"วิโรจน์" แฉ "บิ๊กตู่" เบื้องหลังไอโอ ใส่ร้ายสร้างความแตกแยกในสังคม หลังพบเอกสาร กอ.รมน.ของบหนุนเว็บไซต์สร้างเกลียดชัง ปูดเอกสารติวเข้มโจมตีโซเชียลเห็นต่าง "ประยุทธ์" แจกประกาศนียบัตรเพจทำยอดสูงสุด ฉะนายกฯ ต้องรับผิดชอบ เหตุมีส่วนรู้เห็น ด้าน "ศุภชัย"  เดือดซัดกลับ "วิโรจน์" เป็นไอโอเหมือนกัน ยกเพจเชียร์ "อนาคตใหม่" หนุนข้อมูลอภิปราย เจ้าตัวปัดไม่เกี่ยว

เมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 25 ก.พ.63 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวอภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ปัจจุบันหากเข้าโลกออนไลน์จะพบบัญชีรายชื่อปลอม เพจปลอม โดยเอารูปตัวการ์ตูน รูปต่างๆ ที่ไม่ใช่ตัวเองมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ และออกปฏิบัติการคุกคามประชาชน เราเรียกภารกิจแบบนี้ว่า "ไอโอ" หรือปฏิบัติการข่าวสาร เป้าหมายคือคุกคามประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์รัฐบาล โดยการขุดประวัติบุคคลนั้นมาโพสต์ประจาน เหมือนพฤติกรรมการล่าแม่มด ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าทอประชาชน เข้าไปโพสต์ข้อความด่าทอนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ สร้างความเกลียดชัง เลือกเอาข้อมูลด้านเดียวประโยคเดียวเพื่ออวยกองทัพ เขาไม่รู้ว่าการทำแบบนี้จะส่งผลเสียบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห้งความเกลียดชังในหมู่ประชาชน เพียงเพื่อต้องการสืบทอดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไอโอเหล่านี้คุกคามประชาชนหนักจนเหมือนมีงบสนับสนุน มีคนอยู่เบื้องหลัง วันนี้ตนจับกระบวนการนี้ได้ทั้งรังแล้ว 

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า มีการทำเพจเป็นร้อยเพจ ซึ่งทำเป็นกระบวนการเพื่อแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์หนึ่ง บทความถูกแชร์เนื้อหาเหมือนเติมเชื้อไฟให้แบ่งฝักฝ่าย เป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งประชาชนให้ร้าวลึกลงเรื่อยๆ พฤติกรรมแบบนี้บั่นทอนการเจรจาสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้  และโจมตีนักการเมืองไม่ให้นำปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้มาแก้ไขในสภา ตนพยายามหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเว็บไซต์นี้ กระทั่งตนพบเอกสารฉบับหนึ่งจากการเป็น กมธ.งบประมาณ 2563 ที่ส่งมาของบโดย กอ.รมน. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเอกสารหน้าที่ 14 ข้อ 10 ระบุถึงรายงานการปฏิบัติการข่าวสารของเว็บไซต์ ซึ่งมีการของบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560-2562 วันนี้ตนต้องกระชากหน้ากากนายกฯ ออกมา ท่านเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เหตุการณ์ไม่สงบ ทำให้ปัญหายังคุกรุ่น เลี้ยงไข้เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการที่รัฐโดย กอ.รมน. ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกฯ ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปคุกคามนักสิทธิมนุษยชน ตนอยากถามว่าทำแบบนี้ไปทำไม และเพื่ออะไร โทษมหันต์ของท่านยังไม่หมดขณะนี้ในโซเชียลมีการปั่นวาทกรรมชังชาติ

...

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การทำงานของไอโอเหล่านี้มีรูปแบบทำซ้ำทุกครั้ง มีวงรอบปฏิบัติการวนไปรายชั่วโมงเหมือนเดิมทุกวัน และแล้วเจ้าหนูโคนันก็เจออีก เมื่อเจอเอกสารทางราชการ 3 ฉบับ ของกระทรวงกลาโหม (กห.) ฉบับแรกลงวันที่ 25 เม.ย.2562 ในเอกสารมีการซักซ้อมการปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้แต่ละวัน มีการสอนการโพสต์ว่าไม่ต้องเรียงลำดับหัวข้อตามภารกิจที่มอบให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ปลอมหรือเรียกว่าอวตาร มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ตทุกสิ้นเดือน เดือนละ 2,000 บาท ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 22 พ.ย.2562 เอกสารนี้อ้างถึงการประชุมวันที่ 4 พ.ย.2562 และอ้างว่าเป็นข้อสั่งการของพลโทให้หน่วยระดับกองพลและระดับกรม ตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่าวสารที่ตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย ส่งข้อมูลทุกวันที่ 5 ของเดือน มีการประชุมผ่านวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ มีค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ไอโอ เดือนละ 300 บาท และยังมีเงินรางวัลและประกาศนียบัตรให้กับเพจ และผู้ปฏิบัติงานที่มีผู้ติดตามสูงสุดในสื่อโซเชียลทุกเดือน รางวัลละ 3,000 บาท และเอกสารลงวันที่ 22 พ.ย.2562 อีกฉบับ ที่มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไอโอคนละ 100 บาท ทั้งนี้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกองทัพจะทำเองโดยพลการไม่ได้ต้องมีคำสั่ง ดังนั้นภารกิจคุกคามจึงเป็นการปฏิบัติการคำสั่งโดยมิชอบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตนอยากให้มินิฮาร์ทนายกฯ เหลือเกินว่าทำไปได้อย่างไร

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามกระบวนการไอโอทั้งหมด เราสืบทราบว่าจะมีภารกิจ 20 ภารกิจเศษ โดยจะมีกรุ๊ปไลน์ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มของผู้บังคับบัญชา กลุ่มที่สองเป็นไลน์ส่งมอบภารกิจให้กับหน่วยปฏิบัติการ กลุ่มที่สามเป็นกลุ่มรายงานผลและชี้วัดภารกิจในแต่ละวัน เช่น ไลน์กรุ๊ปที่ชื่อ "รายงานมิติเพจในพื้นที่ ทภ.2" เป็นต้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะมีบัญชีปลอมสองบัญชี โดยตนขอเปิดข้อความบางส่วนในไลน์กรุ๊ปที่สอง ซึ่งระบุชัดเจนในการออกคำสั่งให้คุกคามพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจในเฟซบุ๊กต่างๆ ที่เป็นลบต่อรัฐบาลด้วย โดยลักษณะทั้งกดเศร้า กดโกรธ แสดงความเห็นคุกคาม เพื่อด้อยค่าฝั่งเห็นต่าง และยังมีภารกิจอวยเพจต่างๆ ที่เป็นบวกกับรัฐบาล ทั้งกดไลค์ กดเลิฟ ให้กับเนื้อหาที่เป็นบวกกับรัฐบาล รวมทั้งในทวิตเตอร์ก็ใช้วิธีการเดียวกัน

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เป้าหมายไอโอ คือ ประชาชน นักวิชาการ และคนธรรมดา ที่โพสต์หลักการและมีจำนวนคนแชร์มาก และยังมีการล็อกเป้าสื่อ แม้แต่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็โดน ตนจึงหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ทบทวน ทั้งนี้มีหลายหน่วยในกองพันเดียวกัน มากกว่า 1,000 คน นายกฯจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของท่าน ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนยุยงปลุกปั่นประชาชน อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นเพียงปลายน้ำ ต้นน้ำที่ตนไปสืบเบื้องต้นเกี่ยวพันกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง โดยมีผู้ถือหุ้น 3 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวพันกับผู้ผลิตเนื้อหาสร้างความเกลียดชังป้อนให้กับหน่วยงานเหล่านี้ ตนขอฝากเจ้าหน้าที่ที่ทำภารกิจไอโอว่า ภารกิจไอโอที่ท่านได้รับภายใต้การรู้เห็นของนายกฯ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความมั่นคงของชาติ แต่เป็นความมั่นคงในการสืบทอดอำนาจของตัวเองและรัฐบาล ที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้ตนพบคำตอบแล้ว ที่เราเกลียดกันไม่ใช่เพราะอยู่ดีๆ แล้วเราเกลียดกัน แต่ในกระบวนการที่รู้เห็นนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามบ่มเพาะเมล็ดแห่งความเกลียดชังในสังคม โดยสั่งการให้กองทัพทำในสิ่งที่เสื่อมเสียเกียรติภูมิของทหาร ถึงเวลาที่ประชาชนต้องเลิกเกลียดกันเสียที เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของพล.อ.ประยุทธ์ และขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ ว่า หากเกิดโศกนาฏกรรมที่คนไทยต้องฆ่ากันอีกครั้ง ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร นอกจากนี้ขอยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับเพจๆหนึ่ง ตนได้หลักฐานจากทหารไอโอที่เกลียดพฤติกรรมเหล่านี้ และเอามาผสมผสานกับข้อมูลในเพจๆหนึ่งที่อาจเกี่ยวเนื่องกัน ความผิดนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ค่อนข้างฉกรรจ์ จนสภาและประชาชนมิอาจแค่ไม่ไว้วางใจ แต่แค่ให้อภัยก็ไม่สมควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายนั้น นายวิโรจน์ ได้เปิดคลิปสัมภาษณ์ทหารในกระบวนไอโอ ที่ระบุว่า กระบวนการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง และระหว่างที่นายวิโรจน์กำลังอภิปรายอยู่นั้น บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มตึงเครียด ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาลได้ประท้วงการอภิปรายของนายวิโรจน์ โดย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนเข้าไปดูในเพจชื่อหนึ่ง มีการนำรูปภาพตนไปลงในเพจ เชื่อมโยงข่าวการซื้อตัว ส.ส. นอกจากนั้นยังพบว่าเพจดังกล่าวระบุว่า จะส่งข้อมูลการอภิปรายเรื่องไอโอให้ ส.ส.ในสภา ดังนั้นเมื่อได้ฟังการอภิปรายของนายวิโรจน์แล้ว จึงเห็นว่าเป็นการทำงานร่วมกัน และเพจดังกล่าวมีเนื้อหาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้นที่กล่าวหาว่ามีการทำไอโอ ซึ่งเพจดังกล่าวก็มีการทำไอโอกับตนด้วย เพราะมีการใส่ร้ายป้ายสีตน ในขณะที่กล่าวหาว่าเขาทำไอโอ ท่านก็ไอโออยู่ กล่าวหาว่าเขาไม่สุจริต ท่านก็มาด้วยมือที่ไม่สะอาดเหมือนกัน