"กัลยา" โชว์ผลงาน กมธ.ดีอีเอส กว่า 4 เดือนลุยลงพื้นที่เตรียมพร้อม 5G ลดเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการศึกษา-การแพทย์ "เศรษฐพงค์" ยันผลงานเด่นชัดประสาน กสทช.ผลักดันประมูลคลื่น 5G ได้ต้นปี 63 แน่ พร้อมดัน "Cyber security-Space economy" "ภาดาท์" สัญญา กมธ.จะทำงานหนักเพื่อประโยชน์ ปชช.ต่อไป

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.62 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส กล่าวถึงภาพร่วมการทำงานของ กมธ.ดีอีเอส ในช่วงที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ กมธ.ดีอีเอสได้เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย.มาถึงตอนนี้ เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนแล้ว ซึ่งเราได้ทำงานในส่วนที่ กมธ.ดีอีเอสรับผิดชอบ ไม่ว่าจะการติดตามตรวจสอบ แสวงหาข้อเท็จจริง การศึกษา การส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ในอนาคต ซึ่งทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดย กมธ.ดีอีเอสได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและศึกษาดูงานเกี่ยวกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และมิติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ครั้ง คือ ที่ จ.ภูเก็ต กมธ.ดีอีเอส ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นต้นแบบของ "Smart city" และ "Smart Transit" เป็นการยกระดับระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ให้รวดเร็วปลอดภัย สอดคล้องต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังได้ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อติดตามงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ในการเตรียมความพร้อมรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จ.ชลบุรี ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาเป็น Hub ด้านดิจิทัลการสื่อสาร เพราะมีทั้งศูนย์ Data center มีระบบสื่อสารผ่านเคเบิลใต้น้ำ และมีสถานีดาวเทียมภาคพื้นดิน จะเห็นได้ว่าพื้นที่ภาคตะวันออก ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัล เพราะเป็นแหล่งเชื่อมโครงข่ายทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ อย่างครบวงจร และสุดท้าย กมธ.ดีอีเอส ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อติดตามการใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองหน้าด่าน การเตรียมความพร้อมในการดำเนินเรื่องรถไฟความเร็วสูงและ Smart city ติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ หรืออินเทอร์เน็ตชุมนุม USO net รวมทั้งยังได้ตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามแนวชายแดนที่มีปัญหาสัญญาณจากฝั่งประเทศลาวมีความแรง ที่ส่งผลกระทบผู้ใช้บริการของฝั่งประเทศไทย

...

"คณะกรรมาธิการ ดีอีเอส เราเห็นความสำคัญของการลงพื้นที่ เพื่อที่จะได้สัมผัสปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งในด้านการใช้บริการเทคโนโลยีสื่อสารต่างๆ รวมถึงการติดตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต โดยเฉพาะ 5G ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษา การแพทย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" น.ส.กัลยา กล่าว

ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน เห็นผลงานเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นการติดตามงานด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ที่เราได้มีการติดตามและประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการผลักดันการประมูลคลื่น 5G ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าทาง กสทช. ได้ประกาศวันประมูลออกมาแล้ว คือ ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และสามารถจะให้บริการได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งในความพยายามของ กมธ.ดีอีเอส ที่เราให้ความสำคัญในเรื่อง 5G เพื่อให้คนไทย ประเทศไทย ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเรายังให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่ได้ติดตามจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อ Cyber security อย่างมาก นอกจากนี้ เรายังได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของกิจการด้านอวกาศที่ต่างชาติกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเราได้พยายามผลักดัน พ.ร.บ.กิจการอวกาศ ที่จะทำให้เรามีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่เป็น Space agency ขึ้นมาดูแลกิจการอวกาศโดยเฉพาะอย่างจริงจัง จะเป็นการรองรับ Space economy ที่ต้องเตรียมพร้อมในการพัฒนาธุรกิจด้านอวกาศ ที่มีมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจหลายล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การทำงานของ กมธ.ดีอีเอส นอกจากการตรวจสอบติดตามงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานที่ผ่านมา เราได้ติดตามตรวจสอบไปยังผู้ให้บริการในพื้นที่น้ำท่วม เพื่อแก้ไขซ่อมแซมให้จุดปล่อยสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสื่อสาร รวมทั้งเรายังได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วย ส่วนในพื้นที่ กทม. กรรมาธิการดีอีเอส มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคน กทม. จึงได้ติดตามการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในเส้นทางต่างๆ ให้เรียบร้อยโดยเร็ว และขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามการทำงานของ กมธ.ดีอีเอส ในปี 2563 ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน