"บิ๊กแดง" เตรียมเปิดข้อมูล 700 เรื่องร้องสายตรง ยันเป็นช่องทางแก้ไขปัญหาที่ได้ผล พร้อมให้ "หมู่อาร์ม" รอผลสอบ ร้องทุจริตฯ เปรยใครพูด-ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 2 มิ.ย.63 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม เสมียนงบประมาณแผนกโครงการและงบประมาณกองแผนศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพาวุธทหารบก ได้โพสต์ข้อความย้ำเรื่องการนำชื่อตนเองไปใช้ในการทุจริตเบี้ยเลี้ยงภายในหน่วยว่า เป็นเรื่องที่มองกันในสังคม แต่มีหลายอย่างที่กองทัพบกดำเนินการหลังเปิดศูนย์ร้องเรียนหลังจากเกิดเหตุที่โคราช แต่การจะออกมาแถลงผลงานว่าทำอะไรไปบ้างเพื่อเอาดีใส่ตัวอย่างเดียว ก็คงไม่ใช่เรื่อง แต่ยืนยันว่าแก้ไขปัญหาไปได้มาก เพราะทุกเรื่องรายงานมาถึงตน ส่วนกรณีหมู่อาร์ม ต้องเข้าใจว่ากองทัพบกมีสายการบังคับบัญชา หากสังกัดหน่วยงานใดหน่วยงานนั้นก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน อีกลำดับชั้นก็มีกรมจเรทหารบก สอบสวนหาข้อเท็จจริง ดังนั้นทุกเรื่องจะมาบอกว่าผู้บัญชาการทหารบกต้องรับผิดชอบนั้น ในภาพรวมเราก็รับผิดชอบหมดทุกเรื่อง แต่ทุกอย่างต้องปล่อยไปตามสายบังคับบัญชา

"ถ้าไม่มี Chain of Command ก็ปกครองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพลทหาร หรือ นายสิบ ก็จะไม่มีสายบังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาโดยตรงจึงต้องรับผิดชอบก่อน ถ้าผู้บังคับบัญชาโดยตรงไม่ให้ความเป็นธรรม หรือผลสอบไม่เป็นที่ยอมรับ ก็ทำเรื่องร้องเรียนมาตามขั้นตอน แต่การเป็นข้าราชการแล้ว มีช่องทางร้องเรียนที่ถูกต้องก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้การมีวินัยของทางราชการใครผิดผมก็เอาผิดอยู่แล้วไม่ว่าระดับไหนก็ตาม ถ้าประพฤติปฏิบัติผิด หรือกระทำไม่ชอบ ถ้ามีหลักฐาน ยืนยันชัดเจน ก็ต้องว่ากันไป ตอนนี้ก็รอผลของคณะกรรมการสอบสวนว่าอย่างไร"

...

เมื่อถามว่า แต่ "หมู่อาร์ม" ไม่เชื่อมั่นในการสอบสวนของผู้บังคับบัญชาและหน่วยต้นสังกัด พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การที่บอกว่าจะเชื่อมั่น หรือไม่เชื่อมั่น คนเราจะพูดเช่นนั้นได้ก็ต้องมองตัวเราเองด้วยว่าเป็นอย่างไร มีความประพฤติ และนิสัยอย่างไร ตนก็ได้รับรายงานตลอด แต่ไม่ใช่เรื่องโดยตรงของผู้บัญชาการทหารบก ต้องปล่อยให้หน่วยที่บังคับบัญชาดูแลตามสายการบังคับบัญชา เรื่องความเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม ก็ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน ซึ่งใครทำอะไร พูดอะไร รู้แก่ใจตัวเอง แต่คนเรามักจะไม่พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ดี ออกมาให้คนอื่นรู้ เป็นธรรมชาติของมนุษย์

เมื่อถามอีกว่า หมู่อาร์มเคยมาร้องเรียนผ่าน สายตรง ผบ.ทบ.หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่มี จากการรายงานตรงมาถึงตนทุกสัปดาห์ ไว้ใกล้เกษียณจะเปิดให้ดูทั้งหมดว่า 600-700 เรื่อง และเรื่องอะไรมากที่สุด ก็แก้ไขไปแล้วครึ่งหนึ่ง หลายอย่างต้องมีการตรวจสอบตลอดเวลา ว่าที่ร้องเรียนมาเป็นจริงหรือเปล่า ถือเป็นช่องทางที่ดีและได้ผล เพราะ Outsource ให้ข้างนอกมาที่ตน ไม่ได้ผ่านสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ไม่ได้ผ่านกรมกำลังพล ได้เห็นว่าทุกหน่วยงานมีปัญหาหมด อยู่ที่วิธีการในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกองทัพบกแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด คนที่รับการแก้ไขปัญหามีความพอใจ แต่ไม่ได้เล่า ไม่อยากอวด หรือเล่าว่าได้ทำอะไรไปบ้าง

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการสังคายนาและปฏิรูปกองทัพเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า อย่าเรียกว่าสังคายนา หรือ ปฏิรูปเลย ใครผิดก็ว่าไปตามผิด กองทัพบกมีกฎระเบียบอยู่แล้ว เพียงแต่การบังคับใช้ระเบียบเราทำกันมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น ซึ่งกฎ ระเบียบกองทัพบก ตนถือว่าได้ทำไว้อย่างดีแล้ว มีผู้บังคับบัญชา ผู้รับผิดชอบ มีการแบ่งหน้าที่ งานรับผิดชอบ กองทัพบก ถูกออกแบบมาให้เป็นหน่วยที่มีกฎ ระเบียบ มีวินัย คนที่กล้ามาเป็นทหาร รู้อยู่แล้วว่า กฎ วินัย ระเบียบเป็นอย่างไร ดังนั้นการลงโทษ หรือ การให้ความดีความชอบ ก็ต้องยุติธรรมและเด็ดขาด ซึ่งเรานำความเด็ดขาดมาใช้เท่านั้นเอง ที่ผ่านมาก็มีการปรับย้ายไปหลายคน ทำให้ทั่วทุกหน่วยในการกองทัพบกมีความตื่นตัวค่อนข้างมาก.