ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง” ให้ขนส่งสาธารณะ ทั้งคนและสินค้า เดินทางข้ามจังหวัด ช่วงเวลา “เคอร์ฟิว” ระหว่าง 23.00-03.00 น.ได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานรับรอง
วันที่ 2 มิ.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ 17/2563 เรื่อง การปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3)
ดังนั้นจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติให้การปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ในเรื่องการปรับการตั้งจุดตรวจควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และจุดตรวจ เพื่อบังคับใช้มาตรการในห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานจัดตั้งคณะตรวจการประกอบกิจการ และกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหน้าที่ และอำนาจและแต่งตั้งหัวหน้าคณะตรวจการประกอบกิจการยังมีผลบังคับใช้ โดยปรับการปฏิบัติให้สอดคล้องกับแนวทางที่กำหนด
ดังนั้นการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดรวมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการ ที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ สำหรับการเดินทางในห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน ให้ปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ส่วนยานพาหนะที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ ที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้า ระหว่างจังหวัดที่เดิมออกจากจังหวัดต้นทางก่อนเวลา 23.00 น. และถึงจังหวัดปลายทาง หลังเวลา 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานได้ โดยต้องแสดงหลักฐานรับรองจากบริษัท หรือหน่วยงานต้นสังกัดระบุรายละเอียดที่จำเป็น ได้แก่ ผู้ขับขี่ พนักงานประจำรถเส้นทาง และตำบลเดินทาง ชนิดและรายการสินค้าหรือบัญชีรายชื่อผู้โดยสาร ควบคู่กับบัตรประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่น รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
...
ทั้งนี้ ห้ามมิให้ผู้โดยสารขึ้นหรือลงจากยานพานะในห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เว้นแต่เป็นผู้ที่
ได้รับการยกเว้นตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒ และฉบับที่ ๓) โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการ
แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ ๙/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓
พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง