“ไวรัส 3 นิ้ว” ระบาดจากไทยเข้าพม่า สวนทางกับไวรัสโควิด-19 ที่ลามจากพม่าเข้าไทย โดยปรากฏการณ์ลุกพรึบพรับของมวลชนคนรุ่นใหม่พม่า ชนชั้นปัญญาชน นักศึกษา แพทย์ พยาบาล ดารา นักร้องคนดัง ชูสัญลักษณ์สันติภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ เคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศ ต่อต้านการรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย โค่นรัฐบาลเลือกตั้ง
แนวโน้มกำลังเคลื่อนไปสู่จุดการไหลรวมของพลังมวลชนรุ่นใหม่เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง
กระแสต้านอำนาจทหารจุดติดไวราวกับไฟป่า ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ล้อตามพิมพ์เขียว ลอกลายกันมา อารมณ์แบบที่ม็อบราษฎรของไทยประกาศขึงแนวรบสุดท้ายไล่ทีมทหารเฒ่า “แพ้คือราบคาบ ชนะคือเต็มใบ” ขณะที่ม็อบต้านเผด็จการทหารในพม่าก็ปลุกเร้ามวลชน “ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างคนไทย”
จุดไฟกระพือควัน เร้าประชาคมโลกปักหมุด “ไทย-พม่า” โลกล้อมอินโดจีน
เกมมวลชนยกระดับ ม็อบบนถนนจ่อเคลื่อนเข้าโซนแตกหัก ดีกรีเข้มข้นตามสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทยและพม่า โยงกับดุลการเมืองโลก ฟากฝั่งเสรีประชาธิปไตย
การเมืองนอกสภาระอุ ในจังหวะการเมืองในสภาของไทยจ่อคิวติดดาบตะลุมบอน
ดีเดย์ 16-19 กุมภาพันธ์ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถล่มกัน 4 คืน 4 วัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน ล็อกเป้าเชือดหัวขบวนอย่าง
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ่วงกับอีก 9 รัฐมนตรี
ยุทธการตีขนาบทหารเฒ่า 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เขย่า “จุดศูนย์ถ่วง” รัฐบาล
ขึงพืด “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
...
มัดคอแกนนำพรรคร่วมใส่เข่ง ไม่ให้ชิ่งลอยตัว
ตามยุทธศาสตร์ต้องขย่ม “มวยตัวหลัก” ในโครงสร้างอำนาจรัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป.
นอกนั้นก็แค่ “ตัวประกอบรายการ”
ตามฟอร์มฝ่ายค้านได้แค่ขย่มนั่งร้านทีม “บิ๊กตู่” ให้สั่นไหว ก็ถือว่ากำไร ไม่เหนื่อยฟรี
เว้นเสียแต่สถานการณ์เข้าเหลี่ยม “ลงล็อก” ตอกย้ำรอยร้าวลึกจากสนิมเนื้อใน อาการโรคแทรกภายในพรรคร่วมรัฐบาลมาถึงจุดผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัย
เค้าลางแบบที่มีรายการ “ฝากซองกฐิน” ปล่อยโพยข้อมูลเด็ดให้ทีมเชือดฝ่ายค้าน
ยืมดาบคู่ต่อสู้ประหารพวกเดียวกัน
แกะรอยตามสัญญาณ คนที่น่าเป็นห่วงสุขภาพมากกว่าใคร ก็คือ “เสี่ยตั้น” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พะยี่ห้อ “ตัวพ่อกปปส.” ตามโพยที่ปล่อยกันออกมาทั้งลีลาขู่ของฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ทั้งรายงานข่าวเชิงลึกจากไอ้โม่งที่ประสงค์ร้าย แต่ไม่ประสงค์ออกนามฝั่งรัฐบาลพลังประชารัฐ
บอกใบ้ให้คอยติดตามผลโหวตตอนจบ
“ครูตั้น” ของกลุ่มนักเรียนเลว 3 นิ้ว จะสอบตก ได้ที่โหล่ของชั้น
จากเกณฑ์การประเมินผลงานเชิงบริหาร ที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สะเปะสะปะกับการจัดแผนเรียนออนไลน์ให้นักเรียนช่วงโควิด เพราะเอาล่อเอาเถิด ล่อเป้ามวลชนราษฎร โดนเด็กนักเรียนมัธยมบุกมาสอนเชิงถึงหน้ากระทรวงศึกษาธิการ
แต่ที่อันตรายสุดก็คือ การเล่นบทคนรักเมีย ลุยถั่วอุ้ม “ทยา ทีปสุวรรณ” วัดดวงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ชิงกันเป็นปุ๋ยแข่งกับ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.
มองหัวหน้าพรรคอย่าง “บิ๊กป้อม” เป็นแค่หัวหลักหัวตอ
กระตุกต่อมหมั่นไส้ ขาใหญ่ พปชร.สั่งจัดคอร์ส “สั่งสอน” ปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่งพรรคพลังประชารัฐ
และโดยอัตโนมัติต้องลามต่อเนื่องถึงสถานการณ์นำในพรรคพลังประชารัฐและเก้าอี้รัฐมนตรีของ “เสี่ยตั้น” ถึงวันต้องรับรู้โลกแห่งความเป็นจริงในสภา
ก๊วน กปปส.เสียงไม่ดังเหมือน “นกหวีด” บนเวทีม็อบ
ตรงกันข้ามกับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ คนที่เสียงไม่ดัง “สวมสูทสีเทา” อย่างสงบเสงี่ยมอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์
ป้อนกล้วยเลี้ยงลิง สวนกระแสโลกสวย
นี่แหละตัวจริง “ผู้กองนัส” คือคนที่คุมกำลัง ส.ส.กลุ่มใหญ่สุดในพลังประชารัฐและงูเห่าในสภา
ตามสถานะที่ไม่ได้มโน แต่ยืนยันด้วยคำสั่งนายกฯแต่งตั้งให้เป็นประธานคุมโครงการเมืองอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา มีอำนาจ เคลียร์คำสั่ง ยกเลิกรายการที่ พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.อนุพงษ์ ลงนาม ไปก่อนหน้า
“รัฐมนตรีช่วย” ใหญ่เทียบชั้นรองนายกฯ กับ มท.1
จับตา “ตัวเต็ง” สอบได้ที่หนึ่ง ในคิวโหวตไว้วางใจ.
ทีมข่าวการเมือง