“บิ๊กตู่” เผย เตรียมฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนระบบประกันสังคมมาตรา 33 เริ่มจาก กทม. ตามด้วย 9 จังหวัดเศรษฐกิจ กำชับฉีดต่อเนื่องและเร็วที่สุดเพื่อเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้
เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 19 พ.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กว่า กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เป็นกลุ่มแรงงานที่ความสำคัญกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาชีพต้องสัมผัส ต้องเจอคนจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ การเตรียมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ประกันตนนี้จะเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และภาคเอกชน โดยจะพร้อมฉีดตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.นี้
“ผมได้กำชับให้ทำการฉีดให้ต่อเนื่องและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคบริการ ฟื้นตัวได้โดยเร็ว”
สำหรับแนวทางการกระจายวัคซีน มีดังนี้
1. สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ร่วมมือกับภาคเอกชน และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการดำเนินการ โดยกลุ่มผู้ประกันตนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง จะให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการเนื่องจากกลุ่มดังกล่าวได้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมไปแล้ว
2. สำนักงานประกันสังคม จะประสานกับนายจ้างของแต่ละบริษัทให้ส่งข้อมูลลูกจ้างที่จะฉีดวัคซีน เพื่อทำการจัดสรรเวลาการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตน โดยในระยะแรกจะเน้นการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกันตนใน กทม. และในระยะถัดไปจะเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนใน 9 จังหวัดเศรษฐกิจ จากนั้นจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนในจังหวัดที่เหลือต่อไป ที่สำคัญคือ จำนวนวัคซีนต้องเพียงพอกับจำนวนคน หากไม่ได้ทั้งหมดก็จะจัดสรรทยอยให้ตามลำดับความเร่งด่วน
...
3. การฉีดวัคซีนใน กทม. จะมีจุดฉีดวัคซีน 45 แห่ง และจุดฉีดวัคซีนใน 9 จังหวัดเศรษฐกิจอีก 22 แห่ง
นายกรัฐมนตรี ระบุทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามแผนวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีน ผู้ประกันตนทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ที่จะทั้งป้องกันโรคให้กับตนเอง คนรอบข้าง และผู้เข้ามารับบริการ เพื่อให้กิจการและเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้.