ต้องถือว่ารัฐบาลขณะนี้ มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ต่อการเสนอข่าวของสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์ รองโฆษกรัฐบาลแถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นเท็จ คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมีจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่อ ออนไลน์ จึงให้กระทรวงดีอีเอสตรวจสอบ
ข้อมูลข่าวสารที่นายกรัฐมนตรีระบุเป็นข่าวเท็จหรือคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง เช่น ประเด็นวัคซีนและการแพร่ระบาดของโควิด ขอวิงวอนให้คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน ช่วยกันสร้างบรรยากาศของการร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้ สถานการณ์คลี่คลาย ขอให้กระทรวงดีอีเอสตรวจสอบและดำเนินการผู้กระทำผิด
เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัฐมนตรีดีอีเอสคนใหม่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กำลังติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการ “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่เพิ่งเปิดรณรงค์เพียงไม่กี่วัน แต่มีสมาชิกสนับสนุนเกือบ 7 แสนราย กลุ่มนี้ประกาศวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า เพื่อแสดงความคิดเห็นทั้งทางวิชาการ รวมทั้งการทำงานในต่างประเทศ
รัฐมนตรีดีอีเอสชี้แจงว่าได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับกลุ่มย้ายประเทศกันเยอะ ว่ามีเนื้อหาสร้างความแตกแยก และสร้างความเกลียดชัง แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการแนะแนวการศึกษาและการทำงานในต่างประเทศ แต่เป็นห่วงข้อความที่ไม่เหมาะสม และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ดีอีเอสเป็นชื่อย่อภาษาอังกฤษ ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงความก้าวหน้า ความล้ำยุคทางเทคโนโลยี เป็นชื่อที่ทำให้คนไทยมีความหวังว่า ดีอีเอสจะผลักดันการใช้ดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ แต่มีเสียงนินทาจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบางคน
...
วิจารณ์ว่าภารกิจสำคัญของดีอีเอสเท่าที่เป็นข่าวในสื่อ ส่วนใหญ่เป็นการตรวจหรือเซ็นเซอร์ข่าว เพื่อคอยจับผิดว่ามีใครเผยแพร่ข่าวในทางลบต่อรัฐบาล เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำ ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยจะมีข่าวการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยการใช้ดิจิทัล
รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีความอ่อนไหวต่อการเสนอข่าวหรือการวิพากษ์ วิจารณ์ ซึ่งเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ที่กลายเป็นกฎหมายห้ามชุมนุม เท่ากับงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา หวังว่าคงจะไม่ถึงกับห้ามประชาชนเดินทางและย้ายถิ่นที่อยู่.