คงได้อ่านกันแล้วนะครับ รายชื่อรัฐมนตรีใหม่ชุด “บิ๊กตู่ 2/2” ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามโผทั้งสิ้น มีเซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ ที่ไม่มีเซียนการเมืองท่านใดคาดถึงมาก่อนอยู่ 1 เรื่อง ได้แก่ การมอบหมายตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ให้แก่รัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย อีกตำแหน่งหนึ่งนั่นเอง

ขณะเดียวกัน ก็มีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะแต่แรกคาดกันว่าตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่เคยดูแลด้านเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ลาออกไปนั้น จะเป็นของคุณ ปรีดี ดาวฉาย ควบคู่ไปกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แต่พอเปิดโผออกมากลายเป็นว่าคุณปรีดีได้ตำแหน่งขุนคลัง อย่างเดียว โดยมีคุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ซึ่งคาดว่าจะมารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน อย่างเดียวนั้น ได้ตำแหน่งรองนายกฯไปแทน

สร้างความแปลกใจกันอยู่พอประมาณ พร้อมกับคำถามที่ว่า สุพัฒน์พงษ์ เป็นใคร? มีที่มาที่ไปอย่างไร? และสมมติจะช่วยดูแลด้านเศรษฐกิจด้วยจะไหวไหมเนี่ย?

ในกรณีของ รมว.ต่างประเทศที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นรองนายกฯด้วยนั้น ท่านนายกฯคงชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว

วันนี้เรามารู้จักภูมิหลังของว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกันดีกว่า เผื่อจะช่วยตอบคำถามได้บ้างว่าจะไหวหรือไม่ไหวอย่างไร? หากท่านจะต้องมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจด้วย

ตามประวัติที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวไว้โดยทั่วไป ระบุว่า คุณ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ จบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบโทด้านบริหารธุรกิจจากจุฬาฯเช่นกัน

...

ในแง่การทำงานถือเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไต่เต้ามาจนถึงตำแหน่งล่าสุดคือ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก่อนที่จะเกษียณเมื่อปี 2562

แต่ตำแหน่งที่ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจพลังงานก็คือ ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่ท่านบริหาร ควบคู่ไปกับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. จนถึงวันเกษียณอายุ

พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ ในปี 2562 ที่ท่านเป็นซีอีโอมีรายได้ 422,973.52 ล้านบาท มีกำไร 11.682 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ซึ่งมีหุ้นอยู่ประมาณ 48 เปอร์เซ็นต์

จากผลงานด้านการบริหารดังกล่าวนี้ ประกอบกับที่ผมเคยสัมภาษณ์พูดคุยมาหลายครั้ง เมื่อได้ข่าวว่าท่านเป็น “ม้ามืด” มีชื่อมาแทน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ผมก็อุทานออกมาว่า “โอเค” ทันที เพราะผมมั่นใจว่า ท่านมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง “พลังงาน” อย่างดียิ่ง

ส่วนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นรองนายกฯอีกตำแหน่งหนึ่ง ผมก็เดาว่า ท่านนายกฯบิ๊กตู่คงตั้งขึ้นเพื่อให้ช่วยแบ่งเบาภาระในการลงไปบริหาร หรือกำกับกระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ มากกว่า เพราะในแง่ นโยบาย นั้น บิ๊กตู่บอกแล้วว่า ท่านจะเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ด้วยตัวเอง

ในขณะที่กระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ ย่อมมีงานเอกสารที่จะต้องเสนอให้เซ็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีรองนายกฯมาช่วยดู หรือเซ็นแทน

ซึ่งถ้าใครมาเป็น “บิ๊กตู่” ผมก็เชื่อว่าจะต้องเลือกท่านรองสุพัฒน์พงษ์วันยังค่ำ เพราะคนเราย่อมไว้ใจเพื่อนเรา หรือคนที่เรารู้จักมากกว่าคนอื่นๆ มิใช่หรือ?

อย่าลืมว่า พลโทประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่น 50 รุ่นเดียวกับนาย สุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาวน์ ที่มาในโควตาของภาคเอกชนในปีเดียวกันนะครับ

ซึ่งเมื่อดูจากประวัติและผลงานที่บริหารเงินเป็นแสนๆ ล้านบาทมาแล้ว ก็ถือว่าเพื่อนร่วมรุ่นท่านนายกฯรายนี้ไม่ใช่ธรรมดา คงไม่ทำให้บิ๊กตู่ผิดหวังและน่าจะทำงานด้านเศรษฐกิจแทนท่านได้มากกว่างานเซ็นหนังสือเท่านั้น

ผมในฐานะคนดูและกองเชียร์ข้างเวที ขณะเดียวกัน ก็ฝากผีฝากไข้ไว้กับท่านที่จะมาช่วยกู้เศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย ขอเอาใจช่วยเต็มที่

โอกาสที่เราจะชนะสงครามเศรษฐกิจครั้งนี้มีไม่มากนักหรอกครับ หรือจะบอกว่า ไม่มีทางชนะเลยก็คงได้ ขอเพียงสู้ให้เต็มที่อย่างฉลาดและมือสะอาด เพื่อให้แพ้อย่างสูสี เศรษฐกิจไม่ติดลบมากเกินไปก็พอใจแล้วครับ.

“ซูม”