“พล.อ.ประยุทธ์” ตอบคำถามยาวๆ หลังประชุม ครม.นัดพิเศษ ยัน ไม่ลาออกตามที่ม็อบเรียกร้อง ชี้ หากลุกลามบานปลายอาจเคอร์ฟิว ขอร้องผู้ชุมนุมไม่อยากเห็นใครถูกดำเนินคดี ลั่น อโหสิฯ ให้ทุกคน 

วันที่ 16 ต.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังชี้แจงความจำเป็นที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร หลายคำถาม ดังนี้

ความจำเป็นในการประกาศเคอร์ฟิว
“ก็มีกำหนดอยู่ในนั้น แต่ยังไม่ประกาศ อยากประกาศไหม”

ขั้นตอนหรือเงื่อนไขอะไรที่จะประกาศเคอร์ฟิว
“มันสงบมั้ง ก็ถ้ามันลุกลามบานปลายก็ต้องทำ

ถ้าสถานการณ์บานปลาย กฎอัยการศึกมีความจำเป็นหรือไม่
“ยังไม่ไปถึงตรงนั้น”

มีโอกาสเกิดรัฐประหาร หรือไม่
“นี่ก็พูดซ้ำซากอยู่นั่น พูดอยู่ได้ซ้ำซากปฏิวัติรัฐประหาร พูดอยู่นั่นแหละ เธอคิดแหลมคมไปเองหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ใครจะทำ ไปหามาสิ”

ข่าวลือรัฐบาลแห่งชาติ
“โอ๊ย อีกไกล”

...

ผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทางออกของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
“ก็ผมพูดอยู่นี่ไง ทำผิดกฎหมายก็ว่าไป ในส่วนอื่นก็หารือกันไปในสภาฯ ในคณะกรรมาธิการ ก็ว่ากันไป กลไกมีอยู่ทุกกลไกแหละ จะมาบังคับโน่นบังคับนี่กันมันถูกต้องหรือไม่ เป็นประชาธิปไตยกันหรือเปล่าวันนี้”

ภาพที่เกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
“แล้วใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนทำ”

แกนนำประกาศจัดม็อบแบบดาวกระจาย
“ก็ชี้นำไปเรื่อยๆ แล้วก็ถามฉันเรื่อยๆ แล้วกัน เอาทีละขั้นตอน”

รองนายกรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลมีการเสนอแก้ปัญหาอย่างไร
“ก็เห็นชอบในการใช้กฎหมาย และเดินหน้าในเรื่องของโควิด-19 เรื่องของเศรษฐกิจต่างๆ ก็จะเสริมไป แล้วก็จะช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนในวงกว้าง เรื่องการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้เขาเห็นว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เพราะอย่างน้อยคนส่วนใหญ่ก็ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด-19 อยู่แล้ว ถ้าตรงนั้นเขารออยู่ รอโอกาสของเขา รอการสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่ แล้วทำไม่ได้ เขาไม่เดือดร้อนหรือ เขาเดือดร้อนไหมคนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่เดือดร้อนตรงพูดตรงนี้สิ”

ผู้ชุมนุมอยากให้ปล่อยตัวแกนนำและผู้ชุมนุม
“ผิดกฎหมาย”

ประเมินการชุมนุมครั้งนี้กระทบเศรษฐกิจอย่างไร
“ไม่ตอบ”

เย็นนี้มีการนัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์อีกรอบ จะดำเนินการอย่างไร
“ก็คอยดูสิ”

ภาพเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบที่ผ่านมา จะไม่เกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่
“ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ก็ทำให้คนที่พยายามจะฝ่าฝืน ทำอะไรที่ไม่ควรจะทำ ทำอะไรที่ไม่สมควร ควรทำไหมละ ช่วยกันสิ สื่อก็ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เสนอข่าวออกมาแล้วให้มันเกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่โดนทำร้าย โดนกระทำทั้งหมด ไม่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กันเลย แล้วใครจะมีกำลังใจทำงาน อยากได้แต่ไม่ทำอะไรก็ลำบาก”

ต่างประเทศมีการสนับสนุนเรื่องนี้หรือไม่
“ก็ติดตามอยู่ ทำความเข้าใจกับต่างประเทศอยู่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศก็ชี้แจงแล้วว่าไม่มีผลกระทบไรกับต่างประเทศ เพราะมีการชี้แจงมาโดยตลอด เหตุผลความจำเป็น วันนี้ก็ต้องชี้แจงอีก ประกอบกับข้อเท็จจริง ข้อมูล ด้วยภาพด้วยอะไรต่างๆ ทั้งหมด การกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร ละมุนละม่อมอย่างไร ใช้มาตรการที่เบาที่สุดแล้ว ลองเปรียบเทียบดูต่างประเทศเขาใช้อะไรก็เห็นอยู่ เราทำไหม เราใช้ไหม ถ้าบอกว่าไม่เคารพกฎหมาย ปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายมันก็อยู่กันไม่ได้บ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อผม เพื่อประเทศชาติ เข้าใจคำว่าประเทศชาติประชาชนไหม เข้าใจไหมพวกเราอ่ะ”

เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น
“ก็ฟังมา ก็ให้คนไปเปิดมา อะไรมา แล้วผมก็เก็บข้อมูลมา แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็อยู่ที่เดียวกันนั่นแหละ ก็ที่มาตรงนั้นตรงนี้ ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ ผมก็บอกทุกอย่างนำเข้าสู่กระบวนการไป มันก็เป็นอย่างนั้น”

นักวิชาการอยากให้รัฐบาลมีความจริงใจ เปิดเวทีรับฟังกลุ่มคนที่เห็นต่างโดยเฉพาะนักศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม
“แล้วผลไม่จริงใจกับเขาตรงไหน ไม่ถามกลับไปล่ะ เขาจริงใจกับผมหรือเปล่าถามกลับไปสิ ผมถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ฟังมากที่สุด”

ยืนยันหรือไม่ว่าไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม
“เหรอ... ไม่ออกอะ”

ฮ่องกงโมเดล?
“แล้ววันนี้ฮ่องกงโมเดลเป็นอย่างไรบ้าง ฮ่องกงก็เสียหาย ธุรกิจหมดทุกอย่าง พังพินาศหมด แล้วคนชุมนุมเป็นอย่างไรบ้าง แต่นั่นเขาเป็นสังคมนิยมประชาธิปไตย เราประชาธิปไตยใช่ไหม เราทำได้แค่ไหน แต่เราก็ทำให้ดีที่สุด มันอยู่ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน คนไทยหรือเปล่า คนไทยไหม ประเทศไทยของท่านไหม หรือของผมคนเดียว ไม่ใช่หรอกมั้ง”

มั่นใจหรือไม่ว่าจะทำให้ประเทศสงบได้เหมือนกับที่เคยบอกตั้งแต่เข้ามาอยู่ตรงนี้
“แล้วไม่สงบเพราะอะไร เพราะใคร และสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง เคยเสนอข่าวเหล่านี้ให้ประชาชนทราบไหม ถ้าเสนอข่าวแต่การเมืองอย่างเดียวมันก็วุ่นวายอยู่แบบนี้แหละ เขียนอย่างไรก็แล้วแต่ให้มันสงบ แล้วผมทำความผิดอะไรหรือ ผมผิดอะไรหรือตอนนี้” เขาอาจจะมองว่านายกรัฐมนตรีอยู่นานและมีแววว่าจะนานไปกว่านี้ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากรัฐมนตรีที่ยืนอยู่รอบๆ ก่อนจะตอบว่า “เคยฟังพระสวดไหม เคยเข้าวัดไหม ไปฟังพระสวดพระอภิธรรม 4 จบ ไปฟังสิ”

ระหว่างสวดกับแผ่เมตตานายกรัฐมนตรีทำอะไร
“ก็ทำหมดทุกอย่างอะแหละ ผมให้อโหสิฯ ทุกคนนะ ผมไม่ให้ร้ายกับใคร เพราะสิ่งที่เราให้ร้ายกับคนมันจะกลับมาที่ตัวเอง จำเอาไว้นะ อย่าประมาท ทุกคนมีทั้งตายวันนี้ ตายพรุ่งนี้ อย่าประมาทชีวิต พร้อมจะตายได้ทุกโอกาส ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เรากำหนดไม่ได้ อย่ากับท่านพญามัจจุราชที่มีเสนามาก การตายจะเป็นวันนี้ จะอยู่วันไหน ตายทุกคนนั่นแหละ โรคภัยไข้เจ็บ เครียดสมองแตก ตายได้หมด”

อยากจะพูดอะไรกับม็อบ
“ขอร้อง ไม่อยากให้ใครต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่อยากให้ทำ รักแผ่นดินเกิดให้มากขึ้นเท่านั้นเอง”