ฝ่ายค้านปักธงไม่รับร่าง พ.ร.บ. งบฯปี 65 มติ พท.โหวตคว่ำตั้งแต่วาระแรก จัดทัพ 55 ขุนพล ถล่มยับผลาญภาษีสร้างหนี้ ไม่เกิดประโยชน์ เฉ่งประเคนงบฯ สปอยล์กองทัพซื้ออาวุธ “จิรายุ” ฉะรัฐบาลจัดงบฯแบบศรีธนญชัย ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หลอกลวงประชาชน “ก้าวไกล” ลั่นไม่ไว้วางใจ “บิ๊กตู่” ละเลงงบฯถลุงเงินภาษีชาวบ้าน สะกิด อปท.รีบอุทธรณ์มา กมธ.พร้อมจัดให้ “ยุทธพงศ์” จี้ใจดำนายกฯจัดหาวัคซีนให้ประชาชนกับต่อสัญญารถไฟฟ้าอะไรสำคัญกว่า เด็ก ภท.ค้าน มท.เร่งปิดจ๊อบชง ครม.ขยายสัมปทานบีทีเอส 30 ปี สภาฯตั้งโพเดียมกั้นฉากอะคริลิกใสกันแพร่เชื้อโควิด “ชวน” เตือน ส.ส.นั่งเว้นระยะห่าง อย่าห่วงอยากโผล่จอทีวี
พรรคฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 โดยพรรคเพื่อไทยมีมติล่วงหน้าไปแล้วว่าจะไม่รับหลักการตั้งแต่วาระที่ 1 ระบุเหตุผลไม่สามารถปล่อยให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่จัดทำขึ้นแบบศรีธนญชัย ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หลอกลวงประชาชนผ่านสภาฯไปได้
...
พท.ตราหน้างบฯฉบับศรีธนญชัย
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ว่า ที่ผ่านมาเวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ส.ส.ฝ่ายค้านมักใช้วิธีการงดออกเสียงในการพิจารณาวาระแรก เพื่อให้งบประมาณผ่านไปได้ แต่จากการประชุมของพรรคเพื่อไทยพบว่าการจัดทำงบประมาณปีนี้ทำแบบศรีธนญชัย ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หลอกลวงประชาชนที่รู้ไม่ทัน โดยเฉพาะใช้เงื่อนไขและช่องว่างทางกฎหมายที่พรรคพวกตัวเองทำไว้เมื่อปี 61-62ในช่วงมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เช่น พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ พ.ร.บ.ระเบียบวินัยการเงินการคลัง เน้นเปิดช่องว่างในการกู้ ดูได้จากการจัดทำงบฯปีนี้ส่งผลไปในทางไทยจุก ไทยเจ๊งไทยไม่มีเจ๊า เนื่องจากเป็นการตั้งงบฯขาดดุลอย่างน่าตกใจ
มติโหวตคว่ำ พ.ร.บ.งบฯตั้งแต่วาระ 1
“การตั้งงบประมาณขาดดุลนั้นทำได้ แต่น่าตกใจคือปีนี้แม้จะตั้งงบฯขาดดุลแล้วยังไม่เพียงพอต่อส่วนต่างงบประมาณกับรายได้ที่คาดการณ์ว่าจะมีช่องว่างมากกว่างบฯขาดดุลที่ตั้งไว้ แล้วไปซ่อนไว้ใน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท พ.ร.ก.ตัวนี้ใช้แท็กติกในการกู้ ส่วนการจัดสรรงบฯรายกระทรวงพบว่าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากปี 63-64 ทำให้เห็นว่าถ้าปีนี้ประชาชนรู้สึกว่าหนักแค่ไหน ปลายปีนี้และปีหน้าให้คูณไปอีก 10 เท่า พรรคฝ่ายค้านจึงไม่สามารถไว้วางใจให้ผ่านงบฯไปได้ เพราะจะเป็นปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ พรรคเพื่อไทยจึงมีมติโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตั้งแต่วาระที่ 1 และจากการพูดคุยกับพรรคอื่นก็เห็นทิศทางเดียวกัน” นายจิรายุกล่าว
จัดทัพ 55 ส.ส.ถล่มสปอยล์กองทัพ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมผู้อภิปรายไว้ 55 คน ในกรอบเวลา 760 นาที จะชี้ให้เห็นความผิดพลาดและความล้มเหลวการจัดทำงบฯของรัฐบาลหลายส่วน ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเห็นพ้องต้องกันว่า ในวาระที่ 1 ทางพรรคจะไม่รับหลักการ สาเหตุหลักเพราะงบฯเป็นกฎหมายสำคัญ ถ้าปล่อยให้นำงบฯที่ตั้งโดยขาดยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาของประเทศ จะทำให้การใช้ภาษีประชาชนไม่ก่อเกิดประโยชน์ และการตั้งงบฯขาดดุลสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากไม่สร้างประโยชน์ยังสร้างหนี้ให้ประชาชน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การชำแหละงบฯปี 65 เน้นการจัดงบฯไม่เหมาะสมในสภาวะโควิด-19 ที่ควรเน้นด้านสาธารณสุข การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับเน้นจัดงบฯให้กองทัพมากมาย จัดซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำจากจีน พรรคมีมติพรรคไม่รับหลักการ พ.ร.บ.งบฯฉบับนี้ เพราะจัดมาไม่ถูกที่ถูกทาง ไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน
บี้ “บิ๊กตู่” เปิดสัญญาซื้อแอสตราฯ
นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดหาวัคซีนแอสตราเซเนกาทำไมไม่มี ตรวจสอบบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ลงนามสัญญารับจ้างผลิตวัคซีนปลายปี 2563 ในฐานะผู้รับจ้างผลิต ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อและกระจายวัคซีน จะโทษว่าผลิตไม่ได้หรือไม่ทันไม่เกี่ยวข้องกัน ขอเรียกร้องนายกฯในฐานะ ผอ.ศบค.ประกาศให้ชัดเจนว่า วันที่ 7 มิ.ย.จะมีวัคซีนแอสตราเซเนกาให้ประชาชนฉีดหรือไม่ เอาสัญญาสั่งซื้อมาเปิดเผย ไม่ใช่ทำลับๆล่อๆ ต้องเปิดเผยให้ประชาชนดูว่าสั่งซื้อ 61 ล้านโดสส่งมอบกันวันใดอย่างไร ไม่ทันกำหนดมีค่าปรับหรือไม่ อย่างไรความล่าช้ามาจากการบริหารล้มเหลว ผอ.ศบค.รวบอำนาจไว้คนเดียว
อะไรสำคัญวัคซีนกับต่อสัญญารถไฟฟ้า
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ทราบว่าวันที่ 1 มิ.ย.นายกฯจะนำเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปีเข้าที่ประชุม ครม.เป็นวาระจร ถามว่าระหว่างต่อสัมปทานรถไฟฟ้าไป 30 ปี กับหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยอันไหนเร่งด่วนกว่ากัน หนี้วิ่งรถกว่า 1 หมื่นล้าน ต้องถาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. สร้างหนี้ เอาอำนาจอะไรดำเนินการ เรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ข้อยุติ มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย 75 คน ลงชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง คสช.3/2562 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ยังไม่ได้วินิจฉัย หากขัดรัฐธรรมนูญใครจะรับผิดชอบขอเตือนว่า ครม. วันที่ 1 มิ.ย. ใครร่วมอนุมัติให้ต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด เพราะมีปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และยังหลบเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯปี 62 ด้วย
ซัดผู้นำบริหารผิดพลาดขัด รธน.หรือไม่
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้กลายเป็นเครื่องมือชี้วัดอำนาจ และเป็นเครื่องมือสร้างคะแนน นิยม โดยมีชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศเป็นตัวประกัน ทั้งที่รัฐบาลมีหน้าที่จัดหาวัคซีนมาบริการ แต่ยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ตามแผนฉีดวัคซีน 70% ภายในสิ้นปี 2564 ที่ผ่านมานายกฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวบอำนาจมาไว้ผู้เดียว แต่ไร้ประสิทธิภาพ การบริหารจัดการวิกฤติจึงล่าช้า อยากถามเนติบริกรผู้ค้ำยัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมว่า การบริหารราชการผิดพลาดมีความผิดตามรัฐธรรมนูญบ้างหรือไม่ นายกฯควบรวมกฎหมาย 31 ฉบับมีอำนาจเหนือทุกกระทรวง แต่บริหารราชการสร้างผลกระทบต่อการบริการสาธารณะด้านสาธารณสุข ที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพให้กับประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ประชาชนไม่ใช่เหยื่ออันโอชะจากการบริหารผิดพลาดซ้ำซาก
อัดการศึกษาไทยล้าหลังถูกหั่นงบฯอื้อ
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า งบฯปี 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาทลดลงจากปีก่อน 5.66% แสดงถึงความเสื่อมถอยของประเทศมีการตัดงบฯกระทรวงศึกษาธิการสูงมากถึง 2.45 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 6.75% ทั้งที่การศึกษาจำเป็นต้องพัฒนา 7 ปีที่ผ่านมาคุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยแก้ไขยังมาตัดงบฯอีก สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีโครงการแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน ป.1 ทุกคน ถ้าไม่มีการปฏิวัติป่านนี้การพัฒนาการศึกษาไทยและการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยไปได้ไกลกว่านี้มาก จึงเสนอให้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยอย่างจริงจังให้เข้ากับอนาคตของโลก
รอทุกอย่างลงตัวไล่นายกฯไม่ยาก
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การ บริหารจัดการการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นความเป็นความตายของประชาชน นายกฯสืบทอดอำนาจจึงอวดศักดารวบอำนาจสั่งการเบ็ดเสร็จ แต่ผลงานล้มเหลวไม่ทันการณ์ ผลลัพธ์แบบนี้ถ้าเป็นผู้นำที่มีเกียรติศักดิ์ การแสดงความรับผิดชอบคือการลาออก แต่ยามนี้บ้านเมืองมันอาเพศ ได้คนไม่มีเกียรติศักดิ์ขึ้นมาครองเมือง ผู้นำสืบทอดอำนาจไม่เคยละอายต่อบาป ฝ่ายนิติบัญญัติที่หนุนรัฐบาลต่างถูกสังคมโจษจันว่าเป็นที่รวมพลคนตระบัดสัตย์ และฝ่ายตุลาการระดับสูงบางคนถูกสื่อต่างประเทศออกข่าวว่ามีการรับสินบนก้อนโตจากบริษัทข้ามชาติ ความอัปยศดังกล่าวล้วนเป็นผลพวงก่อเกิดของ ขบวนการยึดอำนาจ สถานการณ์สภาวะแวดล้อมขณะนี้การให้นายกฯลาออกมิใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง แต่ใครคือนายกฯคนใหม่ที่ทุกฝ่ายพอรับได้ จึงอยู่ระหว่างแสวงจุดร่วมเพื่อความลงตัว แต่คงไม่ช้าและเมื่อลงตัวได้นายกฯคนใหม่แล้ว เมื่อนั้นเงาปริศนาบวกกับภาคประชาชนกลุ่มสามัคคีประชาชนไทยไม่ทนจะผนวกเข้ากับกลุ่มราษฎรต่างๆ ร่วมกันบังคับวิถีให้นายกฯสืบทอดอำนาจต้องลาออกโดยไม่มีข้อแม้มาต่อรองได้เลย
กก.ลั่นไม่ไว้ใจให้ “บิ๊กตู่” ละเลงงบฯ
ที่พรรคกล้าวไกล น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงว่า พรรคเตรียมผู้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ไว้ 21 คน จะชี้ให้เห็นว่าปี 65 จำเป็นต้องฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติโควิด-19 ประเทศไม่มีหลักประกันใดๆให้ประชาชนเลย งบฯปี 65 ตัดสวัสดิการไปค่อนข้างมาก งบบัตรคนจนถูกตัด 2 หมื่นล้านบาท งบประกันสังคมถูกตัด 2 หมื่นล้านบาท งบบัตรทองถูกตัด 1.8 พันล้านบาท ไม่ได้สร้างความมั่นคงให้ประชาชนและไม่ใช่การฟื้นฟูแท้จริง งบฯที่ควรตัดกลับยังมีให้เห็น เช่น งบฯกระทรวงกลาโหมยังซื้ออาวุธ กระสุน เรือดำน้ำ งบจัดซื้ออาวุธถูกปรับลดสัดส่วนน้อยกว่างบฯด้านสวัสดิการ หลายอย่างเป็นเรื่องความมั่นคง แต่อยากให้ดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วย การจัดงบฯเช่นนี้ทำให้เราไม่ไว้ใจให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บริหารงบประมาณประเทศอีก
สะกิด อปท.อุทธรณ์งบฯมาจะจัดให้
น.ส.สุทธวรรณกล่าวว่า พรรคก้าวไกลอยากฝากไปยังหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่จัดสรรสวัสดิการให้ประชาชน และผ่านไปยัง อปท.ที่ถูกปรับลดงบฯอย่างไม่เป็นธรรม ขอเตือนให้หน่วยงานต่างๆอุทธรณ์งบเข้ามายังกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณผ่านวาระแรกไปในชั้นกรรมาธิการพรรคก้าวไกลจะพยายามสุดความสามารถจะตัดงบฯไม่จำเป็นมาเติมงบฯให้กับพวกท่าน ที่มีหน้าที่นำงบฯไปดูแลชีวิตประชาชน
“สิริพงศ์” ค้านขยายสัมปทานบีทีเอส
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยจะเสนอเรื่องการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสัมปทานส่วนต่อขยายไปถึง 30 ปี เข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 1 มิ.ย.ว่า ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสมหรือไม่ ประชาชนกำลังประสบปัญหาเดือดร้อนจากโควิด-19 จะส่งผลกระทบไปอีกหลายปีทำไมจึงเร่งรีบปิดจ๊อบ เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องจ่ายแต่อยากถามว่า กทม.ใช้อำนาจอะไรโอนหนี้ให้เอกชนมารับไป ใช้เกณฑ์อะไรตั้งแต่แรก อันนี้เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ เรื่องนี้ทุกคนรอคำชี้แจงจาก กทม. แต่ กทม.ไม่เคยชี้แจง “หรือข่าวลือที่ว่ามีบิ๊กรถไฟฟ้าเข้ามาเป็นนายทุนให้บิ๊กมหาดไทย จึงต้องเร่งรีบขยายสัมปทานไปอีก 30 ปีในช่วงที่มีข่าวการยุบสภาหนาหูใน ช่วงนี้” นายสิริพงศ์กล่าว
“บิ๊กตู่” สั่ง รมต.แจงงบฯให้ ปชช.เข้าใจ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯพร้อมชี้แจงรายละเอียดการจัดทำงบฯปี 65 ในการประชุมสภาฯโดยกำชับ ครม.เข้าร่วมประชุม ชี้แจงให้ ส.ส.ทราบรายละเอียดและสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้ประชาชน วงเงินงบฯปี 65 มีทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 2,360,543 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 624,399.9 ล้านบาท น้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลที่มีอยู่ 7 แสนล้านบาท ไม่เป็นปัญหาในการจัดงบฯรัฐบาลเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่นนอกเหนือจากงบฯรายจ่าย ประกอบด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย และการใช้เงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม นายกฯจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงหลักการจัดทำงบฯที่คำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วน และให้ความสำคัญการดำเนินนโยบายภายใต้แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจากสถานการณ์โควิด-19 (พ.ศ.2564-2565) รวมทั้งแผนปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) พิจารณาทั้งแหล่งเงิน ศักยภาพหน่วยงานและภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วน
ไม่แปลกฝ่ายค้านไม่รับ พ.ร.ก.กู้เงิน
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บางขุนเทียน กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เชื่อว่าทั้ง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ.งบฯปี 65 จะผ่านการพิจารณาของสภาฯได้ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเห็นด้วยอาจเป็นเรื่องแปลก ในอดีตมีทั้งฝ่ายค้านเห็นด้วยกับกฎหมายของรัฐบาล งดออกเสียงหรือไม่ยกมือให้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องไปอธิบายเหตุผลกับประชาชน
สภาตั้งโพเดียมกั้นฉากใสกันเชื้อโรค
เมื่อเวลา 09.20 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาฯ นำคณะตัวแทนสมาชิกวุฒิสภา ตัวแทนพรรคการเมืองและตัวแทนสถาบันพระปกเกล้า วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระรูปต้นแบบพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันที่ระลึกรัชกาลที่ 7 จากนั้นไปตรวจความพร้อมห้องประชุมสุริยันเตรียมประชุมสภาฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.โดยในห้องประชุมบริเวณที่นั่งของนายกฯและ ครม.มีการจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง หากนายกฯหรือรัฐมนตรีต้องการชี้แจงกรณีพาดพิง พูดโดยใส่หน้ากากได้ แต่ถ้าไม่สะดวกสวมหน้ากากพูดในเวลานานได้ สภาฯเตรียมฉากกั้นอะคริลิกใส แยกส่วนให้นายกฯและ ครม.เข้าชี้แจง ส่วน ส.ส.ที่จะอภิปรายโดยไม่สวมหน้ากากได้จัดโพเดียมไว้หน้าบัลลังก์ มีแผ่นอะคริลิกใสขนาดใหญ่ล้อมรอบตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ประชุม เมื่อ ส.ส.แต่ละคนอภิปรายจบจะทำความสะอาดไมโครโฟนและโพเดียมที่พูดทุกครั้ง
เตือน ส.ส.อย่าห่วงโผล่ออกจอทีวี
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวว่า สภาจะลดจำนวนคนเข้ามาในพื้นที่ ผู้มาให้ข้อมูล ครม.ให้จัดมาให้น้อยและส่งข้อมูลทางระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบซูม การอภิปราย 3 วันให้ ส.ส.สวมหน้ากากอนามัย ผู้อภิปรายที่ไม่สามารถสวมหน้ากากได้นานได้จัดแท่นอภิปรายเป็นตู้กระจกใสกั้นไว้ อภิปรายจบจะทำความสะอาดทุกครั้งคุมเข้ม 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วน ครม.หากนายกฯหรือ ครม.จะชี้แจงและประสงค์จะใช้แท่นตู้กระจก สภาฯจะอำนวยความสะดวกจัดเตรียมไว้ให้ แต่ถ้าไม่ใช้ต้องสวมหน้ากาก ก่อนหน้านี้ได้กำชับ ส.ส.อย่านั่งใกล้กัน แต่ยังมีบางคนมานั่งหลังผู้อภิปรายอยากออกทีวี ขอให้นั่งแยกจากกัน ช่วงการลงมติและนับองค์ประชุม กรมควบคุมโรค แนะนำว่าไม่ควรเกิน 15 นาที จะไปยุ่งช่วงวาระ 2 ต้องลงมติเป็นรายมาตรา หวังว่าเมื่อถึงช่วงนั้นสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ก้าวไกลกัดติดชงเข้า กมธ.ป.ป.ช.
ที่พรรคก้าวไกล น.ส. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงว่า กรณีสินบนบริษัทรถยนต์ให้แก่ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมไทย หลังจากโฆษกศาลยุติธรรมเปิดเผยว่าได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินการต่อข้อกล่าวหากรณีภาษีอากรที่เป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ พรรคก้าวไกลหวังว่าจะมีการสอบสวนและรายงานผลสู่สาธารณะโดยเร็วและละเอียดที่สุด และพรรคจะส่งคำร้องเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรต่อไป