“บิ๊กตู่” โชว์พาวจับเข่าคุย “อนุทิน- จุรินทร์” เคลียร์ใจพรรคร่วมฯ ขอจับมือ เข็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ลั่นทุกอย่างอยู่ในอำนาจนายกฯ เลิกพูดได้แล้วเรื่องสัดส่วน รมต. แต่ละพรรคชงขึ้นมาจะดู ความเหมาะสมเอง “เสี่ยหนู” วัดใจรอดูผลสอบกลุ่ม “ดาวฤกษ์” ยัน ภท.อยู่ที่เดิมดีอยู่แล้ว “จุรินทร์” กอดแน่นโควตา ปชป.ไม่มีของ กปปส. “บิ๊กป้อม” ปัดไม่จริงโยกไปนั่ง มท.1 “อนุชา” เขินข่าวคั่ว รมว.ศธ.-ดีอีเอส แล้วแต่ผู้ใหญ่จัดให้ “วราวุธ” ไม่ตอบรับ แต่ไม่ปฏิเสธ ยันยังไม่มีใครทาบแลกกระทรวง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เร่งหารือกับ 2 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อส่งสัญญาณการปรับ ครม.และสยบปัญหากระทบกระทั่งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันจะให้แต่ละพรรคเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีขึ้นมา ส่วนนายกฯจะพิจารณาชี้ขาด ดูความเหมาะสมในภาพรวม

“บิ๊กตู่” ลั่นปรับ ครม.นายกฯชี้ขาด

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพียงแต่มีแนวทางว่าอะไรอย่างไรก็ว่ากันไป ทั้งหมดเมื่อเสนอขึ้นมานายกฯจะเป็นผู้พิจารณาในภาพรวม อยู่ในอำนาจนายกฯอยู่แล้ว เรื่องการเมืองขอให้เป็นเรื่องทางการเมืองไปเถอะ วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 2 พรรคคือ ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย รวมทั้งคุยเรื่องอื่นๆด้วย เช่น การทำงานต่างๆ ได้ขอความร่วมมือ การทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าต่อไปให้ได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เรื่องการเมืองเขาพูดคุยกันแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ

...

ขอร้องเลิกพูดได้แล้วเรื่องสัดส่วน

เมื่อถามว่า จะเป็นการปรับใหญ่หรือปรับเฉพาะ 3 ตำแหน่งของรัฐมนตรีที่ว่าง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เดี๋ยวดูอีกทีต้องดูว่าจะมีผลกระทบอะไรอย่างไร ทุกอย่างยังเป็นไปตามเดิม ขอร้องให้เลิกพูดกันได้แล้ว เรื่องของสัดส่วนอะไรต่างๆ เรื่องนายกฯ ดำเนินการเอง เมื่อถามว่า จะถึงขั้นสลับเก้าอี้รัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็บอกว่ายัง ยังคิดอยู่ สื่ออย่ามาถามย้ำถามให้เป็นเรื่องอยู่ได้ ขอร้องสื่อตั้งคำถามอย่างสร้างสรรค์ ขออย่างเดียว”

เสนอขึ้นมาจะดูความเหมาะสมเอง

เมื่อถามว่า หมายถึงให้สิทธิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐดำเนินการคนเดียวเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ใช่อย่างนั้น หมายความว่าท่านดูภายในพรรคของท่าน พล.อ.ประวิตรดูในพรรค พปชร. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูในส่วนพรรคทุกคนต้องประชุมพรรคกัน ถ้าจะมีการปรับอะไรให้เสนอขึ้นมา ตนจะดูความเหมาะสม เข้าใจคำว่านายกฯเป็นผู้ดูความเหมาะสมหรือไม่ จะให้ใครก็แล้วแต่นั่นคือสิทธิของนายกฯโอเคกันหรือไม่

ยันคิดตรงกับ “อนุทิน” สื่ออย่าเสี้ยม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนลงจากโพเดียมนายกฯ ได้กล่าวทิ้งท้าย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนอยู่ด้านหลังห่างออกไปไม่มาก โดยนายกฯกล่าวว่า อย่าไปแอบถามรองนายกฯอะไรอีกนะ คุยกันหมดแล้ว คุยกันหลายเรื่อง การเมืองเป็นเรื่องของการเมือง ตนไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น จากนั้นนายกฯเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า แต่ยังได้หันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวพร้อมชี้ไปที่นายอนุทินว่า “อย่าไปแอบถามอะไรกับรองนายกฯอีก อย่าไปแอบถามโน่นนี่นั่นจนกลายเป็นเรื่องเป็นราว ยืนยันว่าคิดเหมือนกันพูดตรงกัน” จากนั้นนายอนุทินได้เดินตาม พล.อ. ประยุทธ์ขึ้นบนตึกไทยคู่ฟ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เสี่ยหนู” วัดใจรอดูผลสอบ “ดาวฤกษ์”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าเสียใจกับการกระทำของกลุ่มดาวฤกษ์ ขณะนี้ยังโกรธกลุ่มดาวฤกษ์อยู่หรือไม่ว่า ไม่ได้โกรธ ไม่เกี่ยวกับตน ส่วนเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ระบุว่าติดใจอยู่นั้นก็ติดใจ แต่ไม่ได้เสียใจต้องดูว่าผลสอบออกมาแล้วจะทำให้เราเสียใจหรือไม่ ไม่มีอะไร ผู้ใหญ่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่าไปเถียงกับคนนั้นคนนี้ไม่มีประโยชน์ เมื่อถามว่า ถือเป็นการกดดันพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่กดดัน ทำงานด้วยกันจะกดดันกันได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องของเศษเสี้ยวคนร้อยกว่าคนทำงานด้วยกัน มีแค่ 6-7 คนเป็นปัญหา เดี๋ยวเขาก็ไปจัดการ

ดีอยู่แล้วไม่ได้ยินข่าวสลับกระทรวง

เมื่อถามว่า หากปลอบใจด้วยการเพิ่มโควตารัฐมนตรีให้จะพอใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าไม่มี เมื่อถามว่า โควตาจำเป็นต้องเพิ่มหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็บุญตายโหงอยู่แล้ว ได้ทำงาน เจ้านายก็ดี เพื่อนร่วมงานก็ดี เรื่องพรรคเดี๋ยวผู้ใหญ่จัดการกันเอง และอย่างที่บอกไปหากมีปัญหาในบ้านของผม ผมก็จัดการ แต่เราไม่ค่อยมีปัญหา” เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ขอโควตาเพิ่มใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไรเรื่องพวกนี้ ตอนนี้นายกฯอาจมีความกดดัน ในเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่ขาดหายไป เราต้องให้กำลังใจท่านไปเพิ่มความกดดันให้ท่านทำไม และตอนนี้ยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณว่าจะปรับเล็กหรือปรับใหญ่ รวมถึงไม่ได้ยินกระแสข่าวการสลับกระทรวง อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว สบายๆ

“จุรินทร์” กอดโควตา ปชป.ไม่มีของ กปปส.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกฯส่งสัญญาณการปรับ ครม.มาแล้วหรือไม่ว่า ได้คุยกันเบื้องต้น ทั้งหมดยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล ของพรรคไหนให้พรรคนั้นดำเนินการ เช่น พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการเอง เมื่อถามว่า ตำแหน่งเดิมของนายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคมใครจะมาแทน นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนข้อบังคับพรรค ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ภารกิจต้องเร่งดำเนินการคือการช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช บุคลากรของพรรคให้ความสำคัญตรงนี้มากกว่า เมื่อถามว่าในพรรค ปชป.ยังมีโควตา กปปส.อยู่หรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เราไม่เคยพูดถึงโควตา กปปส.เพราะในส่วนของ ปชป.คือในส่วนของพรรค พรรคมีรัฐมนตรี 7 ที่นั่ง รัฐมนตรีพรรคจะหารือกันประจำทุกเย็นวันจันทร์เป็นภารกิจปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

ขยับ ครม.น้อยสุดไม่ให้กระเพื่อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ช่วงเวลา 11.00 น. ก่อนนายกฯจะมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายกฯได้พูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมอยู่ด้วยนาน 10 นาที โดยนายกฯพูดถึงการปรับ ครม.ว่าจะพยายามให้ทุกอย่างเหมือนเดิมมากที่สุด ไม่อยากให้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะไม่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมและปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เดินหน้าทำงานให้ประเทศต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

“บิ๊กป้อม” โต้ไม่จริงย้ายนั่ง มท.1

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีการคุยกันเบื้องต้นในเรื่องนี้ และไม่คุยจะคุยทำไมเป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เมื่อถามว่าในการประชุมพรรค พปชร. วันที่ 2 มี.ค.จะมีการเตรียมพร้อมเพื่อ เสนอชื่อให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อันนั้นเป็นเรื่องของผม ส่วนที่มีข่าวว่าจะย้ายไปเป็น รมว.มหาดไทยนั้นไม่มี ไม่จริงและที่หนังสือพิมพ์บางฉบับ ไปพาดหัวข่าวเช่นนั้น ให้ไปถามหนังสือพิมพ์กันเอาเอง”

“อนุชา” ปัดคั่ว รมว.ศธ.-ดีอีเอส

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าปรับ ครม.อาจถูกผลักดันให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการหรือ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า ยังไม่มีการพูดถึงและยังไม่มีสัญญาณการปรับ ครม.จากนายกฯ เป็นข่าวปกติที่มักเกิดขึ้นก่อนปรับ ครม.จะคาดการณ์คาดเดากันไป เมื่อถามถึงการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร. วันที่ 2 มี.ค.จะพูดคุยเรื่องการปรับ ครม.ไปคราวเดียวกันหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า หากเสนอเป็นวาระหารือในที่ประชุมคงต้องพูดคุยกัน แต่ถึงอย่างไรเวลา 16.30 น. วันที่ 2 มี.ค.ประชุม กก.บห.แน่นอน ในฐานะเลขาธิการพรรคยังไม่ได้คุยอะไรกับใคร จะปรับเพียง 3 ตำแหน่งที่ว่างหรือเกลี่ยใหม่ทั้งหมดเป็นอำนาจของนายกฯ ตัดสินใจ

ชอบทำงานแล้วแต่ผู้ใหญ่เมตตา

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคร่วมลงลายมือชื่อเสนอให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพิจารณาคนในมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนมากกว่าเลือกคนนอก นายอนุชากล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ไม่รู้ว่ามีหนังสือดังกล่าวไปถึงหัวหน้าพรรคจริงหรือไม่ การจะเลือกคนในหรือคนนอกอยู่ที่นายกฯจะตัดสินใจเองว่าอะไรคือประโยชน์สูงสุดต่อการทำงานของรัฐบาลและต่อประเทศชาติ ประชาชน ส่วน ส.ส.ภาคใต้อยากให้มีรัฐมนตรีจากภาคใต้ด้วย ทุกอย่างอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคและนายกฯ เชื่อว่าคงไม่มีใครมาต่อรองตำแหน่ง ยังไม่มี ส.ส.ใต้คนไหนมาพูดคุยอะไรกับตนมีเพียงกระแสข่าว ขอย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯคนเดียวว่าช่วงเวลาเหมาะสมอย่างไร จะเร็วหรือช้า เมื่อถามย้ำว่าหากได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ไปเป็น รมว.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง นายอนุชากล่าวว่า “ผมแล้วแต่ผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะให้ไปทำงานในส่วนไหนก็ทำอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ ชอบทำงาน ขอให้เป็นตำแหน่งเชิงสร้างสรรค์ หากผู้ใหญ่มอบหมายทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ”

โชว์กอด “ท็อป” สื่อแซวแลกกระทรวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอนุชาให้สัมภาษณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เดินทางถึงหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติครั้งที่ 2/2564 ที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธาน นายอนุชาได้เข้าสวมกอดและจับมือกับนายวราวุธ กระทั่งถูกกลุ่มผู้สื่อข่าวแซวว่า แลกกระทรวงกันหรือไม่ ระหว่างพรรค พปชร. และพรรค ชทพ.ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะครื้นเครง จากนั้นนายอนุชายกมือไหว้และตบบ่านายวราวุธ ก่อนจะแยกย้ายกันไปประชุม โดยนายอนุชาได้เดินไปที่ตึกภักดี-บดินทร์ เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 1 / 2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม

“วราวุธ” ชี้ยังไม่มีใครติดต่อขอเปลี่ยน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีการขอสลับกระทรวงในโควตา ชทพ.ว่า เรื่องนี้นายกฯเป็นผู้พิจารณาคงต้องให้ฝ่ายการเมืองพิจารณากันไป แต่ในส่วนของ ชทพ.ยังไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยเข้ามา ที่ว่า จะมีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ เป็นเรื่องปกติในช่วงเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ ครม. เมื่อถามถึงกระแสข่าวนำ รมว.ศึกษาธิการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมาแลกกับ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นายวราวุธกล่าวว่า คงต้องพูดคุยกันก่อน จะไม่พูด กรณีถ้า ขอให้เกิดขึ้นจริงๆก่อนแล้วค่อยมาหารือ จะเอาเข้าที่ประชุมพรรคและดูความเหมาะสม เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ายังไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว นายวราวุธกล่าวว่า ยังไม่ปฏิเสธและไม่ได้ยอมรับ เพราะยังไม่เกิดสถานการณ์ขึ้น ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร รอให้ติดต่อเข้ามาก่อน ตอนนี้ยังไม่มีอะไร

เปรยยุบสภาใต้ รธน.เดิมไร้ประโยชน์

นายวราวุธกล่าวว่า คนที่จะทำงาน เราไม่เลือกที่ แต่บทบาทของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังมีภารกิจเหลืออยู่มาก อีกทั้งตลอดเวลาที่ตนทำงานมาตรงนี้ก็ได้แก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมได้หลายอย่าง และยังเหลือปัญหาอีกหลายอย่าง ยังคงทุ่มเทเต็มที่ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค ชทพ. ถึงกระแสข่าวที่จะให้โยกไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการหรือยัง เพราะ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เคยเป็น รมช.ศึกษาธิการ นายวราวุธกล่าวว่า ถ้าหากอย่างนั้นถ้าหากอย่างนี้ มันจะสร้างความรู้สึกผสมปนเปกันไปในสถานการณ์การเมืองที่อ่อนไหว จึงพยายามไม่พูดสถานการณ์สมมติ เอาให้เกิดขึ้นก่อนค่อยมาคุยกัน หรือเกิดขึ้นแล้วต้องมาคุยกันอยู่ดี ตอนนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง นายวราวุธกล่าวว่า คงต้อง ถามก่อนว่าสาเหตุยุบสภาเพราะอะไร ถ้าบอกว่าหลายฝ่ายอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่เลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดิมแล้วได้องค์ประกอบแบบเดิมกลับมาตนคิดว่ายุบสภาไปวันนี้อาจไม่เกิดประโยชน์

รปช.ปฏิเสธตีตราจองดีอีเอส

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรค รปช.เตรียมขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม 1 ตำแหน่งในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า “ไม่มี ไม่เกี่ยว เป็นข่าวจากคนปล่อย พวกผมไม่ได้พูดอะไร” เมื่อถามว่าพอใจกับเก้าอี้ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แล้วใช่หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ขอไม่พูดจะดีกว่า

“ชวน” เดินหน้าเปิดวิสามัญแก้ รธน.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทน ราษฎร กล่าวถึงการเปิดสมัยประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะครบกำหนดวันที่ 12 มี.ค.ว่า หลังวันที่ 12 มี.ค.ไปแล้วจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงไหนก็ได้ ทางเลขาธิการสภาฯ จะประสานกับสำนักนายกฯว่า หลังจากเกิน 15 วันไปแล้วรัฐบาลพร้อมเมื่อใดเพื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาวาระ 3 ต่อไป ไม่จำเป็นต้องรอการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการที่สภาฯ ทำทั้งหมดไม่เกี่ยวกับกระบวนการภายนอก

สภาฯชง กกต.ตีสถานะ 5 ส.ส.กปปส.

นายชวนกล่าวอีกว่า กรณี 5 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กลุ่ม กปปส.ที่ถูกศาลอาญาตัดสินจำคุกแต่ได้รับการประกันตัว ช่วงเช้าวันที่ 1 มี.ค. ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาดำเนินการว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ 5 ส.ส.หรือไม่ ได้เซ็นเรื่องดังกล่าวส่งสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.แล้ว