นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม รพ.สนาม เอราวัณ 2 ของ กทม. พร้อมรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 สั่งเพิ่มคู่สาย 1668, 1669 เผย พร้อมใช้มาตรการแรงขึ้นหากคุมโควิดไม่อยู่ เมินตอบเรื่อง “ทักษิณ”
วันที่ 21 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม (เอราวัณ 2) สนามบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 ของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ บุคลากรทางการแพทย์ของกรุงเทพมหานคร ที่เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม (เอราวัณ 2) แห่งนี้ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยรัฐบาลทำงานทั้งเชิงรุกและตั้งรับ กำหนดแผนเผชิญเหตุ เพื่อให้พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ตลอดเวลา ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยยึดตามมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรค ทั้งระบบระบายอากาศ การจัดการขยะติดเชื้อ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ ซึ่งมีความชัดเจนในการแบ่งระดับอาการของผู้ป่วยเป็นสีๆ ได้แก่ สีเขียว คือ ผู้ป่วยอาการไม่มาก หรือไม่มีอาการ หรืออาการน้อยๆ ไม่มีโรคร่วม อาการดีหมด จะส่งไปมายังโรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel แต่หากมีอาการเข้ากลุ่มสีเหลือง หรือสีแดง จะส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษา รวมทั้งสั่งการให้กระทรวงกลาโหมจัดรถพยาบาลทหารเข้ามาให้การช่วยเหลือร่วมกับรถพยาบาลด้วย
...
พล.อ.ประยุทธ์ ยังเน้นย้ำให้เร่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจกับสถานการณ์โควิด-19 ที่มีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วนต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือหรือรับแจ้งเหตุผู้ที่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์ เพื่อให้เข้าถึงการอำนวยความสะดวก รวมถึงการดำเนินของรัฐบาลในการป้องกันการติดเชื้อทำเต็มรูปแบบตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในการเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม มั่นใจว่าเมื่อประชาชนทุกคนร่วมมือกันทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี และยังช่วยลดความเสี่ยงแพทย์ บุคลากรด้านสาธารณสุขในการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนักและรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมกับเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทุกคนร่วมมือกันในวันนี้จะเกื้อหนุนให้การทำงานสำเร็จไปได้ด้วยดีในการดูแลประชาชนทั้งประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ให้พี่น้องประชาชนปลอดภัย จะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของทุกคนด้วย
"มาตรการถ้ามันคุมไม่อยู่ก็ต้องแรงขึ้นๆ ซึ่งเราทุกคนคงไม่อยากไปถึงจุดนั้น ผมเห็นใจพี่น้องประชาชนรายได้น้อย เศรษฐกิจฐานรากเขาเดือดร้อน SME มีปัญหา รัฐบาลก็กำลังเตรียมมาตรการทางด้านเศรษฐกิจระยะนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก็ขอเวลาสักนิดนึง เพราะต้องเตรียมงบประมาณ แนวทาง หลายคนเสนอง่ายๆ จ่ายเงินไปๆ อย่างนั้นคงไม่ได้ทั้งหมด งบประมาณเราก็มีจำนวนจำกัด"
เมื่อถูกถามว่าหากสถานการณ์แรงขึ้นจะมีการเคอร์ฟิวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ถ้า 2 สัปดาห์นี้ควบคุมสถานการณ์ได้ ตัวเลขดีขึ้น ก็ไม่ต้องไปหนักกว่านั้น ใครจะอยากทำ พอทำมาระยะแรกก็ดี แต่ตอนนี้มันสมควรหรือยัง ก็ต้องเป็นระยะๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานเข้ามาทุกวันและอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ ย้ำว่ายังนำเข้าวัคซีนได้อยู่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีชี้ให้ดูโรงพยาบาลสนามก่อนกล่าวว่า “เป็นผม ผมก็อยู่นะ ก็ดูแลดีที่สุดแล้ว”
ส่วนเรื่องสายด่วน 1668, 1669 นั้น สั่งการไปแล้ว กำลังดำเนินการเพิ่มคู่สาย จะต้องมีคนรับสาย เพราะลองโทรแล้วมีปัญหาอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องดูด้วยว่าที่ไม่รับเพราะอะไร ขณะที่เมื่อถูกถามถึงเรื่องที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับทันควันว่า "ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้เรื่องเขา"