รัฐบาลโต้ฝ่ายค้านเข้าใจผิดงบฯกลาโหมแค่ 2 แสนล้าน แจงงบฯดูแลสุขภาพคนไทย สธ.-สปสช.เยอะกว่าก้าวไกลจับไต๋ ศปก.นายกฯไอโอลดงบฯทหารต่อเนื่อง เชื่อตีมึนไม่ชะลอซื้อเรือดำน้ำสมทบทุนโควิด จวกไม่เห็นหัวประชาชน “เสรีพิศุทธ์” สับยังสุรุ่ยสุร่าย “จุรินทร์” ออกหน้าแจงเงินกู้ 7 แสนล้านเยียวยา-ฟื้นฟูแก้โควิด “บิ๊กป้อม” ยันทุกอย่างโปร่งใส เพื่อไทยหวั่นใจคนกู้ไร้ปัญญาหาเงินคืน โฆษกภูมิใจไทยเดือดโพสต์เฉ่ง “ลุงตู่” เบรกวอล์กอิน ซัดตัวถ่วงคนไทยเข้าถึงวัคซีน “สิระ” จวกเด็กไร้สมองให้คนยืนรอก่อคลัสเตอร์ใหม่
โหมโรมก่อนนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังฝ่ายค้านออกมาจับตาตั้งข้อสังเกตจัดงบฯกลาโหมมากกว่าสาธารณสุข แถมล่าสุดรัฐบาลยังออก พ.ร.ก. เงินกู้เพิ่มอีก 7 แสนล้านบาท จนฝ่ายรัฐบาลออกมาชี้แจงไขข้อข้องใจ ยืนยันจัดงบฯและออก พ.ร.ก.กู้เงินเหมาะสมตามสถานการณ์อย่างโปร่งใส
รบ.โต้งบฯสุขภาพเยอะกว่า กห.
...
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตามที่ได้รับมอบหมายถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์งบประมาณปี 65 ของกระทรวงกลาโหม (กห.) สูงกว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึง 5 หมื่นล้านบาทว่างบฯ กห. คงไม่สามารถดูเฉพาะกระทรวงได้ ถ้าดูเฉพาะกระทรวงตัวเลขที่โชว์ขึ้น กห.มีประมาณ 200,000 ล้านบาท ขณะที่ สธ.มี 153,000 กว่าล้านบาท ส.ส.ฝ่ายค้านอาจเข้าใจผิด งบฯสธ.ส่วนหนึ่งมีหน่วยงานส่วนอื่นที่อยู่ภายใต้กำกับไม่ได้ขอรับงบฯผ่านกระทรวง แต่ขอโดยตรง เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีงบฯทั้งสิ้น 140,000 กว่าล้านบาท ฉะนั้นงบฯรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่ใช่มีเฉพาะกระทรวงฯอย่างเดียวถ้าบวกกับ สปสช. งบฯดูแลสุขภาพคนไทยมีทั้งสิ้นมากกว่า 300,000 ล้านบาท มากกว่า กห.อีกเกือบเป็น 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้งบฯ กห. ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอัตรากำลังพลทั่วประเทศที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ก้าวไกลจับไต๋ไอโอไม่ลดจริง
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ. งบปี 65 ที่จะเข้าสภาฯว่า ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) เผยแพร่ภาพเปรียบเทียบถึงงบด้านสาธารณสุขว่าเพิ่มขึ้นและมากกว่ากลาโหม พยายามอธิบายว่า กลาโหมลดงบลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63-65 เป็นการโฆษณาชวนเชื่ออย่างน่าละอาย ลวงว่าลดแต่ไม่ได้ลด สำหรับในร่างงบฯปี 65 แม้งบฯกลาโหมจะลดลง 5.24% แต่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าภาพรวมงบฯทั้งหมดที่ลด 5.66% อีกทั้งงบฯบุคลากรของกลาโหมกลับเพิ่มขึ้น 1.7% แสดงให้เห็นว่า ถึงกองทัพอยากลดอย่างไรก็ลดไม่ลง ด้วยกำลังทหารที่มากเกินกว่าจะจัดสรรงบฯอย่างมีประสิทธิภาพได้
เชื่อตีมึนไม่ชะลอซื้อเรือดำน้ำ
นายพิจารณ์กล่าวอีกว่า ตามเอกสารงบฯ เล่มขาวคาดแดงของกลาโหม ด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ไม่สามารถเห็นรายการอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จัดซื้อได้ เมื่อเปรียบเทียบยอดงบฯในโครงการผูกพันข้ามปีของเอกสารงบประมาณปี 63-64-65 ทำให้เชื่อได้ว่า กองทัพเรือ ยังคงเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำต่อไป แม้ชาติจะอยู่ในวิกฤติงบประมาณ หนำซ้ำเมื่อส่องดูงบซื้ออาวุธแบบปีเดียว กองทัพบกตั้งงบเพิ่มขึ้น 9.23% และกองทัพเรือเพิ่มขึ้นถึง 2.6 เท่า จากปี 64 ในส่วนของงบซื้อยุทโธปกรณ์ที่ผูกพันข้ามปี ทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ยังมีโครงการใหม่ ที่ผูกพันงบตั้งแต่ปี 65-67 รวมมูลค่าโครงการตลอด 3 ปี อีก 9,073 ล้านบาท นอกจากนั้นทั้ง 3 เหล่าทัพ บวกกับกองบัญชาการกองทัพไทย ยังมีงบซื้อยุทโธปกรณ์ที่ผูกพันข้ามปีค้างตั้งแต่ปี 60-69 อีก 70 โครงการ และเป็นงบฯที่ต้องจ่ายในปีงบ 65 กว่า 24,218 ล้าน
สับจัดงบฯไม่เห็นหัวประชาชน
นายพิจารณ์กล่าวว่า การระบาดของโควิดยังไม่จบจนกว่าเราได้วัคซีนครบเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ดีกว่าไหมถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำแต่นำไปเพิ่มให้กับงบฯบัตรทองที่ถูกตัดไป 1,800 ล้านบาท ถ้ายอมทนใช้อาวุธเก่าไปอีกสักปีเพื่อนำงบฯไปช่วยนักเรียนที่ต้องเลิกเรียนกลางคัน เพราะพ่อแม่ตกงานผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่ถูกตัดไป 432 ล้านบาท ดีกว่าไหมถ้าไม่ซื้ออาวุธใหม่แต่นำเงินไปลงทุนอบรมทักษะใหม่ๆ ให้คนที่ตกงานจากภาคท่องเที่ยว ให้หางานใหม่ได้ง่ายขึ้น ดีกว่าไหมถ้าเราจะมีรัฐบาลใหม่ ที่จัดงบฯแบบเห็นหัวประชาชนมากกว่านี้
“เสรีพิศุทธ์” ฉะถลุงสุรุ่ยสุร่าย
ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ในยามประเทศต้องประหยัดแต่ยังถลุงสุรุ่ยสุร่าย โดยเฉพาะงบฯกองทัพจะไปรบกับใคร ครม.อนุมัติงบ 387 ล้านบาทให้กองทัพไปช่วยตรวจโควิด แต่คนมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงทำไมปล่อยให้ขาดแคลน พรรคฝ่ายค้านไม่ยอมเด็ดขาด หากนำไปจัดซื้ออาวุธโดยไม่จำเป็น ตนรู้ดีทหารทุจริตกันอย่างไร ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงให้ตนเป็น รมว.กลาโหม จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่ใช่ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท หากไม่ชอบมาพากลเกิดความเสียหายอีกจะตรวจสอบไม่ปล่อย รัฐบาลอย่าให้มีปัญหา บริหารอย่างตรงไปตรงมาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
“จุรินทร์” แจงเงินกู้ 7 แสนล้าน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงครม.อนุมัติ พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่ม 7 แสนล้าน ว่ากรณีนี้เป็นภาพรวมเพราะงบฯปี 65 เป็นเงินลงทุนประมาณ 7 แสนล้าน ส่วนเงินกู้อีก 7 แสนล้านช่วยเพิ่มเติมคือ นำมาใช้จ่ายแก้ปัญหาโควิด จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เครื่องมือแพทย์ และอื่นๆที่จำเป็นมีวงเงินประมาณ 3 หมื่นล้าน ชดเชยและเยียวยาประมาณ 4 แสนล้าน อีก 2.7 แสนล้าน ใช้ในเรื่องการฟื้นฟู มีวัตถุประสงค์ชัดเจน รัฐบาลต้องเข้าไปกำกับดูแลให้เป็นไปตามนี้เสริมงบฯประจำปี
“บิ๊กป้อม” ยันทุกอย่างโปร่งใส
ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวว่า พ.ร.ก.เงินกู้ 7 แสนล้านบาท ตนยังไม่รู้ในรายละเอียดและไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ให้รัฐบาลและกระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจง เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายกฯยืนยันรัฐบาลมีงบฯเพียงพอแก้ไขปัญหาโควิด-19 พล.อ.ประวิตรตอบว่า ให้กระทรวงการคลังชี้แจง ยืนยันทุกอย่างรัฐบาลทำด้วยความโปร่งใส ช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ให้ทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงเตรียมการเรื่องวัคซีน 150 ล้านโดส ให้ได้ฉีดทุกคนอย่าห่วง
กมธ.เผย รบ.ใช้เงินกู้ไม่เข้าเป้า
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้จาก พ.ร.ก. 3 ฉบับเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาโควิด-19 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เห็นด้วยหากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินมาใช้โควิด-19 รอบ 3 ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ รัฐบาลกู้รอบแรกมาแล้ว 1 ล้านล้านบาท มีการเบิกจ่ายเกือบเต็มวงเงินกู้แล้ว หากกู้มาอีก 7 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนกลไกใช้เงิน ทั้งหน่วยงานควบคุมเงินกู้ การตรวจสอบ การเบิกจ่าย ที่ต้องทำให้ใช้เงินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไปถึงมือประชาชน และสามารถฟื้นฟูเยียวยาได้อย่างแท้จริง ที่ผ่านมาการใช้เงินยังล่าช้า เบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หลายโครง การทำแล้วไม่สำเร็จต้องปรับเป้าหมาย และเบิกจ่ายล่าช้าเนื่องจากความไม่ชัดเจนของโครงการ
พท.หวั่น รบ.ไม่มีปัญญาใช้หนี้
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ครม.ผ่าน พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้านบาทเป็นวาระลับ อ้างใช้เยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมเสร็จเก็บเอกสารกลับอย่างรวดเร็วคืออะไรเงินที่กู้มา 1 ล้านล้านไปไหนหมด ถึงประชาชนกี่เปอร์เซ็นต์ แจกประชาชนครั้งแรก 5,000 บาท 3 เดือน ตามอาชีพ รอบสองแจก 3,500 บาท 2 เดือนเข้าบัญชีบัตร รอบที่ 3 แจก 2,000 บาท ไม่แจกทุกคนแจกเฉพาะเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 และทำไมอนุมัติเงิน 367 ล้านให้กองทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ สร้างรพ.สนาม งบฯสูงเกิน “พิมรี่พาย” หรือไม่ กู้เงินแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ รู้จักหาเงินมาคืนหรือไม่ กู้เงินแล้วประเทศไทยจะจมหนี้ใช่ไหม กู้มาแล้วประชาชนต้องไปต่อแถวเหมือนแจกทานอีกหรือไม่ เหยียบย่ำความรู้สึกของประชาชนมากจนเกินไป
โฆษก ภท.เดือดโพสต์เฉ่งนายกฯ
อีกเรื่องหลังจากที่นายกรัฐมนตรีสั่งเบรกเปิดจุดวอล์กอินฉีดวัคซีนตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศให้บริการในเดือน มิ.ย.ไปแล้วนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “หากยังมัวแต่ยึดติดกับไอ้หมอพ้ง_หมอพร้อม ประชาชนจะติดโควิดกันหมด เข้าใจมั้ยยยย ลุ้งงงงงงง คนเขาบอกยังไม่รู้ฟัง ดื้อรั้น ถูลู่ถูกัง ทิฐิมานะสูง เป้า 50 ล้านคน หากไม่อยากให้เป็นแค่ลมปาก ลุงหาวิธีอื่นมาอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านเถอะ แทนที่จะช่วยทำให้มันไว คนเข้าถึงง่าย กลับเป็นตัวถ่วง และสร้างกำแพงให้คนเข้าถึงวัคซีนยากกกกก แล้วแบบนี้เป้า 50 ล้านคนลุง จะเสร็จเมื่อไร??? รึว่าให้คนเขาสร้างภูมิกันเองด้วยการรับเชื้อโควิดกันทั้งประเทศเห้ออออ #เพลียด่า”นอกจากนี้ นายภราดรยังโพสต์ยืนยันด้วยว่า วิธีการเปิดให้ประชาชนวอล์กอินเข้ามารับวัคซีนนั้น ไม่ได้ยุ่งยาก โดยระบุว่า “วิธีจัดลำดับการ walk-in ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากแม้แต่น้อย ท่านก็แค่กำหนดให้ชัดเจนว่ารับคิวไหน จำนวนเท่าไร คนเขามาคิวเต็มแล้ว เขาก็กลับบ้าน มาวันอื่นเท่านั้น ไม่ใช่คิดแต่ทำไม่ได้ๆๆๆๆ ชาติหน้าก็ทำไม่ได้ แค่คิดว่าทำได้ แล้วหาวิธีให้ทำได้ พรุ่งนี้มันก็ทำได้ #จบข่าววว“
“สิระ” ฟาดทันควันพวกไร้สมอง
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ฝากไปถึงนายอนุทิน และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บิดานายภราดร ให้ดูแลกิริยามารยาทนายภราดร เป็นถึงโฆษกพรรคร่วมรัฐบาล แต่พูดกับผู้ใหญ่เช่นนี้ ไร้วุฒิภาวะ พรรคภูมิใจไทยคิดดีเลือกคนแบบนี้ทำหน้าที่ หากมีข้อเสนอแนะและวิธีการจัดการได้ดีกว่า ควรเสนอมาในฐานะพรรค การเมืองฝ่ายบริหาร ผ่านนายอนุทิน นำมาปรึกษานายกฯ ไม่ใช่ออกมาใช้ถ้อยคำแบบปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เป็นเด็กไร้มารยาท ไร้สมอง คิดได้อย่างไรให้คนจำนวนมากมายืนออเพื่อรับคิวแล้วถ้าทำให้กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่สถานีกลางบางซื่อ นายภราดรจะขอให้พ่อตัวเองช่วยมารับผิดชอบให้หรือไม่ นายภราดรน่าจะเติบโตมาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ไม่เคยรู้ว่า การเดินทางของคนที่หาเช้ากินค่ำ ไม่ใช่เรื่องสนุก ต้องเสียค่ารถ ค่าน้ำมัน เสียเวลาทำมาหากิน เวลาคนด่ารัฐบาล ด่านายกฯ นายภราดรกับพรรคภูมิใจไทยเคยแอ่นอกรับบ้างหรือไม่
“แรมโบ้” ติงไม่ให้เกียรติ “อนุทิน”
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องวอล์กอินฉีดวัคซีน นายอนุทินชี้แจงแล้วว่าเป็นแผนสำรอง นายกฯขอดูการฉีดในแผนปกติจองผ่านหมอพร้อมก่อน นายภราดร ไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ควรพูดช่วยนายกฯ รัฐบาล สร้างการรับรู้กับประชาชนถึงการทำงาน กลับทำตัวเป็นฝ่ายค้านออกมาโจมตีนายกฯ ไม่ให้เกียรตินายกฯอย่างน้อยควรให้เกียรตินายอนุทินบ้าง ในฐานะเป็นลูกพรรคภูมิใจไทย
สวน “สิระ” มวยไร้ราคาดีแค่แก่
ต่อมานายภราดรให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้อ่าน และไม่ได้ฟังความเห็นของนายสิระ เหมือนมวยไม่มีราคา ม้าไม่มีชั้น เพราะทุกครั้งที่คนคนนี้แสดงความเห็น น้ำลายบูด แทบไม่เคยเห็นมีครั้งใดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเลย แต่หากจะบอกว่าตนมีพฤติกรรมไม่ต่างเด็กอมมือก็อยากจะชี้แจงว่า ตนเด็กเพียงแต่อายุ ไม่เหมือนบางคน ที่แก่เพียงเพราะกินข้าวเท่านั้น
“ตือ” ป้องอย่าก้มหัวให้คนกร่าง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้นายสิระว่า “ผมสอนลูกให้อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ แต่ต้องไม่อ่อนข้อให้ความไม่ถูกต้องและที่สำคัญ ต้องไม่กลัวและอย่าก้มหัวให้คนที่กร่างไม่เข้าท่า ลูกเป็น ส.ส.มาหลายสมัย สิระเป็น ส.ส.สมัยแรก ใครที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”
“วัฒนา” สอนมวยเปิดเสรีวัคซีน
นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯระบุว่า นายกฯต้องแก้ปัญหาด้วยการทำให้คนไทยหยุดกลัวตายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ หัวใจสำคัญคือวัคซีน และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และป้องกัน หากคนไทยมั่นใจหยุดกลัวตายจะออกมาทำกิจกรรมทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว รัฐบาลและทุกฝ่ายควรร่วมมือกันกระตุ้นให้คนไทยทุกคนได้ฉีดวัคซีน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนรวดเร็วยิ่งขึ้น ควรเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีน ยกเว้นภาษีนำเข้าและยกเว้นการจดทะเบียน อย.ระยะหนึ่ง รวมถึงควรอำนวยความสะดวกและยกเว้นภาษีการนำเข้าเครื่องมือตรวจโควิด-19 แบบรวดเร็ว (Rapid Test) ให้ประชาชนตรวจเองได้ ส่วนของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ควรอำนวยความสะดวกให้เข้าได้ตามปกติโดยจัดการฉีดวัคซีนให้ แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องทำให้คนไทยหายกลัวตายเป็นลำดับแรก
“โทนี่” หยัน “ตู่” แก้ไม่ตกก็หลบไป
ช่วงดึกวันที่ 18 พ.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์กลุ่มแคร์ หัวข้อ “เป็นไงวัยรุ่น : ปลดล็อกยูนีคสกิล สู่ยุคใหม่ของวัยรุ่นกับ Tony Woodsome” ทั้งนี้ มีผู้สอบถามประเด็นการรัฐประหารว่าจะมีปัจจัยอะไรที่สนับสนุนให้เขาอยู่หรือไม่อยู่ได้ นายทักษิณตอบว่า ต้องไปถามอดีต ผบ.ทบ. ตอนที่ตัดสินใจทำรัฐประหาร 7 ปีที่แล้วกับตอนนี้สถานการณ์ไหนน่าทำรัฐประหารมากกว่ากัน ต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก คนที่ไม่มีเงินเก็บ หนี้สินครัวเรือนเราสูงมาก อะไรกระทบนิดเดียวเดือดร้อนหมด คนที่เดือดร้อนมีมากกว่าเยอะ ไม่ใช่เอาเงินไปแจกแล้วหายเดือดร้อน อนาคตลูกจะเรียนหนังสืออย่างไร รัฐบาลต้องรีบแก้ ถ้าแก้ไม่เป็นก็ให้คนอื่นทำ เขาขอสัญญาว่าจะอยู่ไม่นาน ต้องเอาเพลงมาเปิดให้ฟังบ่อยๆเพราะเขาชอบฟังเพลง ระบบประชาธิปไตยถ้าศรัทธาประชาชนไม่มีแล้วต้องให้ประชาชนตัดสินใจ รัฐธรรมนูญนี้สร้างความแข็งแกร่งให้เก้าอี้นายกฯ แต่สร้างความอ่อนแอให้ประเทศ ต้องถามว่า “ตู่เบื่อยัง ถ้าไม่เบื่อเขาก็อยู่ได้”
“บิ๊กป้อม” โวยอย่าเหมา รบ.คสช.
ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ย้อนถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามถึงกรณีกลุ่มประชาชนคนไทย เรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ลาออก โดยเสนอให้นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการอังค์ถัด และอดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติเป็นนายกฯแทนว่าทำได้หรือไม่ เป็นเรื่องของสภาเมื่อถามกรณีนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯออกมาตั้งคำถามว่า รัฐบาลอยู่มา 7 ปี เบื่อแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรตอบว่า รัฐบาลอยู่มา 2 ปี ไม่ใช่ 7 ปี คสช.ก็ คสช.นี่รัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญไปนับรวมได้อย่างไร
“จตุพร” รำลึก 11 ปี พฤษภา 53
อีกด้านเมื่อเวลา 10.30 น. ที่สถานีโทรทัศน์ พีซทีวี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายยศวริศ ชูกล่อม นายเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ นายสุริยา ชินพันธ์ พร้อมด้วยญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมเดือน พ.ค.53 อาทิ นางพะเยาว์ อัคฮาด และนายณัทพัช อัคฮาด มารดาและน้องชายของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากกระสุนปืน ภายในวัดปทุมวนาราม มวลชนร่วมกันรำลึก และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่ร่วมต่อสู้ในเหตุการณ์ 19 พฤษภาฯ 2553ในโอกาสครบรอบ 11 ปี โดยนำภาพถ่ายผู้เสียชีวิต มาประกอบพิธีนิมนต์พระสวด ถวายสังฆทาน และกรวดน้ำ
“โตโต้” วางดอกไม้ร่วมไว้อาลัย
ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่บริเวณแยกราชประสงค์ ฝั่งศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 มีกลุ่มคนเสื้อแดง 63 จ.ปทุมธานี เป็นแกนนำ รวมตัวจัดงานงานรำลึกวีรชนคนเสื้อแดง “11 ปี พฤษภาทมิฬ 53” อย่างเรียบง่าย วางดอกไม้ไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต มีนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม We Volunteer หรือกลุ่มวีโว่ มาร่วม ทำกิจกรรม ยืนกางร่มห้อยแผ่นป้าย “ที่นี่มีคนตาย” พร้อมชู 3 นิ้ว บริเวณป้ายแยกราชประสงค์ ร้องรำทำเพลง สลับการปราศรัยกล่าวโจมตี และขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนจะยุติกิจกรรมเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก