กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันและเครือข่าย ออกแถลงการณ์ร่วม ขอให้ผู้ที่จาบจ้วง ดูหมิ่น และคิดร้ายต่อสถาบันยุติการกระทำ โดยจะต่อสู้แบบถูกกฎหมาย เพื่อต่อต้านขัดขวางทุกการกระทำ ก่อนจะแยกย้ายสลายตัวไป

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มี.ค.64 กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันและเครือข่าย นำโดยนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ บูรณพนธ์ พร้อมผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน ชุมนุมแสดงพลังปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ บริเวณฟุตปาทหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ ทั้งนี้แกนนำ กลุ่มผู้ชุมนุม และกลุ่มสื่อมวลชนต้องผ่านคัดกรองการแพร่เชื้อโควิด-19

นายอัครวุธ ได้อ่านแถลงการณ์ ของกลุ่มปกป้องสถาบัน โดยมีใจความว่า ด้วยพวกเรากลุ่ม ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบัน ประกอบด้วย กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน กลุ่มนักรบองค์ดำสองคาบสมุทร กลุ่มนักรบศรีวิชัยสองคาบสมุทร กลุ่มนักรบอิสระ กลุ่มกุหลาบพิทักษ์ราชัน กลุ่ม ศอปส. กลุ่ม ศปปส. กลุ่มอนุชนคนรักสถาบัน มีบทบาทและเป้าหมายในการพิทักษ์ รักษา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันสูงสุดของประเทศเรา โดยมีเป้าหมายชัดเจน ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อถวายความจงรักภักดี และปกป้องสถาบันกษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของพวกเราชาวไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

...

โดยกลุ่มเราดำเนินการและทำกิจกรรมต่างๆ ภายใต้กฎหมายความถูกต้อง และไม่ใช้ความรุนแรง โดยกลุ่มเรามีความเชื่อว่า ยังมีพี่น้องชาวไทยอีกเป็นจำนวนมากมหาศาลทั่วประเทศ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับพวกเรา ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า มีกลุ่มผู้เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆกระจายไปในหลายพื้นที่เกือบทั่วประเทศ ใช้ชื่อกลุ่มต่างๆ ในการดำเนินกิจกรรม สิ่งที่ผ่านมาล้วนแต่สร้างความแตกแยก เดือดร้อน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวรายวันมาโดยตลอด และภายใต้ การทำกิจกรรมที่ผ่านมาหลายครั้ง ที่มีการจาบจ้วง

การกระทำเชิงสัญลักษณ์ ที่เป็นการดูหมิ่นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นการขวางขบวนเสด็จ ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่อขบวนเสด็จ การแต่งกายล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ไปจนถึงราชวงศ์ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ตามที่เป็นข่าวที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุด ได้มีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งผู้กระทำผิด อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกิจกรรมการก่อความวุ่นวาย การสร้างความแตกแยก ทั้งหมดอาจมีให้การสนับสนุนและอยู่เบื้องหลัง ทำกันเป็นกระบวนการ ซึ่งอาจจะสร้างเหตุการณ์อื่นๆ สร้างกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาอย่างไม่จบสิ้น โดยระยะหลังเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เป้าประสงค์ที่แท้จริง คือ การล้มล้างสถาบันกษัตริย์โดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย และท้าทายอำนาจรัฐนั่นเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการย่ำยีหัวใจคนไทยที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดที่จะอดทนอดกลั้นได้อีกต่อไป

นายอัครวุธ กล่าวอีกว่า กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน จึงมีมติเห็นพ้องต้องกัน ที่จะต้องแสดงออกเพื่อเป็นการปกป้อง และแสดงจุดยืนร่วมกับพลังเงียบของคนไทยทั่วประเทศ เราจึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทย ที่อยู่อย่างจงรักภักดี ออกมาร่วมแสดงพลังให้ผู้ที่คิดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์ โดยเฉพาะผู้อยู่เบื้องหลังขอจงหยุดการกระทำทั้งหมดทันที เราจะไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดี กระทำการล้มล้าง ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป เราจึงขอประกาศว่า มันผู้ใดที่บังอาจจาบจ้วง ดูหมิ่น และคิดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ และราชวงศ์ แบ่งแยกประเทศ คิดจะเปลี่ยนธงไตรรงค์ เราขอเป็นตัวแทนพลังเงียบทั่วไทย พร้อมที่จะลุกฮือร่วมกันต่อต้านและขัดขวาง ทุกการกระทำที่เป็นการเหยียบย่ำจิตใจคนไทยอย่างถึงที่สุด และนี่จะเป็นการเตือนแค่ครั้งเดียว แล้วมาดูกันว่าการต่อสู้แบบถูกกฎหมาย โดยพลังเงียบจากประชาชนของพระราชาจะมีแสนยานุภาพที่น่าเกรงขามที่สุด

จากนั้นได้มีแกนนำสับเปลี่ยนกล่าวปราศรัยโจมตีพวกที่จ้องล้มล้างสถาบันกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน นำกำลังมาดูแลความเรียบร้อย พร้อมอ่านประกาศผู้ชุมนุมมีความผิด พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ สั่งให้ยุติการชุมนุมทันที ก่อนที่แกนนำจะประกาศยุติการชุมนุม เมื่อเวลา  16.00 น. โดยให้ผู้ชุมนุมรวมกลุ่มชูภาพกลุ่มราษฎรใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำลายสถานที่และทรัพย์สินของทางราชการเสียหายทุบทำลาย สาดสี ก่อนจะร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายกันกลับและเหตุการณ์ปกติเรียบร้อยดี

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ลงไปที่พื้นถนนกีดขวางการจราจรแต่อย่างใด.