"ปารีณา-สิระ" เเท็กทีมเสนอถอดถอน "เสรีพิศุทธ์" ออกจากประธาน กมธ.ป.ป.ช. สุดท้าย มติ 7 ต่อ 2 ไม่สามารถปลดได้

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน กมธ. เริ่มปั่นป่วนตั้งเเต่ยังไม่เริ่มเข้าสู่วาระ

ทั้งนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ. ได้ยกมือประท้วง พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าไม่ควรให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษาประธาน กมธ. นั่งข้างๆ เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติตำแหน่งที่ต้องนั่งข้างประธาน กมธ. ควรเป็นรองประธาน กมธ. และที่ปรึกษาต้องนั่งต่อจาก กมธ.

ทางด้านเจ้าหน้าที่สภาฯ ชี้แจงว่า ตามระเบียบข้อบังคับไม่มีกำหนดไว้ว่าใครต้องนั่งตรงไหน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงตัดบทว่าใครนั่งตรงไหนก็ได้ น.ส.ปารีณา จึงกล่าวว่า "ดิฉันขอไปนั่งข้างประธาน" พร้อมกับหยิบกระเป๋าของตนเองไปวางบนโต๊ะซึ่งอยู่ข้างๆ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แล้วเดินไปลากเก้าอี้มานั่งหัวโต๊ะข้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า "เอ้า นักข่าวถ่ายหน่อย ผมได้นั่งใกล้คนสวย อย่ากอดผมแล้วกันนะ"

...

ต่อมา ที่ประชุม กมธ. เข้าสู่วาระเสนอปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ประชุมต่อได้ไม่นานก็เกิดการปะทะคารมอีกครั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้หันไปต่อว่า น.ส.ปารีณา ว่า กำลังพิมพ์อะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือเพื่อรายงานใคร ส่วน น.ส.ปารีณา ชี้แจงว่า "กำลังเสิร์ชกูเกิลข่าวนายชวน หลีกภัย ปลด เสรีพิศุทธ์ อยู่ค่ะ" ทำให้บรรยากาศจึงวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง

โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถามหาข้อบังคับที่ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารในห้องประชุม และถ้าไม่หยุดใช้โทรศัพท์มือถือจะฟ้องนายชวน เพราะรบกวนโสตประสาทการทำหน้าที่ประธาน กมธ.

ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ระบบโสตประสาทถูกรบกวน ไม่ได้มองจอโทรศัพท์ของ น.ส.ปารีณา แต่มองอย่างอื่นของ น.ส.ปารีณามากกว่า ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงโต้กลับว่า "ผมจะไปมองอะไรปารีณา มีอะไรให้ผมน่ามอง" ทำให้ นายสิระ กล่าวต่อว่า "นี่หรือคำพูดของอดีต ผบ.ตร."

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถามหาข้อบังคับที่ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารในห้องประชุม และถ้าไม่หยุดใช้โทรศัพท์มือถือจะฟ้องนายชวน เพราะรบกวนโสตประสาทการทำหน้าที่ประธาน กมธ.

อย่างไรก็ตามสุดท้ายเเล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวตัดบท และเข้าสู่วาระการประชุมเสนอปลดตัวเองออกจากตำแหน่งประธาน กมธ. โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้ทำเรื่องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ว่า กมธ.จะลงมติปลดประธาน กมธ.ได้หรือไม่ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ฟังเสียงทักท้วง ให้ที่ประชุมดำเนินการต่อจนกระทั่งมีการลงมติ

ผลปรากฏว่าที่ประชุม กมธ.มีมติ 7 ต่อ 2 งดออกเสียง 4 เสียง ไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องลงมติปลดประธาน กมธ.ได้หรือไม่ มาพิจารณาในที่ประชุม แต่ให้นายสิระไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่ลงมติเสียงข้างมากนั้น มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ด้วย ขณะที่ 2 เสียงข้างน้อยคือ นายสิระ และ น.ส.ปารีณา

นอกจากนี้ ช่วงก่อนที่จะมีการลงมติ นายสิระ ได้ชักชวน กมธ.ในสัดส่วนของรัฐบาลให้วอล์คเอาต์ แต่ไม่มี กมธ.คนใดสนับสนุน โดยในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ นายสิระจะเดินทางไปร้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีใช้คำสั่งเรียกนายกฯ และรองนายกฯ โดยไม่มีมติที่ประชุม รวมทั้งการแต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน กมธ.โดยมิชอบ.