำกัดพื้นที่แล้วการกระจายเชื้อจะไม่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ที่พบคลัสเตอร์มากถึง 57 คลัสเตอร์ในกรุงเทพฯ เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตประจำวัน ทำให้พื้นที่ที่เป็นคลัสเตอร์มีโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อในชุมชนรอบๆ ได้สูงด้วย

นายอริย์ธัช กล่าวต่อว่า ศบค.และกทม.ต้องยอมรับได้แล้วว่า สถานการณ์โควิดในกรุงเทพมหานครถือว่ารุนแรงและกระจายได้ง่าย สิ่งที่จะชะลอสถานการณ์ได้ไม่ใช่แค่การสั่งปิดสถานที่ที่พบเชื้อเพื่อให้ดูเหมือนมีแอ็กชั่นจริงจังเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาถ้วนหน้า ออกมาให้คน กทม. เพื่อความมั่นใจในการที่พวกเขาจะหยุดทำงานหรือพบผู้คน ตัดวงจรของเชื้อได้ ขณะนี้สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ ผู้ประกอบการ ห้างร้านหรือตลาด จะถูกสั่งปิดเมื่อพบเชื้อแต่ไม่กี่วันก็ต้องเปิด เพราะเขาต้องทำมาหากิน นี่คือแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจ ที่ถูกมองข้ามมาตลอด แต่สถานการณ์แบบนี้ขอเตือนแรงๆ ว่า ถ้าไม่มีล็อกดาวน์ที่มาพร้อมการเยียวยา การรุกตรวจและการรุกฉีดวัคซีนทุกคลัสเตอร์ที่พบจะไม่มีทางหยุดการพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ และลดสถานการณ์ทางสาธารณสุขลงได้เลย

...

"สิ่งที่ทำให้คนกลัวการล็อกดาวน์นั่นก็เพราะไม่ได้มาพร้อมการเยียวยา ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน ในระดับพื้นที่ ต้องทำทันที คือ การค้นหาคัดกรองผู้ติดเชื้อกับผู้ไม่ติดเชื้อออกจากกันให้ได้ อย่างในเขตสวนหลวง ทันทีที่ประกาศเป็นคลัสเตอร์ใหม่ หน่วยตรวจเชิงรุกควรจะลงถึงชุมชน พร้อมกับหน่วยสนับสนุนด้านอาหารให้กลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจต้องกักตัวทันที 14 วัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องไปทำมาหากินซึ่งอาจนำเชื้อไปด้วย เราต้องเข้าใจพวกเขา เข้าใจความเป็นจริงของคนหาเช้ากินค่ำ พ่อค้าแม่ขาย เขาหยุดวันเดียวก็ลำบากแล้ว ยิ่งในเศรษฐกิจเช่นนี้ เขตควรต้องทำงานเชิงรุกทั้งด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขจะทำงานตั้งรับไม่ได้อีกแล้ว" นายอริย์ธัช กล่าว...