อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ตอก "FTA Watch" อ้างวาระลับ ปม CPTPP ชี้ เป็นการขออนุญาตต่อเวลาศึกษาออกไปอีก 50 วัน ไม่ใช่เรื่องเดินหน้า หรือไม่เดินหน้า นำประเทศเข้าสู่ข้อตกลง แต่อย่างใด
วันที่ 6 พ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณี เมื่อวานที่ผ่านมา ( 5 พ.ค.) กลุ่ม (FTA Watch) เผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีวาระลับเกี่ยวกับ CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership) หรือความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งผ่านความเห็นชอบแล้ว นายกรัฐมนตรีสามารถเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงได้เลย ไม่มีการแถลงเป็นทางการนั้น
ยืนยันว่า มีการประชุมจริง แต่ไม่ใช่เรื่องอนุญาต หรือไม่อนุญาต เข้าร่วมข้อตกลง CPTPP แต่เป็นการขออนุญาตต่อเวลาไปศึกษาข้อตกลงอีก 50 วัน
"ไม่ใช่เรื่องเดินหน้า หรือไม่เดินหน้านำประเทศไทย เข้าสู่ข้อตกลง CPTPP แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงได้เลย ไม่มีการแถลงเป็นทางการ แต่อย่างใด" โฆษกรัฐบาล กล่าว...
...
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 เพจเฟซบุ๊ก FTA Watch เผยแพร่เอกสารฉบับหนึ่ง ที่อ้างว่ารัฐบาลไทย อาจลงนามเข้าร่วมข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก CPTPP ที่เคยสร้างความกังวลในวงกว้างว่า ราคายาอาจสูงขึ้นและอาจทำให้เกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูกเองไม่ได้อีกต่อไป
เอกสารที่ FTA Watch นำมาเผยแพร่ ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เสนอเรื่องผลการดำเนินการเรื่อง CPTPP ต่อคณะรัฐมนตรี และเอกสารดังกล่าวยังระบุอีกว่า ถ้าหากคณะรัฐมนตรีไม่มีข้อทักท้วงใดๆ ให้ถือว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหรืออนุมัติ
เมื่อประเด็นนี้ เผยแพร่ สังคมออนไลน์ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดย ทวิตเตอร์ในไทย ยังร่วมกันต่อต้านการเข้าร่วม CPTPP ด้วยการติดแฮชแท็ก #NoCPTPP จนได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ
โดยหลังมีการตั้งคำถามในสื่อโซเชียลฯ จำนวนมาก น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล @ttraisuree ระบุว่า "ไม่มีการประชุมลับ และไม่มีการลงมติ เรื่องที่เข้ามาคือ ขอขยายระยะเวลาศึกษาเพิ่มอีก 50 วันเพื่อความรอบคอบ"