“บิ๊กตู่” จี้พรรคร่วมฯเร่งส่งชื่อปรับ ครม. ตอกฝาโลงไม่มีคนนอก “ชัยวุฒิ” คึกจัดเต็มตามบัญชาผู้ใหญ่ “อิทธิพล” พร้อมมากได้หมดโยกเก้าอี้ไป

ดีอีเอส “อนุชา” เลี่ยงตอบแอบลุ้นเลื่อนขั้นนั่ง รมว.ศธ. ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยรัฐสภามีอำนาจแก้ รธน.ยกฉบับหรือไม่ นัด 11 มี.ค.ลงมติชี้ขาด “สมชาย” ติงอย่าด่วนสรุป ส.ว.จ้องล้มรื้อ รธน. “วิโรจน์”

ซัดจระเข้ขวางคลอง งอแงตั้งแง่ทำแท้ง ส.ส.ร. “ชวลิต” อัดลูกหาบดิ้นรักษาระบอบประยุทธ์หวงอำนาจล็อกคอเลือกนายกฯ “ประยุทธ์” เต้นสั่ง กห.รีบเคลียร์ปมเฟซบุ๊กลบบัญชีไอโอโยงกองทัพไทย กอ.รมน.โยนเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร “ก้าวไกล” หยันอับอายไปทั่วโลก ไอลอว์ร้องศาลปกครองสั่ง ทบ.ยุติยกเลิกแบล็กลิสต์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลเร่งส่งรายชื่อ รัฐมนตรี เพื่อดำเนินการด้านเอกสารธุรการในการปรับ ครม.ให้เสร็จโดยเร็วภายในเดือน มี.ค. โดยยืนยันชัดเจนว่าไม่มีคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี

“บิ๊กตู่” ยาหอม ขรก.เราหัวอกเดียวกัน

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 มี.ค.ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก่อนการประชุม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบของที่ระลึกให้นายกฯ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า ปกติไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ถือว่าพวกเราหัวอกเดียวกัน นายกฯเคยเป็นข้าราชการมาก่อน จึงรู้ดีถึงปัญหาและข้อขัดข้องที่เราดำเนินการ โดยเฉพาะการบริหารราชการแนวใหม่ รัฐบาลต้องขับเคลื่อนหลายอย่างด้วยกัน ถือว่ามาพบพูดกับคนในครอบครัวว่าจะทำอย่างไรให้ครอบครัวใหญ่ของเราคือประเทศไทยอยู่ดีกินดี ก้าวหน้าแก้ปัญหาอุปสรรคใหม่ๆ เพื่อเป็นอนาคตของพวกเราทุกคน

...

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า เป็นการประชุมเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินทั้งระบบ ได้ย้ำเตือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติงานให้สุจริตโปร่งใส แก้ปัญหาค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ที่อาจมีข้อมูลไม่ครบถ้วน ทุกคนต้องมีผลงานให้ได้ด้วยหลักธรรมาภิบาล

เผย ครม.ประยุทธ์ 2/4 ไร้คนนอก

พล.อ. ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ติดต่อประสานหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ให้เร่งส่งรายชื่อขึ้นมาให้ คิดว่าจะเร่งทำให้แล้วเสร็จตามขั้นตอน เพื่อนำไปสู่กระบวนการทางเอกสารทางธุรการ เพื่อให้เร็วภายในเดือน มี.ค. ก่อนขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นขอให้หยุดได้แล้วใครเป็นอะไรต่างๆก็ตาม ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคเสนอขึ้นมา ตนเป็นคนที่เลือก คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการปรับที่ไม่มากนัก เมื่อถามว่าจะมีชื่อคนนอกเข้ามาร่วมการปรับ ครม.ครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พูดไปหลายครั้งแล้ว เป็นเรื่องของพรรคและเรื่องโควตาพรรค เสนออะไรขึ้นมาในกรอบของเขา ก่อนกล่าวเสียงดังหนักแน่นว่า “ไม่มีคนนอก จบนะ”

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการพิจารณาบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารในเดือน เม.ย.ว่า ในชั้นต้นได้มีการประชุมไปแล้วไม่มีปัญหาอะไรเป็นไปตามที่เสนอขึ้นมาถอนหายใจบ่นเหนื่อยทำเต็มที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆว่า “อะไรที่มันเรียบร้อย อะไรที่มันสงบเงียบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ขอว่าอย่าให้มีปัญหาก็แล้วกันแค่นั้น ผมจะได้มีสมองไว้ทำอย่างอื่น ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกันด้วย ผมก็ทำให้เต็มที่อยู่แล้วต้องไว้วางใจซึ่งกันและกันบ้าง อะไรที่ไม่ใช่ประเด็นปัญหา อย่าไปเปิดขึ้นมาเลย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์พูดมาถึงตรงนี้ได้ถอนหายใจก่อนเดินออกจากโพเดียม กลับขึ้นห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมดูเหมือนวันนี้นายกฯเหนื่อย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบว่าก็เหนื่อยทุกวันนั่นแหละ พร้อมถอนหายใจอีกครั้ง

“ชัยวุฒิ” แบะท่าพร้อมนั่งแป้น รมต.

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อให้เป็น รมว.ศึกษาธิการ หรือ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ว่า ไม่ทราบเรื่องเพิ่งเห็นข่าวจากสื่อเช่นกัน ขณะนี้ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบ การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่สมาชิกให้อำนาจเด็ดขาดพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลของพรรค ที่ผ่านมาทำงานไม่ว่าจะในบทบาทไหนเต็มที่มาตลอด เพราะตั้งใจมาทำงานให้บ้านเมืองอยู่แล้วและพร้อมทำงานทุกอย่างตามที่ผู้ใหญ่มอบหมายอย่างเต็มที่

“อิทธิพล” ได้หมดโยกเก้าอี้อยู่ที่นายกฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อไปเป็น รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า ไม่ทราบ แต่ขณะนี้ได้รับมอบหมายรักษาการ รมว.ดีอีเอส ตามมติ ครม. มอบหมาย ไม่ใช่การไปชิมลางก่อนการปรับ ครม.นายกฯแจ้งใน ครม.แล้วว่าจะทำให้เร็วที่สุด อยู่ที่ว่านายกฯจะดำเนินการอย่างไร ขอทำหน้าที่รักษาการไปพลางก่อน ข้อเท็จจริงจะกระจ่างอย่างไรอยู่ที่นายกฯจะพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งใดๆ ตอนนี้ทำงานในหน้าที่ทั้ง 2 กระทรวง ตั้งแต่รักษาการยังไม่ได้เข้าไปนั่งทำงานที่กระทรวงดีอีเอส ทำงานด้านเอกสารอยู่ที่กระทรวงวัฒนธรรม ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับไอโอต่างๆ รวมถึงมาตรา 112 ดำเนินการตามกฎหมาย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส ไม่ได้ฝากฝังอะไรเป็นการเฉพาะ เมื่อถามว่าหากถูกย้ายไปดีอีเอสหนักใจหรือไม่ ต้องดำเนินการหลายอย่าง ทั้งเฟกนิวส์และการหมิ่นสถาบัน นายอิทธิพลกล่าวว่า ตามลักษณะงานมีความเหมือนและความต่างกันอยู่ หัวหน้าพรรคพลัง– ประชารัฐไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรแค่ขอบคุณที่มอบอำนาจให้จัดการเรื่องนี้เท่านั้น

ฟิตจัดบอกพร้อมมาก พร้อมตลอด

เมื่อถามว่า การวางตัว น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มานั่งรมว.วัฒนธรรมเพื่อหวังบารมีนายเสนาะ เทียนทอง นักการเมืองอาวุโส หวังผลในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า เรื่องตัวบุคคล

และเหตุผลไม่ทราบ แต่เรื่องการทำงานนายกฯได้พูดกับ ครม.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ขอให้ตั้งใจทำงานเพราะมีวาระเร่งด่วนหลายเรื่อง ตนมีภาระงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า งานที่ได้รับมอบหมายใหม่ต้องเร่งศึกษางานเพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อ เมื่อถามว่าถ้านายกฯให้รับตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส พร้อมใช่หรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า พร้อมในส่วนนี้อยู่แล้ว ไม่ว่างานด้านไหน นายกฯเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม พร้อมมาตลอดตั้งแต่นายกฯไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม พร้อมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ยินดี เราตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ส่วนทิศทางการควบคุมเว็บพอร์นฮับ เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นข้อมูลกระทบกับความเสี่ยงที่เยาวชนจะเข้าไป ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณาเปิดเว็บและจัดเรตอายุผู้เข้าชมหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า กรณีนี้เข้าข่ายกระทบต่อศีลธรรมอันดี ยืนยันว่ายังคงต้องปิดต่อไป

“อนุชา” เลี่ยงตอบลุ้นขยับนั่งเสมา 1

นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการปรับ ครม. ที่มีชื่อถูกโยกไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ ว่า “ไม่เคยได้ข่าว ไม่ได้ข่าวจริงๆ” เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ระบุว่าปรับเล็กและรอประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น แสดงว่าในพรรค พปชร.จบแล้ว นายอนุชากล่าวว่า หัวหน้าพรรค พปชร.คงคุยกับนายกฯมากกว่า ไม่ได้เข้าไปในส่วนนี้ อยู่ที่ผู้ใหญ่พิจารณา เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่หากต้องไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ นายอนุชากล่าวเลี่ยงว่า ยังไม่มี ยังไม่คุย

พรรคเล็กตื้อขอ รมต.คนนอกมากู้ ศก.

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ปัญหาหนักที่สุดขณะนี้คือธุรกิจเอกชนทั่วประเทศทรุดลงเรื่อยๆ อาจตายสนิทจากการซ้ำเติมของโควิดรอบ 2 ประกอบกับกระแสการปรับ ครม.ยึดหลักโควตา ไม่ได้ดูว่า ส.ส.ในกลุ่มมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงมีข่าว ส.ส.พรรคเล็ก 20 กว่าเสียงต่อรองขอ 2 รัฐมนตรีถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติประชาชนอาจพอรับได้ แต่ยุคโควิดเศรษฐกิจไทยร่อแร่อย่างไม่เคยมีมาก่อน จำเป็นต้องมีรัฐมนตรีมีความสามารถประสบการณ์ทางเศรษฐกิจมาแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจโควิด ขอเสนอนายกฯขอโควตารัฐมนตรี 1 ที่นั่งให้ 9 ส.ส.พรรคเล็ก แต่ไม่ใช่ต่อรองให้ ส.ส.พรรคเล็กเป็นรัฐมนตรี แต่ให้นายกฯคัดเลือกคนนอกที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจมานั่งรัฐมนตรี เป็นมือเป็นไม้แก้ปากท้องประชาชน จะอยู่กระทรวงใดแล้วแต่นายกฯกำหนด เพื่อให้มีรัฐมนตรีที่เหมาะสมมาแก้ปัญหาปากท้องคนไทย

ศาล รธน.รับวินิจฉัยแก้ รธน. ม.256

วันเดียวกัน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่าศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา256 (1) และศาลรัฐธรรมนูญได้รับหนังสือความเห็นจากพยานผู้เชี่ยวชาญ 4 คน คือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. นายบวรศักดิ์อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีต กรธ. และนายอุดม รัฐอมฤต อดีต กรธ. รวมทั้งหนังสือบันทึกถ้อยคำยืนยันของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง และคณะที่ยื่นแล้ว

นัดลงมติคำวินิจฉัย 11 มี.ค.

ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งที่ประชุมของรัฐสภามีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยและประธานรัฐสภาส่งเรื่องต่อศาล มิใช่การกระทำของสมาชิกรัฐสภาเป็นรายบุคคล แต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาของศาลจึงสั่งรับไว้เพื่อประกอบการพิจารณา ศาลได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดนัดด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 09.30 น.

“สมชาย” ขออย่ารีบสรุป ส.ว.ล้มแก้ รธน.

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดอำนาจรัฐสภาในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับวันที่ 11 มี.ค.ว่า อย่าคิดไปไกลว่า ส.ว.จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 11 มี.ค. หากชี้ว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องโหวต หากชี้ว่าทำได้ ส.ว. 250 คน ต้องตัดสินใจอีกครั้ง ขอให้ไปทีละขั้นตอน ส่วนตัวกังวลจะมีความ รุนแรงเกิดขึ้น แต่ควรใช้เหตุผล รัฐธรรมนูญปี 60 แก้ไขได้ แต่ต้องแก้รายมาตราที่มีปัญหาหรือมีความไม่สมบูรณ์ เช่น หน้าที่ สิทธิเสรีภาพ เป็นต้น และนำไปสู่การทำประชามติ หากครั้งนี้ทำไม่ได้ สมาชิกรัฐสภายังมีสิทธิเสนอญัตติขอแก้ไขเป็นรายมาตราต่อรัฐสภาได้ ทำได้ทันทีและรวดเร็ว

“วิโรจน์” อัด ส.ว.ขวางคลองล้มแก้กติกา

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง ส.ว.ยกเหตุผลจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ อ้างว่า ส.ส.มีเจตนาแตะหมวด 1 และหมวด 2 ว่า ตัวรัฐธรรมนูญมีเงื่อนไขล็อกไว้อยู่แล้วว่าต้องแก้ไขอยู่ในกรอบของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องเป็นรัฐเดี่ยวที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ทั้งยังห้ามแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 และยังไม่ทราบว่าสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งจะเป็นใคร คำถามคือ ส.ว.มีสิทธิ์อะไรจะไปสร้างเขื่อนไขและดักคอ ส.ส.ร. ล่วงหน้า ทั้งที่ไม่ได้มีรากเหง้ามาจากประชาชน ส.ว.มีแต่จะงอกข้อตกลงใหม่ๆขึ้นมา ต้องตั้งคำถามกลับไปที่ประชาชนแล้วว่าใครกันแน่ที่งอแง ใครกันแน่ไม่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ใครกันแน่ล็อกไม่ให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ ทำเป็นจระเข้ขวางคลอง ใครกันแน่เป็นปรปักษ์กับประชาชน และเป็นนั่งร้านให้กับการสืบทอดอำนาจของฝ่ายเผด็จการ ที่กล้าตั้งตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์

“ชวลิต” ซัดดิ้นรักษา “ระบอบประยุทธ์”

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ส.ว.บางคนให้สัมภาษณ์จะโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ้างว่ามี 38 มาตราถ้าแก้อาจกระทบพระราชอำนาจว่า หลักการสำคัญร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้แก้ทั้งฉบับ โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 หากจะแก้ไขพระราชอำนาจในหมวดอื่น ไม่อาจกระทำได้ ต้องยึดโยงกับหลักการใหญ่ในหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ รัฐสภามีมติตั้ง ส.ส.ร.200 คนจากการเลือกตั้งแสดงว่ารัฐสภามั่นใจในอำนาจประชาชนจะรักษาปกป้องสถาบันเหมือนกัน หากเกรงว่า ส.ส.ร.จะแก้รัฐธรรมนูญที่กระทบพระราชอำนาจ เท่ากับดูถูกประชาชนเสียงส่วนใหญ่ จะถูกมองได้ว่าไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จเพื่อรักษา “ระบอบประยุทธ์” และอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งไว้ให้มีอำนาจเลือกนายกฯอีกครั้งหนึ่งภายใน 5 ปี ตามบทเฉพาะกาล

“อนุสรณ์” เตือนระวัง ปชช.เดือดลุกฮือ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ว.บางคนประกาศจุดยืนไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 อาจโยนหินถามทาง ส่งสัญญาณถึง ส.ว.ในเครือข่ายสืบทอดอำนาจระบอบประยุทธ์ ต้องการแสดงให้พวกเดียวกันเห็นว่าการออกมาประกาศไม่ยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ ไม่ส่งผลกระทบใดๆเพื่อดึงดูดให้ ส.ว.คนอื่นกล้าออกมาประกาศ แลกกับการได้ปูนบำเหน็จต่อไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น คนพวกนี้อยู่ในตำแหน่งทางการเมืองโดยไม่ผ่านการเลือกตั้งมากว่า 10 ปี ฉายาสภาปรสิต ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย ห้อยโหนระบอบสืบทอดอำนาจ รอโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯเท่านั้น หากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขถูกคว่ำไม่ว่าจะจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือการลงมติในสภาฯ จะทำให้ประชาชนลุกฮือต่อต้านระบอบประยุทธ์ครั้งใหญ่ทั่วประเทศ หมดความอดทน รู้สึกถูกหักหลังผิดหวังซ้ำซาก ทั้งที่รัฐบาลแถลงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนข้อที่ 12 แต่ไม่จริงใจบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ถ้านายกฯเบี้ยวครั้งนี้อาจไม่มีโอกาสได้อยู่แก้รัฐธรรมนูญอีกเลย

เฟซบุ๊กลบบัญชีไอโอกองทัพไทย

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ตามเวลาสหรัฐฯบริษัทแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ประกาศลบบัญชีผู้ใช้แบบบุคคล 77 บัญชี บัญชีเพจ 72 เพจ บัญชีกลุ่ม 18 กลุ่ม และบัญชีอินสตาแกรม 18 บัญชีในประเทศไทย ฐานมีความเชื่อมโยงกับหน่วยความมั่นคงภายในของกองทัพไทย ละเมิดนโยบายการใช้งาน หลังตรวจสอบพบว่า มีการใช้บัญชีผู้ใช้ที่มีตัวตนจริงและบัญชีตัวตนแฝง ช่วยกันปั่นฟีดให้บัญชี และเพจเหล่านี้ได้รับความนิยม เกินจริงในช่วงปี 2563 ขณะที่เนื้อหาที่ถูกโพสต์เจาะกลุ่มผู้ใช้ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย โดยมีทั้งข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน คอนเทนต์สนับสนุนกองทัพและสถาบัน ไปจนถึงการเรียกร้องสันติวิธี และการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน

“บิ๊กตู่” เต้นสั่งกลาโหมรีบเคลียร์

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีเฟซบุ๊กปิดบัญชีเพจที่เชื่อมโยงปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของกองทัพในประเทศไทยว่า ตอนนี้สั่งให้กระทรวงกลาโหมไปดูแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการพูดในการอภิปรายในสภาฯให้ไปดูว่าเป็นอย่างไร หลายอย่างตอนนี้เป็นประเด็นการเมืองไปด้วย ทุกคนทราบดี ต้องไปทำให้ความชัดเจนเกิดขึ้น เคลียร์ชัดเจนให้ได้

กอ.รมน.ชิ่งเฟซส่วนตัวไม่ใช่องค์กร

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ชี้แจง ว่า 1.กอ.รมน.ไม่ทราบถึงการถูกถอดบัญชีเฟซบุ๊กตามที่เป็นข่าวเนื่องจากเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร (กอ.รมน.) เฟซบุ๊กของ กอ.รมน.ยังใช้งานได้ ตามปกติ 2.กอ.รมน.ไม่มีนโยบายให้ดำเนินงานตามที่เป็นข่าว มีหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลางขับเคลื่อนประสานงานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เป็นที่พึ่งของประชาชนที่เดือดร้อน และ 3.การใช้งานโซเชียลมีเดียของ กอ.รมน.เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลงาน สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์อย่างรวดเร็ว พร้อมรับทราบความ ต้องการของประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีขึ้น ปัจจุบัน กอ.รมน.มี Call Center 1374 รับแจ้งเหตุความมั่นคงที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ก้าวไกลหยันน่าละอายไปทั่วโลก

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าขบวนการไอโอของกองทัพมีทั้งบัญชีผู้ใช้งานจริงและปลอมโพสต์สนับสนุนกองทัพ โจมตีผู้ก่อความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบันน่าละอายไปทั่วโลก การประชาสัมพันธ์เนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ รัฐบาลต้องทำอย่างประณีต รอบคอบ เป็นทางการ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเเละ รมว.กลาโหม ใช้ปฏิบัติการไอโอแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น

ไอลอว์ร้องศาล ปค.สั่ง ทบ.หยุดไอโอ

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผจก.โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายหรือไอลอว์ นายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ “จอห์น วิญญู” พิธีกรและยูทูบเบอร์ชื่อดัง พร้อมนายสัญญา เอียดจงดี ทนายความ เข้ายื่นฟ้องกองทัพบก (ทบ.) และ พล.อ.ณรงค์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.เนื่องจากถูก ทบ.ทำไอโอ ขอให้ศาลปกครองสั่งยุติไอโอที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดทันที รวมทั้งให้ลบข้อมูลแบล็กลิสต์ต่างๆออกจากสารบบของ ทบ.และให้ขอโทษออกสื่อสาธารณะ

ซัดผลาญภาษีไร้สาระหยาบคาย

นายยิ่งชีพกล่าวว่า เฟซบุ๊กพบว่ากองทัพใช้ไอโอมุ่งโจมตีประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล กองทัพจัดกลุ่มเป้าหมายบัญชีสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก ที่มอบหมายให้ทหารไปปฏิบัติการไอโอ ทั้งสื่อมวลชน นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย นักการเมือง ภาคประชาสังคม นักวิชาการจำนวนมาก ไม่มีข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ ส่วนมากใช้ถ้อยคำหยาบคาย เราไม่ได้เป็นศัตรูกับชาติกับรัฐ กองทัพไม่มีอำนาจปฏิบัติการ ต่อประชาชนเช่นนี้ การเอางบฯภาษีประชาชน บุคลากรทหาร ทรัพยากรของรัฐมาโจมตีไม่ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย และยังได้ยื่นจดหมายต่อผู้รายงานพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและยื่นหนังสือต่อเฟซบุ๊กให้สืบสวนเกี่ยวกับการกระทำของกองทัพ ที่เป็นคนละส่วนกับที่เฟซบุ๊กเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเกี่ยวกับคดีของนางอังคณา นีละไพจิตร อดีต กสม.ที่ยื่นฟ้องไปเมื่อเดือน พ.ย.

ขณะที่นายวิญญูกล่าวว่า ที่ผ่านมาพฤติกรรมไอโอมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเข้ามาพูดคุยดีๆและใช้ถ้อยคำหยาบคายด้อยค่า ทั้งกับตัวเองและครอบครัว ทำเป็นภาพผ่านสื่อต่างๆทำให้ตนได้รับความเสื่อมเสีย

เผยฟ้องต่อยอดซักฟอกเปิดโปง ทบ.

ด้านนายสัญญา เอียดจงดี ทนายความ กล่าวว่า ปฏิบัติการไอโอโดยกองทัพไม่ควรมี ไม่ใช่สถานการณ์ที่พึงกระทำได้ ส่วนพยานหลักฐานเกี่ยวกับคำสั่งของกองทัพ เชื่อว่าศาลปกครองจะไต่สวนเพิ่มเติม การอภิปรายของ ส.ส.เปิดเผยเอกสาร 2-3 ฉบับเกี่ยวกับไอโอกองทัพภาค 2 เป็นพฤติการณ์เดียวกัน ส่วนเอกสารเพิ่มเติมจะขอให้ศาลปกครองเรียกเอกสาร หลังฟ้องได้อีก เราวางแนวทางคดีไว้อยู่แล้ว ต้องเปิดเผยทั้งหมด กองทัพต้องมาชี้แจงต่อศาล แต่ไม่ติดใจที่จะให้ศาลไปสืบสวนหาเจ้าของบัญชีแอ็กเคานต์ที่ปฏิบัติการ ไม่อยากเห็นทหารระดับปฏิบัติต้องติดคุกเพราะทำตามคำสั่งเจ้านาย ให้หยุดปฏิบัติการน่าจะเพียงพอ

“เสรีพิศุทธ์” หยันรอดู “ลุง” มาหาเสียง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ทราบข่าวว่า เร็วๆนี้หัวหน้าพรรคบางคนที่ถูกเรียกว่า “ลุง” จะมาหาเสียงครั้งแรกในเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช จะรอฟังอยากรู้จะหาเสียงอย่างไร จะมีสัญญาปากเปล่ามาขายฝัน

หรือไม่ ได้ยินว่าเดินไม่ค่อยไหวจะพูดกับประชาชนรู้เรื่องหรือไม่ เจอลุงที่สภาฯ พูดไม่รู้เรื่องถามช้างตอบม้า มีประชาชนมาบอกทีเล่นทีจริงว่าไม่กี่วันก่อนที่คนใหญ่คนโตจะมาขบวนรถยาวมาก สมมติเกิดการปล้นทรัพย์หรืออุบัติเหตุอาจพบรถบางคันมีธนบัตรมากมาย หากเป็นเช่นนั้นจริงจะกล้าแจ้งความแสดงตัวเลขเงินหรือไม่ ขอให้ช่วยกันจับตาพบสิ่งผิดปกติให้ร้องเรียนหรือประสานมาที่ตน

โวยอำนาจเถื่อนเกลื่อนเมืองคอน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บรรยากาศการเลือกตั้งโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช บางพรรคการเมืองใช้กลไกรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัคร มีการใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ และอำนาจนักเลง เข้ามาเกี่ยวข้องกดหัวคะแนนคู่แข่ง ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำท้องที่อย่างหนัก ขณะที่พรรคแกนนำรัฐบาลส่งผู้สมัครเข้าแข่งกันเองสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันได้ไม่คุ้มเสีย เชื่อว่า ประชาชนเข้าใจดีว่าบางพรรคมีมารยาททางการเมืองหรือไม่