การเมืองมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาพลิกขั้ว หลังจบการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ท้าชิงขิงแก่ “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต คว้าชัยชนะเหนือ “โดนัลด์ ทรัมป์” แชมป์เก่าจากพรรครีพับลิกัน
งานนี้กองเชียร์แต่ละฝ่ายลุ้นหนัก เพราะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ส่งผลต่อดุลอำนาจโลก
มีอิทธิพลต่อทิศทางเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง
แต่สำหรับประเทศไทย ใครจะเป็นผู้นำอเมริกา คงไม่มีผลต่อระดับความสัมพันธ์ แม้ฝ่ายหนุนรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะกล่าวหามหาอำนาจอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา
ตราหน้าสหรัฐฯเป็นตัวการใหญ่สนับสนุนม็อบ
“ซีไอเอ” ไม่ใช่แค่หน่วยเคลื่อนที่เร็ว รถขายลูกชิ้นทอดในม็อบ แต่เป็นฝ่ายดำเนินการ ทำเรื่องขอลี้ภัยการเมืองให้บรรดาแกนนำมวลชนปลดแอก
ลากวิกฤติการเมืองไทยโยงกับการเมืองระดับโลก
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้นเป็นโจทย์ยากสุดในประวัติศาสตร์ เลยจุดขัดแย้งทางการเมือง รอยร้าวแตกแยกลามลึกเป็นปมระหว่างเด็กรุ่นใหม่กับคนแก่รุ่นเก่า
เดินกันคนละทาง สร้างดาวคนละดวง
สัญญาณแตกหักแบบที่แนวร่วมมวลชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ตั้งโต๊ะแถลงกลางสนามหลวง บอกปัดแบบไร้เยื่อใย ไม่ร่วมวงคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ
เมินแผนผ่าทางตันประเทศไทยตั้งแต่ยังไม่ตั้งไข่
ม็อบเด็กยืนยันดันธงไม่ลดระดับ 3 ข้อเรียกร้อง
เน้นเป้าอันดับแรก พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพทีมอำนาจ 3 ป. ต้องลาออกสถานเดียว
ก่อนกรุยทางไปสู่การพูดจาในขั้นต่อไป
ล็อกเงื่อนไข ต้อนผู้นำเข้ามุม ไฟต์บังคับสุดทางลากอำนาจ
ตามเค้าลางบอกเหตุ นัดชี้ชะตา วันที่ 2 ธันวาคม เวลา 15.00 น. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ กรณีใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ของทางราชการ
...
โดยศาลเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน
นัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยคดี “อยู่บ้านหลวง” ในห้วงพอดิบพอดีกับฉากสถานการณ์การเมืองเรื่องม็อบขึงพืดอำนาจผู้นำกำลังใกล้จุดไคลแมกซ์
แทรกคิว ลุ้นพลิกคว่ำพลิกหงาย
ตามรูปการณ์ไม่ว่าออกซ้ายหรือออกขวา ก็มีผลต่อสถานะความชอบธรรมผู้นำ
ถ้าผลออกมาผิดก็คือปิดเกมโดยอัตโนมัติ “บิ๊กตู่” ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯโดยผลทางกฎหมาย เป็นคำตอบสุดท้ายให้เจ้าตัวที่ตั้งคำถามกับม็อบไล่ “ผมผิดอะไร”
เท่ากับว่าศาลรัฐธรรมนูญช่วยพาดบันไดให้ไต่ลงแบบไม่เสียฟอร์ม
แต่ในมุมกลับกัน ถ้าผลการตัดสินออกมานายกฯ อยู่บ้านหลวงไม่ผิด ข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้นำ คสช.ที่ต่อโปรโมชันมาถึงนายกฯเลือกตั้ง
เข้าเงี่ยง เกมประจาน “สองมาตรฐาน”
โดยสถานการณ์เข้าทางแนวร่วมมวลชนราษฎรตีปี๊บวาทกรรมขยายผลปมเหลื่อมล้ำ ย้ำภาพความไม่ชอบธรรมของขุมอำนาจ 3 ป.
ล่อเป้าโยงกระแทกไปถึง “อีลิท” ชนชั้นนำ ฝ่ายคุมเกมประเทศไทย
เพิ่มแรงกดทับจากด้านบน เร่งปฏิกิริยา “ถอดชนวน”.
ทีมข่าวการเมือง