“สัณหพจน์” เย้ย ปชป.ล้มเหลวดิ้นต้าน “ธรรมนัส” คุม 3 จว.ภาคใต้ “สุพัฒนพงษ์” โอ่ 2 สัปดาห์รัฐบาลคุมอยู่โควิดแพร่ระบาด ยันงบฯมีพอเยียวยา ไม่ต้องกู้เพิ่ม โฆษก ปชป.เฉ่ง พปชร.เห็นแก่ตัว ขู่นับถอยหลังได้เลย “อันวาร์” โวยลั่นพรรคเผชิญหน้าภัยคุกคามการเมือง เผด็จการจำแลงสั่งยึดพื้นที่แดนสะตอ พท.โบ้ยพรรคร่วม รบ.ทะเลาะกัน อย่าดึงฝ่ายค้านเข้าไปเอี่ยว “ภูมิธรรม” ซัดปล่อยข่าวดึง พท.เสียบแทน ภท.กลบกระแสรัฐบาลล้มเหลวแตกร้าว “วิสาร” ไล่ “ประยุทธ์” ไขก๊อกอย่าซื้อเวลาสร้างหายนะประเทศ รองโฆษก ทบ.แจงจำเป็นเดินหน้าจัดซื้ออาวุธเพื่อความมั่นคงของชาติ
จากกรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทบทวนการออกคำสั่งนายกฯที่ 85/2564 มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด โดยมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปกำกับดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ท่ามกลางการจับตาเป็นเกมการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล
พปชร.เย้ยพรรคเก่าแก่ดิ้นพล่าน
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ในช่วงวิกฤติ พรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ต้องช่วยกันดูแลประชาชน แต่บางพรรคกลับออกมาตีโพยตีพายเรื่องการเมือง โดยเฉพาะคำสั่งนายกฯที่ 85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด โดยมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีดูแลพื้นที่ภาคใต้ เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีเข้ามาดูแล จะได้มีแนวคิดใหม่ๆ หวังเปลี่ยนแปลงพัฒนาใหม่ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังจากที่ผ่านมามีเพียงกลุ่มการเมืองเดิมที่อยู่มากว่า 30 ปี แต่ภาคใต้กลับไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ที่เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ไม่ใช่เพราะเป็นรัฐมนตรีสังกัดพลังประชารัฐ เพราะไม่ว่าใครเข้ามาดูแลหากช่วยขับเคลื่อนให้พื้นที่ภาคใต้พัฒนากว่าที่ผ่านมา พร้อมสนับสนุนทุกคน เนื่องจากเราเคยให้โอกาสพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองเดิมๆ บริหารพื้นที่มานานกว่า 30 ปี แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลย การเปลี่ยนบุคคลมาดูแลจึงเท่ากับสะท้อนความล้มเหลวของกลุ่มการเมืองเดิมๆ
...
รบ.โว 2 สัปดาห์คุมโควิดได้ ไม่ต้องกู้เพิ่ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ว่ายังคงมั่นใจว่าการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลจะควบคุมได้ภายใน 2 สัปดาห์ แม้จะมีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้รักษาหายก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ขอให้ประชาชนยังคงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลดูแลสถานการณ์ได้ เมื่อถามว่าแผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะเป็นไปตามแผนเดิมหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ยังเป็นไปตามแผนเดิมคือเดือน ก.ค.จะเปิดบางส่วนบางพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวได้ เมื่อถามว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยหมดโอกาสขยายตัวถึง 4% แล้วใช่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่ายังคาดหวังว่าถ้าประชาชนช่วยกันจับจ่ายใช้สอยกันมาก โดยเฉพาะผู้มีเงินออม เดือน พ.ค.ได้เตรียมมาตรการไว้แล้วให้คนเอาเงินออมออกมาใช้ โดยรัฐบาลสนับสนุนมาตรการบางส่วน มาตรการเยียวยาเตรียมไว้แล้วจะประกาศให้ทราบเดือน พ.ค.มีผลบังคับใช้เดือน มิ.ย.มาตรการที่จะออกมารัฐบาลยังมีเงินพอเยียวยารอบนี้ ยังไม่ต้องกู้เงินเพิ่มเติม
คน ปชป.โวยเผชิญภัยคุกคามการเมือง
นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 85/2564 มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบจังหวัดขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในระดับพื้นที่จังหวัด กำลังเป็นกระแสร้อนระอุในพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.และสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรคเห็นพ้องว่า รมต.ที่ถูกมอบหมายให้มากำกับพื้นที่ผิดฝาผิดตัว เช่น ให้ รมต.พรรคแกนนำรัฐบาลจากภาคเหนือมาดูแลกำกับ 3 จังหวัดใหญ่ภาคใต้ ไม่คำนึงถึงมารยาทการเมืองร่วมรัฐบาล ดูเสมือนว่าพื้นที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะถูกยึด ได้รับข้อมูลน่าเชื่อถือว่าประเทศชาติกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางการเมืองในรูปแบบเผด็จการแฝงคราบประชาธิปไตย อาศัยกระบวนการเลือกตั้งสร้างความชอบธรรมสืบทอดอำนาจทั้งระดับประเทศ ระดับพรรคและระดับพื้นที่
“อันวาร์” ปูดถูกสั่งให้แพ้ ลต.ครั้งหน้า
นายอันวาร์กล่าวว่า รู้มานานแล้วพรรคตั้งใหม่ไม่มีพื้นที่ตัวเอง แย่งซื้อตัว ส.ส.ที่มีฐานเสียงจากพรรคอื่นให้ได้ ถ้าไม่ได้ต้องแย่งพื้นที่ จ.ปัตตานีพื้นที่เป้าหมาย ยิ่งผมยืนยันว่าไม่ย้ายพรรค จึงถูกสั่งให้แพ้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่อย่าตื่นเต้นตกใจหรือกังวลกับคำสั่งดังกล่าว เป็นสิทธิ์ของนายกฯ จะโทษหรือโกรธคนอื่นไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง ขอเชิญให้สมาชิกพรรคผนึกกำลังต่อสู้ เพื่อรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ให้ได้
พท.ปฏิเสธพัลวันเสียบแทน ภท.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวแกนนำรัฐบาลหาพรรคสำรองดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาลแทนพรรคภูมิใจไทยว่า ขอปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีมูลความจริง เป็นเฟกนิวส์หวังผลทางการเมือง เบี่ยงเบนประเด็นวิกฤติเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่ขัดแย้งแตกแยกกันอย่างหนัก แทบทุกครั้งที่มีกระแสข่าวขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จะใช้หมากเกมการเมืองโบราณตื้นๆเต้าข่าวตลอด ไม่มีความจำเป็นใดๆที่สถาบันทางการเมืองอันดับหนึ่งมี ส.ส.มากที่สุด จะไปเป็นพรรคอะไหล่เสียบแทนพรรคอื่น รัฐบาลควรลาออกหรือยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น ถนนทุกสายจะไหลรวมออกมาขับไล่รัฐบาล
ซัดปล่อยข่าวเบี่ยงกระแส รบ.ร้าว
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะร่วมรัฐบาล ไม่เป็นความจริง อาจเป็นข้อเสนอของรัฐบาลหรือรัฐบาลปล่อยข่าวเอง สะท้อนความไม่เป็นเอกภาพในรัฐบาลและการจัดการภายในล้มเหลว ขณะนี้เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายต้องทำให้ภาวะวิกฤตินี้ผ่านพ้นไปด้วยดีเร็วที่สุด รัฐบาลต้องฟังให้มาก นำความเห็นฝ่ายต่างๆไปบริหาร อย่าเบี่ยงเบนประเด็นให้คนอื่น รับผิดชอบ ต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นไปให้ได้ ต้องทำคู่ขนานกับการฟื้นฟู เศรษฐกิจ ให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ได้ ส่วนกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ลาออกหลังบริหารงานผิดพลาด เป็นมารยาททางการเมืองเมื่อเกิดผิดพลาดจากการบริหารต้องทบทวนตัวเองลาออกตามวิถีทางการเมือง ถ้ารับผิดชอบ หรือบริหารจัดการไม่ได้ นายกต้องทบทวนตัวเอง ไม่ใช่โยนปัญหาหรือเบี่ยงประเด็น
“สมคิด” โวยทะเลาะกันอย่าดึงไปเกี่ยว
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ข่าวแบบนี้มีบ่อยครั้งเมื่อใดที่รัฐบาลมีปัญหา จะใช้ข่าวเช่นนี้ป้องปรามปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ให้ไม่กล้ามีปากมีเสียงกับพรรคพลังประชารัฐ ใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้ไปเกี่ยวข้องและไม่มีทางร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว 2 ปีกว่าเราเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ ขอให้พิสูจน์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ใครควรเป็นรัฐบาลมากกว่ากัน ขอร้องพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาไปจัดการกันเองอย่ามาลากพรรคเพื่อไทยไปเกี่ยวข้องเลย
“โทนี่” โผล่สิงคโปร์แค่มาตรวจสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีมีการเผยแพร่ภาพ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปรากฏตัวที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. จนมีการตั้งข้อสังเกตว่ามาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองนั้น จากการสอบถาม นายทักษิณระบุว่า มาตรวจสุขภาพและพบเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกันนาน รวมถึงมีประชุมธุรกิจบ้างและขณะนี้กลับนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว
ไล่ “บิ๊กตู่” ไขก๊อกอย่าซื้อเวลาก่อหายนะ
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าโควิด-19 ระบาดทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ติดเชื้อเกินวันละ 2 พัน มีคนรอเตียงอยู่เป็นจำนวนมาก ชี้ชัดว่าการจัดการของรัฐบาลล้มเหลว หากรัฐบาลยังไร้ทิศทางไร้แผนงานบริหารจัดการให้ผู้ติดเชื้อได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ จะพบว่ามีคนไทยตายเพิ่มขึ้นอีกมาก ช่วงเวลา 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ทำลายความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขย่อยยับจากเดิมอยู่ในอันดับ 6 ของโลก ตอนนี้ล้าหลังในอาเซียน เพราะรวบอำนาจบริหารจัดการไว้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ส่งผลให้ล้มเหลวทุกด้าน ถึงเวลาต้องพูดความจริงกับประชาชน ต้องชัดเจนเรื่องวัคซีน มาพูดเลื่อนลอยเพียงว่ามีวัคซีนยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ไม่ทำให้คนเชื่อมั่น ไม่เปิดโอกาสให้ รพ.เอกชนจัดหาวัคซีนเพราะอะไร กลัวได้วัคซีนปลอมเป็นเพียงข้ออ้างมากกว่า หรือกลัวว่าวัคซีนที่เอกชนซื้อจะถูกกว่ารัฐบาลหลายเท่าตัว ถ้าจริงใจอย่าปิดบัง ไม่ควรมีการทุจริตงบฯปกป้องชีวิตประชาชน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ก็ลาออกหรือยุบสภา อย่าซื้อเวลาสร้างความหายนะให้ประเทศต่อไป
“โจ้” ตอก “บิ๊กตู่” ต้องรับผิดชอบโดยตรง
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พร้อม น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย นายจิระพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง ผอ.ศบค.ให้ตรวจสอบนายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาปิดบังข้อมูลการป่วยโควิด-19 หลังป่วยเป็นโควิดวันที่ 9 เม.ย. หลังวันที่ 7 เม.ย.เซ็นเอ็มโอยูกับเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และติดโควิดจริง ไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าแค่ 3 วัน แต่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กลับปิด ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร กรณีการลงชื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขออกจากตำแหน่ง อยู่ที่ตัวนายกฯ เพราะเป็น ผอ.ศบค.ถ้ามีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินบกพร่องต้องตัดสินใจว่าจะปรับ ครม.หรือจะทำอย่างไร คนที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงคือนายกฯ ที่พูดก่อนหยุดสงกรานต์ว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” เอาชีวิตคนมาเดิมพันได้อย่างไร ทำไมขณะนั้นไม่คิดจะทำอะไร ปล่อยให้คนเดินทางช่วงสงกรานต์ ทำให้เชื้อแพร่ไปทั่วประเทศ วันนี้คุมกันลำบากแล้ว
“เทพไท” ฉะชะล่าใจประเมินพลาด
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท น่าจับตา สธ.ได้รับอนุมัติวงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายเพียง 5,000 ล้านบาทเศษ (25%) โครงการช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยประชาชน อนุมัติ 170,000 ล้านบาท เบิกจ่าย 159,077 ล้านบาท (93.58%) แต่แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน อนุมัติ 9,408 ล้านบาท เบิกจ่าย 735 ล้านบาท (7.82%) จึงตั้งข้อสังเกตการเตรียมพร้อมด้านสถานพยาบาลและเตรียมรับมือ สถานการณ์ฉุกเฉิน (โควิด-19) วงเงินอนุมัติราว 11,500 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายเพียง 55 ล้านบาท เป็นความล้มเหลวการใช้เงินกู้รองรับการระบาดโควิด-19 อย่างสิ้นเชิง รัฐบาลตั้งอยู่ในความประมาท ประเมินผิดพลาดว่าจะไม่กลับมาระบาดอีก จึงชะล่าใจไม่เร่งรัดใช้เงินตามเป้าหมาย แต่งบฯเยียวยากลับเร่งรัดจ่ายเกือบครบ 100% แสดงว่ารัฐบาลใช้เม็ดเงินหาเสียงสร้างความนิยม จึงระดมแจกเงินให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว งบฯที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย รัฐบาลควรทบทวนโครงการที่ยังไม่ใช้นำเม็ดเงินมารวมกันใช้รับมือกับการแพร่ระบาด ซื้อเครื่องมือตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซื้อวัคซีน และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ให้ รพ.ทั่วประเทศ
ศปฉ.ปชป.ตีปี๊บช่วยผู้ป่วยตกค้างแล้ว
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าหลังพรรคเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) ประสานแก้ปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 ตกค้าง มีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยและแกนนำชาวบ้านในชุมชนติดต่อมาต่อเนื่อง ได้ประสานสถานพยาบาลมารับตัวไปรักษาแล้ว 2 ราย พรรคได้ตั้งทีม DEM Call Team เข้ามาช่วยเพิ่มอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ราเมศ” เฉ่งเห็นแก่ตัวนับถอยหลังได้เลย
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพูดให้ร้ายพรรคอื่น บอกว่า การเปลี่ยนตัวบุคคลสะท้อนความล้มเหลวของกลุ่มการเมืองเดิม พูดแล้วดูดีในทางการเมือง วันหนึ่งสังคมจะรู้ การมอบหมายงานรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์บอกตรงๆไปแล้วว่าไม่พอใจ เพราะไม่มีความเหมาะสมในการมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคใต้มีพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม ควรหารัฐมนตรีคนที่เหมาะสมไปทำงานจะเกิดประโยชน์มากกว่า พรรคพลังประชารัฐ ควรตักเตือนให้พูดจาสร้างสรรค์ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ควรช่วยกันคิด ร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน แต่ถ้าคิดแต่ประโยชน์ส่วนตนก็นับถอยหลังได้เลย
“เจ๊หน่อย” กระทุ้งเพิ่มงบฯจบวิกฤติ
เมื่อเวลา 13.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นำทีม กทม. รวมพลังสู้ภัยโควิดของพรรคไทยสร้างไทย ประสานรถพยาบาล รพ.ธนบุรี มารับผู้ป่วยคู่สามีภรรยาติดเชื้อโควิด-19 จากอพาร์ตเมนต์ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย สามีมีไข้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ภรรยาเริ่มมีไข้วันที่ 21 เม.ย. ผลตรวจพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 23 เม.ย. และกำลังท้อง 2 เดือน จึงเป็นห่วงลูกในท้อง สามีไข้สูง มีหอบหืดหนักจนพูดไม่ไหว ทีมเราได้ช่วยประสานงานฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ในอาคารอพาร์ตเมนต์ที่มีผู้ป่วยโควิด-19
คุณหญิงสุดารัตน์เปิดเผยว่า สถานการณ์เริ่มวิกฤติน่าหนักใจ รอบนี้ป่วยวันละ 2 พันกว่าคน อาทิตย์ละหมื่นกว่าคน ต้องเร่งรีบหาเตียงและเครื่องมือรองรับ การระบาดรอบ 3 มีผู้ป่วยหนักเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญและผู้เสียชีวิตรอบกว่า 20 วัน สูงถึง 54 ราย แสดงว่าการบริหารจัดการเรื่องเตียงและการตรวจไม่ทันกาล ทำให้คนป่วยหนักเสียชีวิตมากขึ้น จึงต้องเร่งแก้ปัญหาให้จบภายในสัปดาห์นี้ เร่งกระจายงบฯจากส่วนกลาง ไปให้แต่ละ รพ. แก้ไขปัญหาตรวจหาเชื้อน้อยและตรวจช้า ให้ตั้งงบฯตรวจโควิด-19 ไว้ให้ รพ. 1,600 ล้านบาท จะตรวจได้ 1 ล้านคน
ไร้คำตอบเลื่อนเปิดประชุมรัฐสภา
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีมีบุคคลภายนอกติดเชื้อโควิด-19 แล้วเข้ามาประชุมและปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาจะกระทบกับการเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญวันที่ 22 พ.ค.หรือไม่ว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาชี้แจงกรณีเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญ จะชี้แจงอีกครั้ง งานประชุมอื่นของรัฐสภายังเป็นไปตามปกติ ส่วนใหญ่ประชุมผ่านระบบออนไลน์หรือใช้แอปพลิเคชันซูมสถานการณ์เช่นนี้ต้องปรับตัว เมื่อวันที่ 5 เม.ย. เลขาธิการสภาฯรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อในรัฐสภา 1 คน คนกลุ่มเสี่ยงให้กักตัว 14 วัน
ห่วงเป็นคลัสเตอร์แพร่ไวรัสมรณะ
นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการ สภาฯ กล่าวว่า หากสัปดาห์หน้าผู้ติดเชื้อไม่ลดจากหลัก 2,000 คน ต้องคุยกับสำนักการแพทย์ สำนักงานเลขาธิการสภาฯและศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ ประเมินการเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญวันที่ 22 พ.ค.ว่าจะปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยสูงสุด เช่น ขอให้งดส่ง ส.ส.อายุเกิน 60 ปีหรือ 65 ปีเข้าประชุม แต่ต้องตรวจสอบองค์ประชุมก่อนว่าเพียงพอหรือไม่ หรือปรับมาตรการอื่นเพิ่มเติมจะเลื่อนออกไป 1-2 เดือนได้หรือไม่ มีข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาฯ หลายคนเป็นกลุ่มเสี่ยงทำงานกับคนกลายกลุ่ม หากติดเชื้อแพร่จะเป็นคลัสเตอร์ที่น่ากลัว
ศาลชี้คำสั่งเรียกของ คสช.ขัด รธน.
ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 (แขวงดุสิต) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ.เป็นจำเลยฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 5/2557, 57/2557 (เรียกชื่อให้มารายงานตัว) และประกาศ คสช.ฉบับที่ 29/2557, 41/2557 (กำหนดโทษคนไม่มารายงานตัว) กรณีนายวรเจตน์ไม่ไปรายงานตัวต่อ คสช.หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 สรุปว่าประกาศ คสช.ทั้ง 2 ฉบับ เป็นกฎหมายจำกัดสิทธิและเสรีภาพบุคคล การกำหนดโทษทางอาญาต้องพิจารณาว่ามีความเหมาะสม เทียบเคียงกับกรณีการนำตัวบุคคลที่ยังมิได้กระทำความผิด เพียงแต่มีเหตุอันควรสงสัย มีการกำหนดวิธีการเพื่อความปลอดภัย ตาม ป.อาญา มาตรา 46 แทนการกำหนดโทษทางอาญาและการออกคำสั่งเรียกให้มารายงานตัวก่อนแล้วออกประกาศกำหนดโทษภายหลัง ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคหนึ่ง เป็นอันใช้บังคับมิได้ วินิจฉัยว่า ประกาศ คสช.ฉบับที่ 29/2557, 41/2557 เฉพาะในส่วนโทษทางอาญา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และเฉพาะประกาศ คสช.ฉบับที่ 29/2557 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคหนึ่งด้วย ศาลนัดฟังคำพิพากษา (คดีหลัก) วันที่ 8 มิ.ย.2564 เวลา 09.00 น.
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายวรเจตน์ กล่าวว่าคำวินิจฉัยนี้ส่งผลให้บุคคลที่ถูกคำสั่งเรียกรายงานตัวที่ยังไม่มารายงานตัว เกรงกลัวความผิดขัดคำสั่งเรียกรายงานตัวกลับเข้ามาประเทศได้ หากไม่มีข้อหาความผิดฐานอื่น
ทบ.แจงจำเป็นเดินหน้าซื้ออาวุธ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอไปยังกระทรวงกลาโหม (กห.)ให้เลื่อนการรับ-ฝึกทหารใหม่ไป 2 เดือนป้องกันโควิด-19 ว่า กห.จะชี้แจงให้ได้รับทราบใน 1-2 วัน ส่วนข้อวิจารณ์การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ได้กำชับทุกหน่วยงบฯอะไรที่ปรับมาช่วยเหลือประชาชนได้ขอให้พิจารณา แต่อะไรเป็นการดำรงความพร้อมด้านความมั่นคงของประเทศและมีความจำเป็น ผ่านการเห็นชอบระดับสายการบังคับบัญชาและรัฐบาลแล้ว คงจำเป็นต้องเดินหน้า ภายใต้ข้อผูกพันที่มี