ผอ.กกต.ขอนแก่น ยัน ให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย ปมกำนันกาบัตรเลือกตั้งแทนยาย ตรวจสอบเบื้องต้นยันไม่พบมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ด้านกำนัน ตั้งข้อสงสัย คนพาเข้าแจ้งความ กลับไม่ใช่ลูกหลาน แต่เป็นหัวคะแนนพรรคหนึ่ง
ความคืบหน้ากรณี ยายวัย 86 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ อ้าง ถูกกำนันตำบลบ้านเม็ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 17 นำบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไปกาหมายเลข 2 แทนยาย ล่าสุด เข้าแจ้งความเอาผิดยายให้การเท็จ แจ้งความเอาผิดผู้ที่คาดว่าจะอยู่เบื้องหลัง และเอาผิดสื่อมวลชนลงข่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้ากรณีนางทัน พลเสน่ห์ อายุ 86 ปี ชาวบ้านหนองหอย ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บรรลุ สินนา สว.(สอบสวน) สภ.หนองเรือ ดำเนินคดีกับนายจักรธร โงะบดดา กำนันตำบลบ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 17 โดยกล่าวหาว่า ถูกกำนันแย่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไปกาลงคะแนนแทน จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะไม่ได้ใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองต้องการจะเลือกพรรคที่ชอบ กระทั่งช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางด้านกำนันตำบลบ้านเม็งได้เดินทางเข้าแจ้งความกลับ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองโดยยืนยันว่าไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกยายกล่าวหา
ล่าสุด จากการสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ เปิดเผยด้านคดีกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังจากที่ผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าแจ้งความทั้งสองฝ่าย ทางพนักงานสอบสวนก็จะมีการเรียกสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย รวมพยานในที่เกิดเหตุคือเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 17 ขณะนี้สอบปากคำยายและกำนันไปแล้ว เหลือเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งจำนวน 9 ปากและผู้สังเกตการณ์ของพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค รวมทั้งหมดที่จะต้องสอบปากคำเบื้องต้นมี 11 ปาก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายผิดถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
...
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายจักรธร โงะบดดา กำนันตำบลบ้านเม็ง ผู้ถูกกล่าวหา ทราบว่า ช่วงเช้าวันนี้ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดในเรื่องดังกล่าวกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตัวเอง โดยนายจักรธร กำนันตำบลบ้านเม็งกล่าวว่า ภายหลังจากเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ได้เข้าแจ้งความกลับ โดยเป็นการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อนเนื่องจากสงสารยาย แต่ภายหลังจากมีข่าวสารแพร่หลายออกไปทาสื่อมวลชนช่องทางต่าง ทั้งโซเชียลมีเดีย และสื่อหลัก พบว่าบางสื่อสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยไม่มีการตรวจสอบให้ดีก่อนลงข่าว และในส่วนของยายที่กล่าวหาตนเองก็จะแจ้งความเอาผิดในข้อหาให้การเท็จ รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังพายายเข้าแจ้งความ เพราะแทนที่จะเป็นลูกหลานของยายที่พาแจ้งความ กลับเป็นหัวคะแนนของพรรคการเมืองหนึ่งเป็นคนพาเข้าแจ้งความแทน ตนเองในฐานะกำนันตำบลบ้านเม็ง ปกครองด้วยใจ แม้ว่าจะเป็นคนพูดจาโผงผาง พูดไม่เพราะ แต่ชาวบ้านในพื้นที่รู้ดีว่าตนเองเป็นคนอย่างไร ผิดต้องก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ตนเองก็สงสารคุณยายแต่ในสิ่งที่คุณยายพูดมันทำร้ายแรงกับตนเองเกินไป อยากให้เอาความจริงมาพูดกัน ตอนนี้รู้สึกงงว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางในพื้นที่กับใครมาก่อนและถ้าไม่มีการเลือกตั้งก็ไม่มีทางได้เจอยายคนนี้ อยากให้ทุกคนวิเคราะห์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเรื่องจริงใครพูดจริงใครพูดเท็จ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของการเมือง เพราะคนที่พายายเข้าแจ้งความเป็นหัวคะแนนของพรรคพรรคหนึ่ง แทนที่จะเป็นลูกหลานพาเข้าแจ้งความ และทำไมจึงไม่โวยวายในตอนที่เกิดเหตุตอนที่อยู่คูหา ทำไมจึงไปเข้าแจ้งความและกล่าวหาตนเองได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเตรียมการมาไว้เป็นอย่างดี
ด้านนายอภินันท์ จันทร์อุปละ ผอ.กกต.จ.ขอนแก่น กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ทาง กกต.ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะประสานทางตำรวจ สภ.หนองเรือ ในส่วนของการให้ปากคำของทั้งสองฝ่าย ส่งมายัง กกต.เพื่อจะรายงานให้ทาง กกต.กลางได้ทราบและพิจารณาตามขั้นตอน โดยเบื้องต้นได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยและตัวแทนผู้สมัครของทั้ง 2 พรรค ก็ไม่พบว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่ก็ต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดและเป็นทางการ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.