ผลักดันผ่าน ‘ชวน’ ให้ไปบอกนายกฯ เปิดประชุมวิสามัญ
“กลุ่ม 6 อดีตประธานรัฐสภา” ยื่นหนังสือ “ชวน” ชงเปิดประชุมรัฐสภารวมพลัง ฝ่าวิกฤติชาติ “สุชน” อ้างใช้เวทีรัฐสภาแก้ปัญหาโควิด-แก้ รธน.-รับมือสู้ภัยแล้ง ระบุประธานสภาฯเห็นด้วยรับไปเสนอนายกฯ “นิคม” เชียร์ปิดประเทศตัดตอนไวรัสมรณะแพร่กระจาย “สุกิจ” เผยนัดหารือ 35 ประธาน กมธ.วางแนวทำงานเข้มข้น ฝ่ายค้านโดดหนุน “อนุดิษฐ์” ยกรัฐสภาคือทางออกของชาติ วอนเห็นถึงความตั้งใจดีของผู้หลักผู้ใหญ่ด้วย “นพดล” แนะต้องเด็ดขาดปิดเมืองเอกซเรย์คนติดเชื้อ “เทพไท” เชียร์สุดแรงพร้อมลงชื่อ พปชร.ค้านแหลก “วิรัช” โวยเป็นหน้าที่รัฐบาล มีช่องทางเสนอแนะมากมาย “ไพบูลย์” ซัดย้อนแย้งเอาคนรวมตัวเป็นพันโลกคงตะลึง จับพิรุธสอดรับฝ่ายค้าน สอดไส้รื้อ รธน. ม็อบนักศึกษา “อนุทิน” สวนนิ่มๆ ป้องกันโรคก่อนดีไหม
จากกรณี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน เรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ ระดมสมองแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เพียงพอ ล่าสุดกลุ่ม 6 อดีตประธานรัฐสภาได้ส่งผู้แทนเข้ายื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาเปิดการประชุมรัฐสภาแก้วิกฤติของชาติ
...
6 อดีต ปธ.รัฐสภาชงเปิดประชุมฝ่าวิกฤติ
เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่รัฐสภา นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภาและนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา เป็นตัวแทนของ “กลุ่มที่ประชุมอดีตประธานรัฐสภา” ซึ่งประกอบด้วยนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาผู้แทน ราษฎร นายสนิท วรปัญญา อดีตประธานวุฒิสภา นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภาและ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำข้อหารือของกลุ่มที่ประชุมอดีตประธานรัฐสภาทั้ง 6 คน ส่งให้นายชวนนำความเห็นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการหลอมรวมทุกพลังในชาติ เพื่อรับมือวิกฤตการณ์ให้รอบด้านในขณะนี้
ใช้เวทีรัฐสภาแก้โควิด-รื้อ รธน.-สู้ภัยแล้ง
นายสุชนแถลงว่า ข้อเสนอของเราต้องการเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อหาทางออกของปัญหาประเทศโดยเฉพาะการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 และการรับฟังปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 หลังเกิดการชุมนุมของนักศึกษาหรือแฟลชม็อบเรียกร้องให้มีการแก้ไข ไปจนถึงปัญหาภัยแล้ง และภัยอื่นๆของประเทศ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า ระบบรัฐสภาเป็นกลไกที่สามารถแก้ปัญหาให้ประเทศได้
ดันปิดประเทศสกัดไวรัสแพร่กระจาย
นายนิคมกล่าวว่า ตนให้กำลังใจการทำงานของรัฐบาล แต่ขอเสนอให้การทำงานจากนี้มีความเป็นเอกภาพ ไปในทิศทางเดียวกัน รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เด็ดขาด โดยอดีตประธานรัฐสภาทั้ง 6 คน มีข้อเสนออยากเห็นการปิดประเทศ และเริ่มต้นกระบวนการจัดการโดยการนับ 1 ใหม่ ทั้งนี้ ความหมายของการปิดประเทศ หมายถึงการวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น ห้ามต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศ ไทย ขณะที่คนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศต้องได้รับการตรวจสอบที่เข้มข้น ขณะเดียวกัน ในประเทศสามารถเดินทางได้ แต่ต้องเฝ้าระวังเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
เผย “ชวน” เห็นด้วยรับลูกชงต่อนายกฯ
นายสุชนกล่าวเสริมอีกว่า การปิดประเทศคือการวางมาตรการที่เข้มข้นเด็ดขาด แต่ไม่ได้หมายถึงการห้ามไม่ให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว เพราะหากใครมีหน้าที่อะไรก็สามารถทำได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับนายชวน ท่านเห็นด้วยกับหลักการ และบอกว่า จะนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นัดหารือ 35 ปธ.กมธ.วางแนวคุมเข้ม
นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อโควิด-19 หลังปฏิบัติหน้าที่ในสนามมวยว่า ในฐานะที่เป็นหมอวิเคราะห์ดูแล้วว่าเจ้ากรมฯได้เดินทางมาร่วมประชุมคณะกมธ.ทหารเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่รัฐสภา วันนั้นอาจจะยังไม่ติดเชื้อเพราะไม่เคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศในรอบ 1 ปี ไม่ได้เดินทางไปสถานที่เสี่ยงมีเพียงกรณีไปสนามมวยวันที่ 6 มี.ค. จากนั้นจึงตรวจพบเชื้อภายหลัง ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.จนถึงตอนนี้ได้ครบกำหนดการฟักตัว 14 วันแล้วยังไม่พบบุคคลใดที่มาร่วมประชุมมีอาการติดเชื้อ จึงอยากให้ ส.ส.เลิกวิตกกังวล สบายใจได้ระดับหนึ่ง แต่สภาฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมยกระดับการควบคุมเข้มข้นขึ้น วันที่ 20 มี.ค.ช่วงบ่ายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะเรียกประชุมประธานกรรมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะเพื่อวางมาตรการควบคุมโควิด-19 ในสภาฯ จะมีข้อเสนอให้มีการยกเลิกการประชุมหรือไม่ต้องรอฟัง เบื้องต้นนายชวนไม่ได้สั่งห้าม
“สุกิจ” ติง “เสรีพิศุทธ์” ไวรัสไม่ใช่การรบ
เมื่อถามว่ากรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะ กมธ.ป.ป.ช. ยังยืนยันว่าจะจัดการประชุม กมธ.ป.ป.ช.ต่อเนื่อง นพ.สุกิจกล่าวว่า เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและดุลพินิจของท่านเอง เชื่อว่าบางเรื่องมีความสำคัญและไม่สามารถเลื่อนการประชุมได้ ไม่ว่าจะเป็น กมธ.ใด ประธาน กมธ.ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกลุ่มบุคคลที่เชิญมาชี้แจงและตรวจเข้มงวดให้มากไม่ใช่มาพูดท้าทายว่าไม่กลัวตาย เพราะผ่านสมรภูมิมาแล้ว ไม่กลัวเชื้อโรคเรื่องนี้ไม่ใช่การรบแต่เป็นเรื่องไวรัส
กมธ.เสนอประชุมผ่านสมาร์ทโฟน
ที่รัฐสภา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า อนุ กมธ.พิจารณาสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เชิญตัวแทนบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด หารือแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน เพื่อใช้แพลตฟอร์มประชุมผ่านทางไกลในช่วงคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิค-19 อนุ กมธ.จะทดลองใช้ระบบดังกล่าวสัปดาห์หน้า และจะเสนอต่อที่ประชุม กมธ.กิจการสภาฯ ให้นัดประธาน กมธ.35 คณะหารือแนวทางประชุมขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง เพราะระบบนี้ประชุมคนละสถานที่ ใช้สมาร์ทโฟนดำเนินการได้ หลังการทดสอบใช้งานอาจเสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ พิจารณาใช้เป็นแนวทางประชุมของ กมธ.ด้วยเพื่อผลักดันให้ระบบรัฐสภาเป็น Smart Parliament
“พรเพชร” ไม่ออกตัวรอดูสถานการณ์
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. กล่าวถึงกรณีตัวแทนอดีตประธานรัฐสภาเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อหารือเสนอเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อหาทางออกแก้ปัญหาประเทศว่า ตามหลักการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ต้องใช้เสียงสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งสองสภาฯ ขณะนี้ยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวของสมาชิกและนายชวนยังไม่ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมา อยู่ที่ว่านายชวนจะประสานเรื่องมาเมื่อไหร่และอย่างไร แต่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของข้อเสนอดังกล่าวว่าจะให้เปิดประชุมร่วมแบบไหน เพราะทราบจากสื่อเท่านั้น ยังไม่เห็นรายละเอียดแต่หากรัฐบาลเห็นด้วยก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเสียง ส.ส.มีจำนวนมากกว่า ต้องดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่อยากวิจารณ์ ไม่มีหน้าที่จะสั่งการว่า ส.ว.ควรจะเห็นด้วยกับกรณีนี้หรือไม่ สุดแท้แต่การใช้ดุลพินิจของสมาชิก ส.ว.ไม่ใช่เรื่องที่ประธาน ส.ว.จะมาชี้นำ เพราะทำหน้าที่ประธานจะต้องเป็นกลาง
“เสี่ยหนู” ปัดนิ่มๆป้องกันโรคก่อนดีไหม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตประธานรัฐสภาเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า เป็นเรื่องของนายกฯกับประธานรัฐสภา เป็นเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ ตนมีหน้าที่ให้บริการรักษาพยาบาล ป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ เมื่อถามว่า ถ้าจะเปิดประชุมรัฐสภาช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ไปป้องกันโรคกันก่อนดีกว่าไหม”
“อนุดิษฐ์” ยกรัฐสภาคือทางออกชาติ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ข้อเสนอของอดีตประธานรัฐสภาฯ ที่ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้เปิดประชุมรัฐสภา เพื่อรับฟังความคิดเห็นแก้ไขปัญหาโควิด-19 และปัญหาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภัยแล้งและปัญหาอื่นๆ ว่า การแสดงออกของบรรดาอดีตประธานรัฐสภา สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นปัญหาของชาติที่ทุกคนต้องมาระดมสมองช่วยกันแก้ไข และให้ความร่วมมืออย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ผ่านวิกฤติสำคัญครั้งนี้ไปให้ได้ การรวมตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของตัวแทนประชาชน ย่อมเป็นสถานที่เหมาะสมที่สุดในการหาทางออกให้กับประเทศ
กระทุ้งรัฐบาลเห็นถึงความตั้งใจดี
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า สมาชิกทุกคนคือตัวแทนประชาชน ส.ส.เขต 350 คนที่ใกล้ชิดและได้รับฟังปัญหาที่แท้จริงมามากที่สุด เขาจะได้เสนอปัญหาและทางออกต่อที่ประชุม เพื่อให้รัฐบาลหยิบยกข้อเสนอแนะต่างๆที่เป็นประโยชน์ไปประยุกต์ใช้กับมาตรการที่มีอยู่ เพื่อทำให้ประเทศพ้นวิกฤติ อยากให้ประธานสภาฯและรัฐบาล มองเห็นถึงความตั้งใจดีของผู้หลักผู้ใหญ่เหล่านี้ และตระหนักว่ารัฐสภาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ชี้ทางออกให้กับประเทศ
จี้ผู้นำใช้โอกาสทองเปิดสภาวิสามัญ
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยมีมติเห็นชอบให้รัฐบาลเปิดประชุมสภาฯหาทางออกวิกฤติประเทศ อยากให้นายกฯบอก ส.ว. และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลให้มาช่วยกันร่วมลงชื่อด้วยกัน เพราะหากเปิดสภาฯได้ ส.ส.ฝ่ายค้านทุกคนจะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังให้กับรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะฝ่ายค้านไม่ใช่จะเอาแต่ค้านไปทุกเรื่อง วันนี้ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งประเทศ หากฝ่ายค้านจะได้ระดมสมองร่วมกันกับทุกฝ่าย เชื่อว่ารัฐบาลจะหาทางออกได้แน่นอน ไม่อยากให้นายกฯพลาดโอกาสทองครั้งนี้ ขอให้แสดงภาวะผู้นำสั่งการให้ ส.ส.และ ส.ว.ในสังกัดมาร่วมลงชื่อเปิดสภาฯ
“นพดล” แนะเด็ดขาดปิดเมืองเอกซเรย์
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้รับเสียงสะท้อนจากคนไม่น้อยหงุดหงิดกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล มีคำถามจากประชาชนดังนี้ 1.หลายประเทศปิดพรมแดนหรือปิดการเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร 2.อาจารย์หมอ ผู้เชี่ยวชาญเชื้อไวรัสคนหนึ่งของโลกเสนอให้ปิดเมือง 21 วันเพื่อสกัดการแพร่เชื้อ แต่ผู้มีอำนาจบอกว่าสถานการณ์ในไทยยังไม่ถึงขั้นนั้น ถ้าถึงขั้นนั้นค่อยมาว่ากัน น่ากังวลเป็นความเป็นความตายของประชาชน 3.มาตรการที่มีคนเสนอให้ระดมเงิน ระดมคนเพื่อเอกซเรย์หาตัวผู้ที่อาจติดเชื้อทั่วประเทศเพื่อตีวงสกัดและตรวจไม่ให้เชื้อกระจายภายในประเทศ รัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่ควรบอกประชาชน และถ้าจะให้ได้ผลต้องปูพรมทำพร้อมกันทั้งประเทศ ต้องทำเร็ว ถ้าช้าเชื้อโรคจะโผล่ตรงนั้นตรงนี้จนเอาไม่อยู่
“สงคราม” เอาด้วยใครกลัวไม่ต้องเข้าร่วม
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การมาถกกันว่าจะช่วยกันคิดแก้ปัญหานี้อย่างไรไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องประชาชน อะไรช่วยได้ต้องช่วยกัน เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเปิดพื้นที่ฟังความคิดเห็น หากมีแนวความคิดเห็นเป็นอย่างไรพร้อมสนับสนุน ส่วนมาตรการรัฐบาลไม่ให้มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก เหตุเสี่ยงต่อการติดเชื้อมองว่ารัฐสภามีระบบคัดกรองดีอยู่แล้ว ทั้งการวัดอุณหภูมิและแจกเจลล้างมือถ้าใครคิดว่าเสี่ยงก็สามารถไม่เข้าร่วมประชุมได้
“เทพไท” หนุนสุดลิ่มแต่อยู่ที่ รบ.แล้ว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีอดีตประธานสภา 6 คน ได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาฯ เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการชุมนุมแฟลชม็อบว่า เรื่องนี้ตนนำเสนอมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีเสียงสนับสนุนมากเพียงพอจะเปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญ ตามมาตรา 123 ได้ เพราะต้องใช้เสียง 1 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาคือประมาณ 246 คน แม้ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นด้วยกับการเปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญด้วยก็ตาม แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เพียงพอและยังมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งที่อยากจะให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเช่นเดียวกัน แต่เมื่อพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนได้เพียงพอ จึงทำให้เรื่องนี้ชะลอออกไป แต่เมื่อวันนี้มีความเคลื่อนไหวของอดีตประธานรัฐสภา 6 คน ออกมาเรียกร้องให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ส่วนตัวยังคงยืนยันในความคิดเดิม พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่ความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น ถ้ารัฐบาลเห็นความสำคัญหรือความจำเป็น ต้องการรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา สามารถใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ได้ทันที
“วิรัช” เมินเป็นหน้าที่ รบ.แนะผ่านช่องอื่นได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐและในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ไม่น่าเปิดประชุมรัฐสภาได้ ขณะที่การประชุมคณะ กมธ.สามัญยังประชุมกันไม่ได้เลย วันนี้ต้องให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล หากฝ่ายค้านหรือใครมีอะไรแนะนำรัฐบาลเสนอผ่านเป็นหนังสือ เฟซบุ๊กหรือไลน์ ผ่านทุกช่องทางได้หมด หรือออกมาสัมภาษณ์ผ่านผู้สื่อข่าว และทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกฯ ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ทำได้หมด เพราะฉะนั้นการที่เอาผู้แทนราษฎรไปพูดกันในสภาเวลาจะทำให้การแก้ไขปัญหาช้าได้ วันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่นายกฯเชิญมาร่วมกันหาแนวทางแก้ไข ตนว่าดีที่สุดแล้ว
“ตั้น” ส่ายหัวเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การรวมตัวของคนเกิน 100 คนขณะนี้ ไม่น่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม ยิ่งเป็นการรวมตัวกันของตัวแทนประชาชนที่จะกลับพื้นที่ไปพบประชาชนจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องที่เพิ่มความเสี่ยงและไม่มีความจำเป็น ส่วนตัวมองว่าถ้าใครอยากแสดงความคิดเห็น หรือเสนอแนะการแก้ไขปัญหาต่อนายกฯ มีหลายช่องทางที่จะส่งข้อความถึงนายกฯได้ จึงไม่จำเป็นที่จะประชุม
“ไพบูลย์” ซัดข้อเสนอย้อนแย้งกันเอง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอเปิดประชุมรัฐสภา รู้สึกว่ากลุ่มอดีตประธานรัฐสภาไม่เข้าใจสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 แถมข้อเสนอยังย้อนแย้งกันเอง การเสนอให้ปิดประเทศคือเราต้องมีมาตรการเข้มข้น คนไม่ควรออกจากบ้านมารวมตัวกันจำนวนมากขนาดนั้น สมาชิกรัฐสภามี 750 คนมีผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่ รัฐสภาและสื่อมวลชน รวมกันแล้วเป็นพันคนจะให้เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้ออย่างนั้นหรือ ไวรัสโควิดเชื่อว่า ส.ส.และ ส.ว.ไม่ได้มีความรู้มากมายเท่ากับหมอและกระทรวงสาธารณสุข ถ้าอยากแก้ปัญหาจริงๆควรปรึกษาหารือเสนอแนะต่อกระทรวงสาธารณสุขจะดีกว่าหรือไม่
สงสัยสอดรับฝ่ายค้านเปิดจริงทั่วโลกตะลึง
นายไพบูลย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ข้อเสนอยังมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการชุมนุมของนักศึกษารวมมาด้วย อยากถามว่าเรื่องนี้ต้องทำเร่งด่วนตอนนี้ด้วยหรือ สงสัยว่าข้อเสนอทำไมสอดรับกับฝ่ายค้าน สถานการณ์ขณะนี้เราควรช่วยกันแก้ปัญหาไวรัสโควิดก่อน แต่เราจะเอาการเมืองไปแก้ปัญหาคงไม่ได้ ขนาดระดับโลกยังต้องให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขช่วยกันหาทางแก้ไข ถ้าเปิดประชุมรัฐสภาคงเป็นข่าวใหญ่ในโลก คนทั้งโลกคงสงสัยว่ารัฐสภาไทยไม่มีสติปัญญาหรือไม่ และเชื่อว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศต้องออกมาด่าแน่นอน หากจะต้องเปิดจริงๆคงต้องถามความเห็นประชาชนด้วย
เด็ก ปธ.กมธ.ป.ป.ช.แจ้งจับ “สิระ”
วันเดียวกัน ที่ สน.บางโพ นายโอภาส อาลมิสรี ผู้ช่วย ส.ส. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เข้าแจ้งความที่ สน.บางโพ เอาผิดนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ตามมาตรา 34 พ.ร.บ.โรคติดต่อกรณีก่อให้เกิดสภาวะไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่อร้ายแรงแพร่กระจายออกไป สืบเนื่องจากกรณีนายสิระเข้าร่วมประชุม กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 18 มี.ค. ทั้งที่สงสัยว่าได้รับเชื้อโควิด-19 และยังถอดหน้ากากอนามัยเดินเข้าไปหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในฐานะประธาน กมธ.บอกว่าขอนั่งติดกันเพราะมีเรื่องมาหารือ พร้อมบอกว่าเพิ่งไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 มายังไม่ทราบผลติดหรือไม่ สร้างความวิตกแก่ผู้อยู่ร่วมในห้องประชุม เหตุใดนายสิระไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน
นายโอภาสกล่าวว่า กังวลว่าจะติดเชื้อเพราะอยู่ในห้องประชุมวันดังกล่าวด้วย ที่บ้านมีเด็กเล็ก หากนายสิระตรวจแล้วเกิดพบเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องพยายามฆ่าตนหรือไม่ จึงมาแจ้งความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ