“ประยุทธ์” สั่ง รมต.ชี้แจงเพิ่มนอกเวทีซักฟอก เคลียร์ปมสังคมคาใจ ผลโหวต 10 รมต.ต่างกันพ่นพิษ พปชร.กระเพื่อมแรง หึ่ง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ฉุนแต้มห่างจุดไฟขัดแย้งในรัฐบาล จับตา “ธรรมนัส” นําโด่ง เสียงไว้วางใจเท่าหัวหน้าพรรค แถมเหนือนายกฯถึง 2แต้ม จ้องเขม็ง “ก๊ก 3 ช่วย” ดีลพรรคเล็กตัวแปร เทคะแนนสวิง เดินแผนไล่ขย่ม “ครูต้ัน” ตกเก้าอี้กดดัน ปรับครม.เด็กภท.โพสต์ถล่ม 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ยัวะงดออกเสียง “ศักดิ์สยาม” ขู่ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย “มาดามเดียร์” ดื้อแพ่งเลื่อนแถลงแสดง ความรับผิดชอบ “ประวิตร” ประชุมด่วนออกมาตรการ ลงโทษแหกมติพรรค ปชป.เรียก 3 ส.ส.แจงงด ออกเสียงหัวหน้าพรรคพท.ลุยต่อยื่นป.ป.ช.เอาผิด “ประยุทธ์-จุรินทร์-อนุพงษ์-ณัฏฐพล”
ควันหลงผลโหวตลงคะแนนไม่ไว้วางใจและไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี ที่ออกมาแตกต่างกัน นำมาซึ่งรอยปริร้าวทั้งในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันและภายในพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาล เนื่องจากเกิดแรงกระเพื่อมกดดันจากกลุ่มก๊กภายใน พปชร.เดินเกมกดดัน เพื่อให้เกิดการปรับ ครม.
...
“ตู่” สั่ง รมต.แจงเพิ่มปมไม่เคลียร์
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอบคุณสภาฯในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างช่วยกันทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่น บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ข้อมูลต่างๆ การอภิปรายและตอบอภิปรายล้วนเป็นประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมรับข้อเสนอแนะไปปรับใช้ต่อไปและยังขอบคุณข้าราชการจัดเตรียมข้อมูล ขอบคุณประชาชนที่ติดตามการอภิปราย ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯได้ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำข้อมูลข้อเสนอแนะจากฝ่ายค้านที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ หลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ หลายประเด็นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานของรัฐบาลให้ดียิ่งขึ้น ไม่ได้มองแค่ว่าเป็นแนวความคิดของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่มองที่ประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อประชาชนก็ควรทำ และได้กำชับให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายชี้แจงเพิ่มเติมสร้างความเข้าใจต่อทุกภาคส่วน ในประเด็นที่มียังมีข้อสงสัยในช่องทางต่างๆ ขอให้รัฐมนตรีทุกคน มุ่งมั่นตั้งใจทำงานต่อไป
“ธนกร” เมินฝ่ายค้านลุยยื่นสอบทุจริต
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและ รมว.กลาโหม จะเดินหน้าทำงานเต็มที่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผลกระทบของโควิด-19 ที่ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฉีดวัคซีนให้ประชาชน ส่วนกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เตรียมยื่น ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการทุจริตต่อไปเป็นสิทธิที่ทำได้ รัฐบาลไม่ได้กังวลอะไรเพราะไม่ได้ทำอะไรผิดหรือมีการทุจริต รัฐบาลพร้อมถูกตรวจสอบ กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการอภิปรายครั้งนี้ถือว่ากรีดแผลแล้วจะโรยเกลือต่อ ให้ระวังมีดจะบาดตัวเองเลือดไหลไม่หยุด เพราะทราบว่ามีส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนยกมือสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่งสัญญาณน่าจะไม่อยู่พรรคนี้แล้วหรือไม่ คงอึดอัดรับไม่ได้กับแนวคิดพรรคต้องการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธามีความรู้ความสามารถควรนำพรรคก้าวไกลทำงานการเมืองสร้างสรรค์แบบการเมืองใหม่น้ำดีอายุยังน้อยยังมีเวลากลับตัวกลับใจ
“บิ๊กตู่–บิ๊กป้อม” ฉุนแต้มห่างทำกระเพื่อม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ ถึงผลลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 10คนเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผลคะแนนไว้วางใจไม่เท่ากันหลายรายต่างกันจนผิดสังเกต โดยเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ มีกระแสข่าวสร้างความไม่พอใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างมาก เนื่องจากได้กำชับให้ผู้ควบคุมเสียงแต่ละส่วนประสานงานให้คะแนนเสียงออกมาเท่าๆกันหรือไล่เลี่ยกัน เพราะไม่ต้องการให้เกิดาพความขัดแย้งและแรงกระเพื่อมในรัฐบาล
อ้างนายกฯต่อสายให้กำลังใจ “ครูตั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการอ้างว่าภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ได้โทรศัพท์หานายณัฏฐพลที่ได้คะแนนเสียงไว้วางใจน้อยที่สุดทันทีเพื่อให้กำลังใจ และขอให้นายณัฏฐพลตั้งใจทำงานตามนโยบายที่กำลังดำเนินการอยู่ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องปฏิรูปการศึกษาและการบูรณาการทั้งระบบ นอกจากนี้ ยังย้ำว่าจะยังไม่พิจารณาปรับ ครม.ช่วงนี้ และหากมีการปรับครม.จะพิจารณาจากผลงานของรัฐมนตรีแต่ละรายเป็นหลัก ไม่นำคะแนนเสียงไว้วางใจมาเป็นปัจจัยในการตัดสิน เพราะนายกฯรู้เบื้องหลังว่ามีคนในพรรคพลังประชารัฐที่พยายามล็อบบี้ให้ผลคะแนนออกมาเป็นเช่นนี้ และเสนอผลประโยชน์กันอย่างไร
จับตา “ธรรมนัส” เสียงดีเกินหน้า “บิ๊กตู่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพรรคพลังประชารัฐได้วิเคราะห์ผลคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 3 คนคือนายณัฏฐพลได้ต่ำสุดได้รับเสียงไว้วางใจ 258 เสียง ไม่ไว้วางใจ 215 เสียงงดออกเสียง 8 เสียง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานได้เสียงไว้วางใจ 263 เสียง ไม่ไว้วางใจ 212 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง ไม่ลง คะแนนเสียง 1 เสียง และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯได้เสียงไว้วางใจ 274 เสียงเท่ากับ พล.อ.ประวิตร แต่สูงกว่า พล.อ.ประยุทธ์ 2 คะแนน ส่วนคะแนนไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส 199 เสียงต่ำที่สุดใน 10 รัฐมนตรี งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนนเสียง 1
พรรคเล็กตัวแปรผกผันคะแนนสวิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนำคะแนนทั้ง 3 รัฐมนตรีมาเปรียบเทียบพบว่าผลคะแนนแตกต่างกันอยู่ที่บรรดาพรรคเล็กและพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ 5 ส.ส. ยกเว้นนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคน ทั้งที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2563 เคยลงมติงดออกเสียง ร.อ.ธรรมนัสมาก่อน มาครั้งนี้ลงมติไม่ไว้วางใจนายณัฏฐพลแบบยกพรรค และมี 4 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ลงมติไม่ไว้วางใจนายสุชาติ มีเพียง 1 เสียงที่กดไว้วางใจ ส่วนพรรคเล็กที่มี 1-2 เสียงลงมติให้นายณัฏฐพลกับนายสุชาติลักษณะเสียงแตก เพื่อไม่ให้ดูเป็นการจัดตั้ง มีทั้งโหวตสวนและงดออกเสียง นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังได้คะแนนไว้วางใจจากพรรคเพื่อชาติ 3 เสียง ส่วนอีก 2 คนงดออกเสียง
ก๊ก “3 ช่วย” ไล่ขย่มเก้าอี้ “ณัฏฐพล”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การล็อบบี้คะแนนครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของกลุ่ม “3 ช่วย” หรือ 3 รัฐมนตรีช่วย ที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร ประกอบด้วย รมช.ผู้มากบารมี รมช.ขาเรียว และ รมช.ที่มีข่าววิ่งเต้นทุกครั้งที่มีการปรับ ครม.เพื่อขอขึ้นชั้นเป็น รมว. มีโจทย์ว่า รมต.ผู้มากบารมีต้องไม่ได้คะแนนน้อยที่สุดซ้ำรอยปี 2563 รวมทั้งยังแฝงแผนชิงการนำภายในพรรคพลังประชารัฐ พุ่งเป้าไปยังกลุ่มของนายณัฏฐพล ที่เสียง ส.ส.หดหายไปพอสมควร อาศัยความไม่พอใจของ ส.ส.ทั้งในพรรคพลังประชารัฐและพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งพรรคเล็ก เนื่องจากที่ผ่านมา ส.ส.หลายรายฝากฝังบุคคลเข้าไปดำรงตำแหน่งสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตามจังหวัดต่างๆไม่ได้ 1 ในกลุ่ม “3 ช่วย” หวังว่าถ้านายณัฏฐพลถูกปรับออกจาก รมว.ศึกษาธิการ จะมีโอกาสเสียบแทน โดยเสนอตัวกับ พล.อ.ประวิตรมาระยะหนึ่งแล้ว เป็นที่ทราบกันว่า รมช.ผู้มากบารมีคนดังกล่าวมีบทบาทเป็นผู้จัดการพรรคเล็กมาตลอด ส่วน 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่เคยลงมติงดออกเสียงครั้งรี้ รมช. ขาเรียวออกหน้าประสานงานให้ครั้งนี้จึงลงมติไว้วางใจ แต่กลับลงมติไม่ไว้วางใจนายณัฏฐพลและนายสุชาติแทน
ส.ส.ภท.ฉุนโพสต์ถล่ม “กลุ่มดาวฤกษ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณี ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ 6 คนของพรรคพลังประชารัฐ นำโดยนางวทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พากันโหวตสวนมติพรรคลงมติงดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สร้างความไม่พอใจให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จนพากันโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกลุ่มดาวฤกษ์ อาทิ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ ถึงกับร่ายกลอนว่า “หลงตนว่ามีแสง อยากสำแดงแสงของตน หวังฉายในสกล เพราะเพียงตนหลงลำพอง ความจริงหนะหิวแสง อยากจะแผลงฤทธิ์ทดลอง จุดตนจนหมดกล่อง ยังเป็นรองแสงตะวัน อย่าคิดว่าส่องแสง เพราะความแรงยังแพ้จันทร์ ฤกษ์-ไถที่สำคัญ ฉายานั้น ใช่ตั้งเอง นาคีจึ่งมีพิษ มดตัวนิดอย่าทำเก่ง แสงดับย่อมวังเวง ทำตนเองอย่าโทษใคร”
ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
ขณะที่นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี โพสต์ระบุว่า “ดวงดาวก็ยังมีวันร่วงหล่นขออยู่เป็นตัวแทนประชาชน ไม่มุ่งเน้นเอาตัวเป็นใหญ่หวังเอาประโยชน์ตน” นอกจากนี้ นายวรศิษฎ์ เลียง–ประสิทธิ์ ส.ส.สตูล โพสต์ว่า “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวยนะ พี่ดาว (เคาะ) #ลูกพี่ใครใครก็รัก” เช่นเดียวกับนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โพสต์ทำนองเดียวกันพร้อมข้อความ “ฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวรู้เรื่อง” และนายธนยศ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย โพสต์ว่าพระอาทิตย์ยังมีวันตก ดาวทั้งหกระวังหล่นกระแทกพื้น #ไอ้หอก #ดาวเคราะห์
“ประวิตร”สั่งแถลงเคลียร์ใจ ภท.
เมื่อเวลา 15.06 น. เจ้าหน้าที่พรรคพลังประชารัฐแจ้งกำหนดการแถลงข่าวด่วน เรื่องคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก จะเป็นการแถลงของ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ที่โหวตสวนมติพรรคงดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยพรรคภูมิใจไทย จะส่งตัวแทนเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย ต่อมาเวลา 15.50 น. กลับแจ้งยกเลิกกะทันหัน กรณีสร้างความไม่พอใจให้คนในพรรคภูมิใจไทย ก่อนมีการยกหูเคลียร์กัน แกนนำทั้ง 2 พรรคต้องยกหูโทรศัพท์เคลียร์กัน ยืนยันมติพรรคให้ ส.ส.ยกมือโหวตสนับสนุนรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยเข้าใจแต่ขอให้ ส.ส.ที่โหวตสวนมติออกมาแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบ ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ประสานนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคให้ ส.ส.กลุ่มนี้ออกมาแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบ แต่ ส.ส.ทั้ง 6 คนปฏิเสธจะมาแถลงข่าวตามคำสั่งของแกนนำ
“เดียร์” ดื้อแพ่งไม่ยอมทำตาม
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ ยอมรับว่าได้รับการประสานจากผู้ใหญ่ของพรรคให้ออกมาแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวจริง แต่ทั้ง 6 คนยังไม่พร้อม จึงขอเลื่อนออกไปก่อนโดย ส.ส.ในกลุ่มจะได้ร่วมกันหารือจัดทำคำแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ด้าน น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ติดภารกิจลงพื้นที่ จึงไม่สามารถไปร่วมแถลงข่าวได้ทัน เหตุผลที่งดออกเสียงนายศักดิ์สยาม เป็นการตัดสินใจในทันทีโดยที่มีข้อมูลเข้ามาจำนวนมาก จึงของดออกเสียงไว้ก่อน โดยไม่ทราบว่าการงดออกเสียงจะส่งผลต่อความไว้วางใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นบทเรียนของ ส.ส.ใหม่อย่างตน
นัดประชุมด่วนออกมาตรการลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 ก.พ. เวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคด่วน เพื่อหารือถึงการโหวตงดออกเสียง 6 เสียงของ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ต่อนายศักดิ์สยาม เนื่องจากมีรายงานข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ พี่ชายนายศักดิ์สยามไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงต้องการให้พรรค พปชร.มีท่าทีที่รับชอบผิดต่อเหตุการณ์หักหลังเพื่อนในครั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าจะมีการพิจารณามาตรการลงโทษอย่างไรออกมาหรือไม่ เนื่องจาก ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่าเมื่อนำความขัดแย้งส่วนตัวมาทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ต้องมีบทลงโทษเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อพรรคภูมิใจไทย
“ไพบูลย์” ชี้ไม่ถึงลงดาบขับพ้นพรรค
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 22 ก.พ. เวลา 16.30 น. จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีวาระพิจารณากรณีสมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบตามมาตรฐานจริยธรรมของพรรค ต้องดูว่าสมาชิกฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมและข้อบังคับพรรคอย่างร้ายแรงหรือไม่ ตามข้อบังคับข้อ 54 (5) ในฐานะฝ่ายกฎหมายเห็นว่าคงไม่ถึงขั้นขับพ้นพรรค แต่อาจจะมีเข้าข่ายฝ่าฝืนบางข้อ เชื่อว่าไม่มีผลกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาล
เรียก 3 ส.ส.แจงงดออกเสียง หน.ปชป.
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการดำเนินการกับ ส.ส. 3 คนที่งดออกเสียงให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เลขาธิการพรรคสั่งการให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช วิปพรรคส่งรายงานผลการลงมติ ในที่ประชุม ส.ส.พรรค วันที่ 23 ก.พ.จะให้ ส.ส.ทั้ง 3 คนมาชี้แจงถึงเหตุผลการลงมติดังกล่าว แม้จะอ้างอิงรัฐธรรมนูญและสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อทุกคนอยู่ในพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดถือเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เราทำความเข้าใจหลายรอบแล้ว มี ส.ส.หลายคนได้คุยกับเขาแล้ว ทั้งนี้เป็นปัญหาเฉพาะคนมากกว่า ถ้าจะเอาปัญหาคนเดียวมาบอกว่าพรรคไม่เป็นเอกภาพคงไม่ใช่
ไม่หวั่นฝ่ายค้านร้องฟัน “จุรินทร์–นิพนธ์”
นายราเมศกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้านจะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบนายจุรินทร์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ฝ่ายค้านทำได้ขอให้ตรวจสอบเต็มที่ เรายืนยันมาตลอดว่าไม่ได้มีการทุจริต
พท.จ่อเอาผิด 4 รมต.ต่อนอกสภาฯ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการต่อ คือรวบรวมเนื้อหาและหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการทุจริตส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อ โดยใน ส่วนของตนจะยื่นตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์–โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม นำประเด็นละเว้น การปฏิบัติหน้าที่กรณีที่ทราบว่ามีการทุจริตถุงมือยางแล้วไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กรณีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตถุงมือยาง และยังมีข้อมูลว่าผู้ดำเนินการเป็นคนใกล้ชิดแล้วไม่เรียกมาตรวจสอบข้อเท็จจริงปล่อยให้ดำเนินการต่อ ทำให้องค์การคลังสินค้าเสียหาย 2 พันล้านบาท จะยื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังทราบมาว่าสมาชิกพรรคอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่จะยื่นเอาผิด รมว.ศึกษาฯ และ รมว.มหาดไทยด้วย ถ้าชัดเจนแล้วทางสมาชิกที่เป็นคนดำเนินการจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง
“โจ้” ยื่น ป.ป.ช.สอบ “ครูตั้น” ตั้งคนสนิท
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม แถลงว่า ฝ่ายค้านไม่สามารถชนะรัฐบาลได้ แต่มีรัฐมนตรี 3 คนที่ตอบคำถามไม่ได้เลย คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ที่โยน อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) บอกว่าไม่ได้แต่งตั้งบอร์ด อคส. ในฐานะเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ประธานบอร์ดต่างๆก่อนเสนอ ครม.รัฐมนตรีเป็นผู้เซ็นชื่อเสนอ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เรื่องที่ดินพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ตอบไปคนละเรื่อง และนาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ คะแนนน้อยสุดเชื่อว่าจะถูกปรับออกจาก ครม. หากไม่รีบจัดการจะเป็นมะเร็งร้ายทำลายรัฐบาล วันที่ 22 ก.พ. เวลา 08.30 น. จะไปยื่น ป.ป.ช. เรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 126 และ 127 กรณีตั้งนายธนพร สมศรี คนสนิทเป็นเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)
ร้องเอาผิดต่อสัมปทานรถไฟฟ้า
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า อีกเรื่องคือการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางดีที่สุดทำเงินมหาศาล แต่กลับไม่นำเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุน มีการทำนิติกรรมอำพราง ผิดกฎหมายฮั้ว ดำเนินการไม่โปร่งใสในการจ้างวิ่งรถ ก่อนหน้านี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เคยไปร้องไว้ที่ ป.ป.ช.แล้ว ดังนั้น วันที่ 22 ก.พ. จะไปร้องเพิ่มเติมที่ ป.ป.ช.เรื่องที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม.ไปต่อขยายการจ้างวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย ทั้งนี้ ที่จำเป็นต้องรีบไปยื่นเพราะฝ่ายค้านต้องรีบตามประเด็น เนื่องจากจะต้องมีการยื่นอีกหลายเรื่อง ก่อนการอภิปรายมีข้อครหาว่าพรรคเพื่อไทยขายข้อสอบหรือไม่ ครั้งนี้ข้อสอบไม่รั่ว แต่มี ส.ส.สอบตกบางคนที่อยากเข้าไปอภิปรายในสภาฯ จึงพยายามปล่อยข่าว ตนอภิปรายนายณัฏฐพลตายกลางสภาแบบนี้ล้มมวยหรือ
วิปค้านเตรียมเรียกคุยเสียงโหวต
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พอใจการทำงานครั้งนี้แม้จะมีจุดบกพร่องบ้างเล็กน้อย ต้องยกความดีทั้งหมดให้คณะส.ส.พรรคร่วมฯทั้งหมดขอยกให้เป็นพระเอก ส่วนกรณีพรรคเพื่อชาติโหวตไว้วางใจและงดออกเสียงให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ วิปฝ่ายค้านคงมีการประชุมสรุปการทำงานร่วมกันทั้งระดับวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านถึงจุดแข็งจุดอ่อนเพื่อปรับปรุงการทำงานครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้านลงมติไปคนละทิศคนละทาง ต้องถามเหตุผลความจำเป็นคงต้องฟังเหตุผลกันก่อน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นจุดยืนแต่ละพรรค ไปบังคับกันไม่ได้ อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณา
“สงคราม” ปัดรับเงินช่วย “ธรรมนัส”
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.พรรคเพื่อชาติ 3 คนโหวตไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และมี 2 คนงดออกเสียงว่า ไม่มีอะไรก่อนลงมติได้ประชุม ส.ส. รัฐมนตรีคนที่ 1-9 เห็นตรงกันว่าจะลงมติไม่ไว้วางใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัสมีข้อเสนอว่าถูกอภิปรายฯ เนื้อหาเพียงเล็กน้อย ถ้าโหวตไม่ไว้วางใจอาจไม่ให้เป็นธรรม จึงมีมติฟรีโหวตให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ที่บอกว่ามีการรับเงินรับทองต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อตนได้ ถ้าจะรับจริงทำไมไม่รับเงินโหวตไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ยืนยันไม่มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างเราปล่อยเป็นเอกสิทธิ์ เชื่อว่าฝ่ายค้านไม่มีปัญหา เขาเข้าใจกันหมดว่าการลงมติเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.ไม่มีมติพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าให้โหวตอย่างไร แต่ละพรรคมีแนวทางของตัวเอง และรัฐมนตรีคนอื่นๆพรรคก็ลงมติไม่ไว้วางใจ
“เสรีพิศุทธ์” หยันรอยร้าวเรือเหล็กผุๆ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายด้วยหลักฐาน ประชาชนพิจารณาเอาเองว่ารัฐบาลนี้ควรทำงานต่อหรือไม่ หลักฐานหลายเรื่องชัดเจนมาก เเต่รัฐบาลใช้วิธีเเจกกล้วย อาศัยพวกมากลากไป รัฐมนตรีหลายคนโดนเปิดเเผล หัวหน้ารัฐบาลตอบไม่ตรงประเด็นเเละไม่ตอบ ถามช้างตอบม้าตีมึนไปเรื่อย รอยร้าวบนเรือเหล็กผุๆกำลังปริเเล้ว 10 รัฐมนตรีเเต่ละคนมีรอยเเผลจากการบริหารที่ไม่ชอบ เเต่ยังด้านอยู่ต่อเพราะพวกมากลากไป สภาฯจะคุยกันเรื่องเเก้รัฐ– ธรรมนูญอีกครั้งเชื่อว่าพวกเเจกกล้วยจะเล่นตุกติกเช่นเคย กรรมกำลังชี้เจตนาพวกเเจกกล้วยพวกลิง หลอกเจ้าพวกนี้ ไม่ควรมีที่ยืนในระบอบประชาธิปไตย
“พิจารณ์” รับถูกกดดันเอาผิด 4 งูเห่า
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคและประธานวิปพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี 4 ส.ส.ก้าวไกล โหวตสวนมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ลำบากใจเพราะมี ส.ส.หลายคนมากดดันเยอะว่าต้องลงโทษหรือทำอะไรสักอย่าง ทั้งเพื่อน ส.ส.และเครือข่ายในพื้นที่ และสมาชิกพรรค ที่มีเสียงสะท้อนเข้ามาผ่านหัวหน้าเครือข่าย ผ่านตัวแทนภาค ต่างกดดันว่าพรรคต้องดำเนินการลงโทษหรือไม่ คนในพื้นที่รับไม่ได้ รวมถึงกระแสในโซเชียลมีเดีย แต่การขับออกคงยังไม่ใช่ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติก็ไม่ขับออก คงจะจำกัดบทบาทภาระหน้าที่ในสภาที่ทำในนามพรรคหรือโควตาพรรคต้องถูกจำกัดและขอคืน แต่เชื่อว่า ส.ส.ที่ยังอยู่กับพรรคยังทำงานกันด้วยอุดมการณ์จริงๆ ไม่มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง อยากให้ประชาชนเชื่อใจและเชื่อมั่นพรรคก้าวไกลต่อไป
ปชป.ดันต่อแก้ รธน.วาระ 2–3
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงว่ากรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องผู้ยื่นตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาไว้ตามกระบวนการ แต่ไม่ได้สั่งรัฐสภายุติการดำเนินการ ดังนั้นการประชุมพิจารณาวาระที่ 2 วันที่ 24-25 ก.พ.จะเดินหน้าต่อไป พรรคยืนยันจะผลักดันวาระ 2-3
“วันชัย” ห่วงจุดเดือดการเมือง
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ในฐานะโหรสมัครเล่น กล่าวว่า แม้รัฐมนตรีทั้ง 10 คนจะผ่านไปได้ แต่ผลของการอภิปรายฯ เริ่มเห็นรอยปริในแต่ละพรรคทั้งในพรรคและนอกพรรค รวมทั้งภาพรวมรัฐบาล สถานการณ์การเมืองทั้งภายในและภายนอกจะเริ่มรุนแรงขึ้น จากดวงดาวและปัญหาเศรษฐกิจสังคมและการเมืองที่รุมเร้ามาตลอด โควิดจะเริ่มจางแต่ม็อบและการเมืองจะแรงขึ้น การชุมนุมนอกสภาฯจะคอยตอกลิ่มขยายให้บานปลายมากขึ้น ต่อจากนี้ถึงปลายเดือน มี.ค.อะไรก็เกิดขึ้นได้ วันที่ 24-25 ก.พ.การแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 สังเกตให้ดีจะเห็นร่องรอยทางการเมืองปริมากขึ้น ต้นเดือน มี.ค.ศาลรัฐธรรมนูญคงมีคำวินิจฉัยออกมาจะให้แก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ 84 เสียง ส.ว.ยังเป็นผู้ชี้ขาด ถ้าแก้ไม่ได้ การเมืองคงรุนแรงไม่ต่างอะไรกับก่อนจะรับวาระ 1 ปลาย ก.พ.-มี.ค.อากาศร้อน การเมืองก็ร้อน ดาวพฤหัสสู้กับเสาร์ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงแบบไหน อย่างไร อยู่ที่โชคชะตาฟ้าลิขิต” นายวันชัยกล่าว