เรียบร้อยโรงเรียนนายหญิง เป็นไปตามโผ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเลือกยกมือสลอนเลือก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ อดีตหัวหน้าพรรค กลับสู่ตำแหน่งประมุขพรรคเช่นเดิม

ขณะที่รายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็เป็นไปตามสัญญาณ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” และคนแดนไกล รวมทั้งคำชี้แนะจากบรรดา “เจ๊ๆตระกูลชินฯ”

ขมวดปมแล้ว ทั้งกรรมการบริหาร และตำแหน่งสำคัญต่างๆในค่าย ไม่ปล่อยให้สาย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคยึดครอง

ยึดอำนาจ ลดบทบาทเครือข่ายเจ้าแม่ กทม. ทั้งแผง

จบยุทธการ “เจ๊ล้างเจ๊” ถึงฉากจบ “ศึกนางพญา” ซีซันนี้ไปเรียบร้อย

ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่คิว “นารีพิฆาต-พิฆาตนารี” แต่การล้างกระดานใหม่ในพรรคใหญ่ ส.ส.อันดับ 1 จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รอบนี้ต้องโฟกัสไปที่บทบาทของ “เจ้าของพรรคตัวจริง”

หลังปรากฏการณ์ตะลึงเมือง “กราบ” สะท้านฟ้าสะเทือนปฐพี ไม่ทัน 24 ชั่วโมง แรงสั่นไหวไปถึงอาคารโอเอไอ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแบบปัจจุบันทันด่วน กับการไขก๊อกของเจ้าแม่ กทม.

ต่อเนื่องมาถึงคิวจัดทัพ นัยว่าเป็นไปตามทิศทางลมใหม่ “กราบไป-ต้องไม่สู้ไป”

พร้อมกับประเด็นที่ต้องเงี่ยหูฟัง ถ่างตารอชมยาวๆกับกระแสข่าวลือหนาหู “รัฐบาลเฉพาะกิจ-ครม.เฉพาะกาล” ทีมฝ่ายบริหารเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ พลังประชารัฐ-เพื่อไทย จับมือตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ช็อกอารมณ์กองเชียร์ 2 ฝั่ง

แม้จะเข้าเค้า แต่ก็ต้องรอ “สถานการณ์” พาไป เพราะทุกครั้งยามส่อวิกฤติจะมีการโยนสูตรสำเร็จ ตำรับพิเศษในลักษณะนี้เพื่อผ่าทางตันบ้านเมืองออกมาแทบทุกครั้ง

...

แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐบาลแห่ง “ชวด” ซะมากกว่า

อย่างไรก็ดี ความจริงในวันนี้กับเหตุรื้อโละปรับทิศทางพรรคเพื่อไทย สะเทือนไปทั้งกระดานอำนาจ ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ทุกคนจับตามอง เหตุทั้งจากปรากฏการณ์สะท้านปฐพีของนายหญิง ขณะที่บ้านเมืองอยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่อวิกฤติซ้ำวิกฤติ จากปัญหาโรคระบาด เศรษฐกิจดิ่งเหว

จนถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เขย่าขย่มจนโครงสร้างประเทศโยกคลอน

พรรคเพื่อไทยกับโอกาสพิเศษเมื่อ “ทางเปิด” ก็ต้องแสดงตัวให้ชัด ปลดสัมภาระทิ้ง ไม่ให้เป็นตัวถ่วงน้ำหนัก เมื่อนายหญิง-นายใหญ่จะย่างเดินสู่เส้นทางพิเศษ

วันนี้ก็เริ่มเห็นชัด ปรากฏการณ์สะท้านค่ายยังสะเทือนไปถึงมวลชนแนวร่วมชะงักงัน แม้แต่ทีมการ์ดเสื้อแดง ประกาศถอนตัวจากจ็อบ รปภ.การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน

ขุมข่าย “สีแดง” ถูกจับแยกออกจากทัพ “สีส้ม” เครือข่ายเพื่อไทยโดดหนีถอยห่างม็อบเด็ก

นั่นก็เป็นอะไรที่เริ่มประเมินกันได้ชัด แต่ที่ยังคลุมเครืออ่านได้ไม่ชัด ในจังหวะเวลาที่เริ่มเห็นขั้วอำนาจอื่นๆเริ่มขยับ แบบมีอาการแกว่งกันเล็กๆมาบ้างแล้ว

ทั้งข่าวการตั้งพรรค 2 ป. โดยบิ๊กข้าราชการ “ฉ.” ที่ยังไม่ชัด ข่าวปล่อยอยากให้เกิดขึ้นจริง ของฝ่ายที่ลุ้นเป็นตัวท่อหัวขั้ว รอเก็บต๋งเปิดค่าย หรือจะเป็นข่าวเสี้ยม ขยายรอยร้าวพี่น้อง 3 ป. ในขุมข่ายอำนาจ

แน่นอน ถ้าพรรคใหม่ชูขายยี่ห้อ “2 ป.” โดยโปรโมเตอร์ “ฉ.” เกิดจริง

กลุ่ม ก๊ก แก๊ง ก๊วน ได้วิ่งจับขั้วกันปั่นป่วนทั้งกระดานกันอีก

เช่นเดียวกัน เพราะวันนี้สถานการณ์ชักเริ่ม “ไม่นิ่ง” บิ๊กๆการเมือง ขาใหญ่แต่ละซุ้มอำนาจต้องจับจ้องแต่ละปรากฏการณ์ตาไม่กะพริบ นอกจากค่ายเพื่อไทย-พลังประชารัฐ

พรรคตัวแปรในรัฐบาลอย่าง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ที่เคยขี่ตีกินกันสนุกมาปีกว่าๆ

วันนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เบอร์ 1 ปชป. “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ประมุขภูมิใจไทย อาจเริ่มไม่สนุก

โดยเฉพาะกับสัญญาณ “รัฐบาลแห่งชาติ” โดย 2 พรรคหลักๆเริ่มส่อเค้าจริงเมื่อไหร่ ต้องวิ่งกันตีนขวิด ช่วงชิงเป็นตัวเลือกที่ยังต้องใช้บริการ เสริมความแน่นรัฐบาลเฉพาะกิจ

ในทางกลับกันก็ต้องหวาดเสียว ถูกเขี่ยออกนอกวงอำนาจ

ต้องข้ามฟากไปร่วมฝั่งพรรคก้าวไกล ที่แปะป้าย “ฝ่ายค้านแห่งชาติ” ค่อนข้างถาวร.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน