ครม.อนุมัติ เพิ่มเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น จากร้อยละ 1 เป็น ร้อยละ 2 และเห็นชอบ กฎกระทรวง กำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ อัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท 

วันที่ 12 พ.ค. นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ซึ่งกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นหักเงินจากประมาณการรายรับในงบประมาณรายจ่ายประจำปี สมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตราร้อยละ 1 เป็นอัตราร้อยละ 2 เว้นแต่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลและเมืองพัทยาให้หักเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 3 และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมอัตราบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท 

สำหรับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพนั้น กรณีผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุต่ำกว่า 65 ปี ให้มีสิทธิ์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 200,000 บาท กรณีมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 70 ปี ให้มีสิทธิ์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 400,000 บาท สำหรับผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิ์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์ได้รับบำเหน็จดำรงชีพเช่นเดียวกันกับข้าราชการพลเรือนตามกฎกระทรวง รวมทั้งช่วยเหลือข้าราชการผู้รับบำนาญส่วนท้องถิ่นให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน

...