เจ้าตัวโวเหมือนกับกระท้อน ยิ่งทุบยิ่งหวานยํ้าไม่ลาออก ‘ส.ส.สิระ’ รับเป็นคนเสียงดัง

“บิ๊กตู่” ขน รมต.ลงพื้นที่สุรินทร์-บุรีรัมย์ 3 ส.ส.สุรินทร์ เพื่อไทยร่วมตั้งแถวต้อนรับครึกครื้น “ตี๋ใหญ่-ครูมานิตย์” อวยลั่นยกมือหนุนนายกฯตู่ เชียร์อย่ายุบสภาอยู่ให้ครบ 4 ปี “ปกรณ์” จีบขอพันล้านสร้างอ่างเก็บน้ำ แจงสื่อไม่มีเรื่องการเมือง “ประยุทธ์” อ้อนชาวบุรีรัมย์ไปที่อื่นมีคนอยากให้ไขก๊อก ยันไม่ลาออกยกตัวเองเหมือนกระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน “วิษณุ” ยันแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ขัด รธน. “ปิยบุตร” ตื๊อต่อตั้งกระทู้-ยื่น ป.ป.ช.ปมถวายสัตย์ฯไม่ครบ “เจ๊หน่อย” บี้ผู้นำทบทวนตัดอคติเข้าสภาฯ “ชัยเกษม” ซัดนายกฯไม่ยอมตอบเองหมดเครดิต คลิปว่อน “ส.ส.สิระ” เบ่งใส่รอง ผกก.สภ.กะรน รับโพสต์เองฉุนไม่มี ตร.มา รปภ.เวทีชาวบ้านร้องนายทุนคอนโดรุกป่า โต้ไม่ได้กร่างแค่เป็นคนเสียงดัง “กฤษณะ” ชมลูกน้องสุภาพอดทน รองโฆษก พปชร.รีบขอโทษสังคม-ตำรวจ พท.อัดใช้อำนาจบาตรใหญ่

ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ยังเป็นปมร้อนที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปตอบชี้แจงญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ รวมทั้งยังพยายามติดตามตั้งกระทู้สอบถามนายกฯอีกจนกว่าจะยอมไปชี้แจงในสภาฯ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันจะไม่มีการลาออกตามที่บางฝ่ายกดดัน เปรียบตัวเองเหมือนกระท้อนที่ยิ่งทุบยิ่งหวานอร่อย

...

นายกฯยกพลบุกสุรินทร์–บุรีรัมย์

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 19 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โดยมีนายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผวจ.บุรีรัมย์ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมกับรัฐมนตรีที่มาลงพื้นที่มารอต้อนรับ ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และข้าราชการ นายอนุทินจะกล่าวรายงาน แต่นายกฯบอกว่า ไม่ต้องรายงานไปช่วยกันทำงาน พร้อมเดินเข้าห้องรับรองรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในพื้นที่รวมถึงแนวทางแก้ไขจากผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนายกฯขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังท่าอากาศยานสุรินทร์ ได้กล่าวกับทหาร ตำรวจและข้าราชการที่มาต้อนรับว่า ขอบใจทุกคน ทหาร ตำรวจ ทุกหน่วยขอให้ช่วยกัน รัฐบาลมีโครงการเต็มไปหมด แต่บางอย่างทำไม่ได้ติดปัญหาประชาชนส่วนหนึ่งไม่ให้ทำต้องเร่งทำความเข้าใจ รัฐบาลกำลังจะมีโครงการหลายพันล้านลงมา จากนั้นนายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และนั่งรถโตโยต้าเวลไฟร์ สีขาว ทะเบียน 3 กณ 1689 สีขาวไปเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงโครงการชลประทานสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์

ครึกครื้น ส.ส.เพื่อไทยแห่ต้อนรับ

ต่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางถึงโครงการชลประทานสุรินทร์ มีประชาชนนำโสร่งมาผูกเอวให้นายกฯและคณะ นายกฯได้แวะเยี่ยมชมกลุ่มผู้เลี้ยงโคสุรินทร์วากิว ชิมสเต๊กเนื้อวากิว ท่ามกลาง ส.ส.ในพื้นที่มารอต้อนรับ ประกอบด้วย นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส. สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้ ยังมีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยมาต้อนรับด้วย นายตี๋ใหญ่กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาต้อนรับนายกฯ นายกฯตอบกลับว่า “ผมไม่มีพรรค ต้องช่วยกัน ทุกอย่างจะเดินไปได้ จะทะเลาะกันทำไม ผมไม่อยากจะสู้กับใคร” ทำให้บรรดา ส.ส.ที่มาต้อนรับต่างหัวเราะชอบใจ

ยันสุภาพบุรุษพอไม่ขัดแย้งกับใคร

ต่อมานายกฯได้ฟังบรรยายสรุปพร้อมกล่าวทักทายประชาชนบนเวทีเป็นภาษาอีสานว่า “ฮักคักๆฮักแท้ๆลูกหลานอีสานเก่าเหมือนกัน วันนี้มาดูแลชาวอีสาน เพราะเห็นถึงความเดือดร้อนหลายอย่าง พร้อมจัดงบประมาณให้ส่วนที่ยังสามารถใช้ได้อยู่ นายกฯ มาต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ ที่มาเพราะเราต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ จะรัฐมนตรีหรือใครคือรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ของคนทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดไหนไม่ดีกับตน แล้วไม่มายิ่งต้องมาใหญ่เลย วันนี้ทุกคนต้องช่วยกัน อยากเห็นตนพูดเรื่องที่มีประโยชน์ใช่ไหม เรื่องอะไรที่ขัดแย้ง เดี๋ยวค่อยว่ากันผมไม่ไปขัดแย้ง กับพวกท่านผมเป็นสุภาพบุรุษพอ เป็นลูกผู้ชาย นี่พูดไปการเมืองจนได้”

โอ๋น้ำไม่ไหลเดือนนี้ฟรีค่าประปา

นายกฯกล่าวอีกว่า คนสุรินทร์ทุกคนคือคนไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย อย่าให้ใครมาแบ่งแยก แบ่งไม่ได้อีกแล้วเราต้องช่วยกันทั้งหมดของเราเรื่องเร่งด่วนคือเรื่องประปาใช่หรือไม่ในเขตเมืองเปิดมามีแต่ลม จึงตัดสินใจว่าเดือนนี้ไม่ต้องให้จ่ายค่าน้ำประปา ไม่ใช่ประชานิยมนะ แต่ประชาชนเดือดร้อนน้ำใช้ไม่ได้ ผู้ว่าฯต้องแก้ปัญหาด่วน การทำฝนหลวงสั่งให้สแตนด์บายอยู่ที่นี่หลายลำ ทั่วประเทศกว่า 4 พันเที่ยวบิน อะไรต้องใช้จ่ายพิเศษจะดูแลให้ทั่วประเทศ 21 จังหวัดเป็นห่วงไม่มีน้ำกินน้ำใช้ลำบาก เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ไปกราบหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโรเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เขตพระโขนง กรุงเทพฯ พระท่านบอกให้อารมณ์ดี จะได้มีสมาธิ อย่าโมโหเร็ว อย่าคิดเร็ว อย่าพูดเร็ว บอกให้นับ 1-10 แต่บางครั้งกระตุ้นมากๆนับ 1-3 ก็ไปแล้วเป็นคนเร็ว แต่ไม่มีอะไรกับใครอยู่แล้ว

ส.ส.พท.ขอพันล้านพร้อมหนุนเรื่องดีๆ

ช่วงหนึ่งนายกฯได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ในพื้นที่ได้เสนอโครงการและพูดถึงปัญหาในพื้นที่ นายตี๋ใหญ่ กล่าวว่า งบประมาณปี 63 จังหวัดสุรินทร์ได้ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท ยกมือไม่สวนนายกฯ เพราะประชาชนไม่ได้เลือกผมมาเป็นฝ่ายค้าน แต่เลือกผมมาเป็นผู้แทนราษฎร สิ่งไหนดีก็สนับสนุน สิ่งไหนไม่ดีก็ว่ากันไปในสภา ขณะที่นายกฯกล่าวว่า ดีแล้ว อันไหนไม่ดีก็บอกกัน

ด้านนายครูมานิตย์เสนอให้พักหนี้เกษตรกรประมาณหนึ่งและขอให้ยก จ.สุรินทร์เป็นโมเดลแก้ปัญหาภัยแล้งประเทศไทย และฝากจังหวัดเมื่อคิดแผนงานขอให้เชิญ ส.ส.เข้าร่วมด้วย ขณะที่นายปกรณ์กล่าวว่า หวังว่าที่นายกฯมาวันนี้จะไม่เป็น ไฟไหม้ฟาง ถ้ามีอะไรตนจะกราบเรียนนายกฯผ่านสภาและของบประมาณสร้างอ่างเก็บน้ำ 1,000 ล้านบาท โดยนายกฯได้กล่าวว่ารับในหลักการ

เชียร์ “บิ๊กตู่” อย่ายุบสภาอยู่ 4 ปี

ภายหลังรับฟังปัญหานายกฯและรัฐมนตรีถ่ายภาพร่วมกับ ส.ส.ที่มาต้อนรับ ก่อนบีบแตรปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชน นายกฯขึ้นรถไปที่การประปาส่วนภูมิภาค เดินทักทาย ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยนายครูมานิตย์กล่าวว่า “ยกมือให้นายกฯล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่มีการลงชื่อขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ผมยังบอกว่าลงทำบ้าอะไร พวกมึงบ้าหรือเปล่า เขายังไม่ทำอะไรไปลงชื่อกันแล้ว ไปดูได้เลยไม่มีชื่อผม” จากนั้นนายกฯหันมาถามนายตี๋ใหญ่ว่าได้ลงชื่อกับเขาหรือเปล่า ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ผ่าน รัฐบาลเก่าได้กลับมา นายตี๋ใหญ่ตอบว่านายกฯอย่ายุบสภานะ อยู่ให้เกิน 4 ปีนะ ขณะที่นายกฯกล่าวว่า จะยุบได้ยังไง ยังไม่ทันได้ทำงานเลย ระหว่างนั้นนายอนุทินกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า “คสช.” กลับมา จากนั้นนายกฯเดินทางมายังการประปาส่วนภูมิภาคดูการผลิตน้ำประปา ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนเป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ร่วมกับ ผวจ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้น 2 ศาลากลาง จ.สุรินทร์

“ครูมานิตย์” พลิ้วยังไม่คิดย้ายคอก

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีมาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ที่ จ.สุรินทร์ ระบุว่าจะยกมือให้นายกฯล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า ความหมายของตนคือพร้อมสนับสนุนอะไรที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานที่มีปัญหาภัยแล้ง ตนสนับสนุนการตั้งงบประมาณแก้ปัญหาแก่ประชาชน เราเป็นผู้แทนฯ ต้องการดูแลทุกข์สุข ไม่ใช่จะเข้าไปทะเลาะคะคานเอาแต่ชนะกันทุกเรื่อง เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ เมื่อถามว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตคำพูดพร้อมยกมือให้นายกฯ จะเตรียมย้ายพรรคหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความคิดจะย้ายพรรค คำว่ายกมือให้คือสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะวิกฤติภัยแล้ง เมื่อตนเป็น ส.ส. มีหน้าที่สะท้อนปัญหาให้ผู้มีอำนาจรับรู้ทั้งในและนอกสภาฯ

“คุณากร” ยันไม่มีเรื่องการเมือง

ด้านนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การไปต้อนรับนายกฯ เนื่องจากวิกฤติภัยแล้งของ จ.สุรินทร์ เป็นเรื่องใหญ่ และปัญหาภัยแล้งไม่ได้มีแค่ในพื้นที่เทศบาลเมืองสุรินทร์ แต่ยังรวมไปถึงพื้นที่รอบนอก เราจึงมาสะท้อนปัญหาให้กับนายกฯทราบ เพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ประชาชน ยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

บ่นที่อื่นอยากให้นายกฯไขก๊อก

จากนั้นเวลา 14.30 น. นายกฯและคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาติดตามภัยแล้ง จ.บุรีรัมย์ นั่งรถยนต์ไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก โครงการชลประทานบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ มีชาวบ้านมาต้อนรับกว่า 2 พันคน นายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า “พูดก็เหนื่อยเหลือเกิน พอทำเหนื่อยกว่าอีก เหนื่อยมา 5 ปีแล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่ามาบ่น ผมไม่ได้มาบ่น เขาบอกว่าบ่นมากก็ให้ออกไปซิ แหม่ ทำไมใจร้ายกับผมจริงๆ วันนี้เรามาช่วยทำงานในรัฐบาลใหม่ ไม่ได้บ่นอย่างนั้น แต่บางทีผมบ่นตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใครเลยสักคน จากนั้นนายกฯได้ถามขึ้นว่า มีใครอยากให้นายกฯลาออกบ้างยกมือ ที่นี่ไม่มี แต่มีที่อื่น

ลั่นไม่ออกเป็นกระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน

“ผมยังไม่ลาออกแน่นอน ไม่มีลาออก เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมเหมือนกระท้อนยิ่งทุบ ยิ่งตี ยิ่งอร่อย ยิ่งหวาน ผมชอบ” ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ เรากำลังพิจารณางบฯปี 63 ที่อาจล่าช้าไปถึงเดือน ม.ค.63 เรื่องการเมืองก็เดินหน้าไปตามขั้นตอน อาจเสียเวลาอยู่บ้างช่วงนี้ แต่ไม่ได้ระงับการจ่ายอะไร พูดแล้วเจ็บท้องเพราะพูดแต่เช้า” นายกฯกล่าววันที่ 20 ส.ค. มีการประชุม ครม. มีหลายเรื่องต้องนำเข้า ครม. 2 สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ เวลาจำกัด ฉะนั้น ต้องผูกพันงบประมาณให้ได้ ถ้าพูดว่าต้องการแต่ไม่เข้าใจระเบียบงบประมาณ ไม่เข้าใจวิธีการเงินการคลัง บอกเลยทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะถ้าทำไปก็อันตราย หากมีการตรวจสอบทุจริต ครม.ของตนจะกระทบ ไม่อยากให้ ครม.ล้มไปแบบนั้น ต้องมีกระบวนการคิดเหมือนต่อเลโก้ ขอคนไทยอย่าทำลายศักยภาพ อย่าทำประวัติศาสตร์ ประเทศจะวุ่นวายไปหมด จำใจลาด้วยน้ำตา เสียดายไม่ได้เป็นลูกเขยบุรีรัมย์ แต่งงานแล้ว แก่แล้วด้วย

จากนั้นนายกฯได้เดินทักทายและถ่ายเซลฟี่กับประชาชน และนายกฯได้ตะโกนถามว่า สู้ไหม สู้แค่ไหน โดยชาวบ้านตะโกนกลับว่า สู้ๆ สู้แค่ตาย กระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯและคณะจึงเดินทางกลับ กทม.

“วิษณุ” ยันแถลงนโยบายครบถ้วน

ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไป ไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รวมกรณีการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่มีรายละเอียดของที่มางบประมาณเข้าไปด้วยว่า ยืนยันว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ในนโยบายรัฐบาลแสดงที่มาของงบประมาณไปแล้วในหน้า 34-35 ตอนท้ายของนโยบายรัฐบาล หากดูจะเจอ แต่ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่ายังไม่ครบถ้วนมีสิทธิจะเห็นเช่นนั้นได้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าระบุไว้ครบถ้วนแล้ว เรื่องการแจงที่มาของงบประมาณในโครงการต่างๆนั้น ไม่เคยมีแบบอย่างในการดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งบัญญติในรัฐธรรมนูญ 2560 ในอดีตไม่เคยกำหนดเช่นนี้ รวมทั้งในทางปฏิบัติคงไม่มีใครที่ทำนโยบายแล้วจะบอกรายละเอียดของงบประมาณได้ทั้งหมด

“ปิยบุตร” ลุยตั้งกระทู้–ยื่น ป.ป.ช.

ที่พรรคอนาคตใหม่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า ขอให้จับตามองการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯที่ไม่คืบหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันจะตั้งกระทู้ถามและจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถ้านายกฯยอมมาตอบจะพิจารณาอีกครั้ง ไม่ได้คิดว่าการอภิปรายในสภาฯจะชี้นำต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญอย่างที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุ หากศาลรัฐธรรมนูญจะนำข้อมูลไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาก็ทำได้

“ชัยเกษม” ซัด “บิ๊กตู่” หมดเครดิต

นายชัยเกษม นิติสิริ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า อภิปรายเป็นการทั่วไปมาตรา 152 นายกฯมอบให้คนอื่นชี้แจงแทนได้ ว่าแม้กฎหมายเปิดช่องให้แต่เป็นเรื่องของนายกฯโดยตรง ที่เป็นผู้นำการถวายสัตย์ฯใครก็ตอบคำถามแทนไม่ได้ ต่อให้ตอบได้ก็ไม่สง่างามเท่าเพราะไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวนายกฯที่ไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วนแล้วพารัฐมนตรีปฏิบัติไม่ครบถ้วนไปด้วย ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ควรชี้แจงด้วยตัวเอง ถ้าไม่ยอมตอบจะเสียภาพทางการเมืองและจะทำให้ความน่าเชื่อถือในตัวท่านหมดไปด้วย

“เจ๊หน่อย” บี้ผู้นำทบทวนตัดทิ้งอคติ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ระบุว่าอาจบรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ไม่ลงมติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีนำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบไม่ทันในเดือน ส.ค.เพราะติดประชุมรัฐสภาอาเซียนว่าถ้าเห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา และเห็นว่ารัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ใช้ช่องทางรัฐสภา และมีความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาจริง การประชุมรัฐสภาอาเซียนจึงไม่น่าจะเป็นอุปสรรค จัดวันประชุมได้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ทบทวนใหม่ตัดอคติทิ้งไป จะมองเห็นว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอทางออกให้รัฐบาลและนายกฯ ให้ทำถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ร่างมาเอง

สงสัยข่าวลือ ศก. ใหม่เล็งซบ รบ.

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ถูกทาบทามให้ไปร่วมพรรครัฐบาล ยังไม่ทราบ ที่ผ่านมายังพูดคุยกันอยู่ตลอดและเดินหน้าทำงานร่วมกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่เห็นข่าวในส่วนนี้ อาจเป็นเพียงแค่ข่าวลือต้องรอดูต่อไป ขณะนี้เราประสานงานกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

“ฟิล์ม” เปิดตัวย้ายเข้าค่ายเพื่อไทย

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายรัฐภูมิ ฟิล์ม โตคงทรัพย์ อดีตสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมนายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ อดีตเลขาธิการพรรคภาคเครือข่ายไทยและนายณัฐพงษ์ รอบคอบ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่และประธานกลุ่มเพื่อไทยพลัส และ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัสให้การต้อนรับ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าขอบคุณฟิล์มและคณะที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถเข้ามาพัฒนานโยบายพรรค ยินดีต้อนรับทีมคุณภาพที่จะเข้ามาผลักดันการทำงานของพรรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หยอดมีบ้านใหม่อบอุ่นมืออาชีพ

ด้านนายรัฐภูมิกล่าวว่า อุดมการณ์ของตนคืออยากเห็นประเทศพัฒนาขึ้น ตนเคยอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตนได้เจอตัวตนว่า เส้นทางการเมืองนั้นน่าตื่นเต้น และตนได้พบกับกุญแจสำคัญ คืออยากเข้ามาทำงานพัฒนาประเทศ ตนได้มาเจอกับพรรคเพื่อไทย ที่เป็นบ้านใหม่ที่อบอุ่น และเป็นมืออาชีพของจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้ามาการเมืองแรกๆก็กังวล แต่เมื่อได้ลงพื้นที่หาเสียงได้พบประชาชนจึงหมดความกังวลไป เพราะรู้ว่าในทางการเมืองนั้น ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ หมดยุคแล้วสำหรับการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย วันนี้เรารอเพียงว่าจะมีพรรคการเมืองใดที่จะเข้ามาปลดล็อก และมีความพร้อมที่จะแก้ปัญหาได้จริง ก็คือพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ที่ตนได้ลงพื้นที่หาเสียง ตนได้สัญญากับประชาชนไว้หลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการแสดงจุดยืนเรื่องของประชาธิปไตย ตัดสินใจออกมาแสดงจุดยืนในสิ่งที่มีตนได้สัญญากับประชาชนไว้

“บิ๊กป้อม” ถกยุทธศาสตร์ พปชร.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าในการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐวันที่ 20 ส.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค จะเป็นประธานการประชุมสัปดาห์ละครั้ง ทุกวันอังคารก่อนการประชุม ส.ส.พรรค มีเป้าหมายขยายฐานเสียงและเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในอนาคต โดยจะมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคและอาจมีรัฐมนตรีบางคนมาเป็นที่ปรึกษาประธานยุทธศาสตร์ฯ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เป็นรองประธานฯ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเลขานุการ ประสานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ให้ “วิรัช–สุชาติ” เฟ้น ปธ.กมธ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคณะทำงานด้านต่างๆ แยกย่อยออกมา ประกอบด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.ของพรรค ได้รับ มอบหมายให้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมเป็นประธานและรองประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์มี น.ส.วทันยา วงศ์โอภาสี ส.ส. บัญชีรายชื่อรับผิดชอบ คณะทำงานประสานรับเรื่องร้องเรียนมี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี รับผิดชอบและคอยตอบโต้ประเด็นที่พรรคถูกโจมตี ยังมีคณะทำงานฝ่ายวิชาการและคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย แต่ยังไม่มีผู้รับผิดชอบส่วนนี้ โดยแต่ละคณะทำงานแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเป็นการเฉพาะได้

คลิปว่อน “สิระ” ตะคอกใส่ ตร.กะรน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค.ต่อเนื่องมาถึงวันที่ 19 ส.ค. ในโลกโซเชียลได้มีการ เผยแพร่คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เปิดศึกวิวาทะด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวตะคอกใส่ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านใน อ.กะรน ได้เดินทางมาตรวจสอบการสร้างโครงอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมบนที่ดินที่ได้เอกสารสิทธิไม่ชอบตามกฎหมาย

ฉุนไม่มี ตร.รปภ.ลงพื้นที่ตั้งเวทีชาวบ้าน

“ก่อนลงพื้นที่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรนว่าจะตั้งเวทีรับฟังความเดือดร้อน ชาวบ้านจะมาร่วมราว 200 คน แต่ตำรวจกลับไม่มีแผนจะดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้านเลย และผมเคยถูกขู่ฆ่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรมีการดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะหลังจากร่วมเวทีชาวบ้านเสร็จได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการและสำนักงานขาย จากนั้นเดินทางไปพักผ่อน และกลับมาจุดก่อสร้างโครงการอีกครั้ง แต่พบว่ามีรถตำรวจจอดอยู่ มีตำรวจ 6 นายนั่งดื่มกาแฟกับผู้บริหารคอนโดฯ จึงเข้าไปสอบถาม หลังจากที่คลิปเผยแพร่ออกไปได้ทำความเข้าใจและไม่ได้ติดใจอะไรนายตำรวจคนดังกล่าวแล้ว” นายสิระกล่าว

โต้ไม่ได้กร่างแค่เป็นคนพูดเสียงดัง

นายสิระกล่าวระหว่างไปเข้าพบ พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต ว่า ไม่ได้มีอารมณ์ แต่เป็นคนพูดจาเสียงดังเฉยๆ คลิปที่ออกไปเป็นคนปล่อยเองเป็นเรื่องปกติของตน ขนาดตนแจ้งแล้วว่าจะนำคณะมายังไม่มีคนมาดูแล แล้วหากเป็นชาวบ้านปกติจะเป็นอย่างไร ไม่โดนเหยียบย่ำหรือจับกุมเลยหรือ อยากฝากให้ พ.ต.อ.ประวิทย์ช่วยดูแลปัญหาในโครงการดังกล่าวด้วยว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จริงๆปกติเป็นคนพูดจาเสียงดัง ขนาดวันนี้มาคุย ผกก.ยังพูดเสียงดังตลอด

ผู้ว่าฯตั้ง กก.สอบปมสร้างคอนโด

ต่อมานายสิระ และคณะเข้ายื่นหนังสือให้นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ขอให้ตรวจสอบใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารว่าหมดอายุ เป็นไปตามใบอนุญาตหรือไม่ หากพบกระทำความผิด ขอให้สั่งการให้นายกเทศมนตรีตำบลกะรน หยุดการปฏิบัติหน้าที่ และให้นายช่างโยธาที่รับผิดชอบย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อให้การตรวจสอบโปร่งใส ขณะที่นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 ส.ค. มีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รอง ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบรายงานผลให้ทราบภายใน 30 วัน

ชม ผกก.อดทนเลี่ยงปะทะคารม ส.ส.

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า เหตุเกิดพื้นที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ส.ส.กทม.พรรคการเมืองหนึ่งพร้อมคณะปฏิบัติงานลงพื้นที่ โดยรอง ผกก.ป.สภ.กะรน ชี้แจงเรื่องประกาศของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตำบลกะรน ระงับโครงการก่อสร้างรายหนึ่ง เพื่อแก้ไขไม่ให้น้ำไหลไปพื้นที่ใกล้เคียง และถกเถียงกันประเด็นหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของสำนักงานเทศบาลฯถือเป็นความผิดซึ่งหน้าหรือไม่ รวมทั้งอธิบายถึงการอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะ ส.ส. ขณะลงพื้นที่ อ.กะรน เป็นแหล่งท่องเที่ยวตำรวจมีภารกิจมากต้องดูแลนักท่องเที่ยว เน้นป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ต้องชื่นชมรอง ผกก.ป.สภ.กะรน ยึดถือตามอุดมคติตำรวจ อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ใช้กิริยาวาจาสุภาพนับว่าเป็นแบบอย่างที่ดี

“ประวิตร” โบ้ย ส.ส.กร่างเรื่องส่วนตัว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีคลิปวิดีโอนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน จ.ภูเก็ตว่า เห็นออกทีวีเป็นเรื่องส่วนตัว ยังไม่ได้เจอเขา ยังไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อถามว่าต้องเรียกมาตักเตือนหรือไม่ ในฐานะนายสิระและ ส.ส.อีก 3 คนที่ลงพื้นที่เป็น ส.ส.พปชร. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอคุยก่อน เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้พรรค พปชร.ตกเป็นเป้าหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาไม่ได้อยู่พื้นที่นั้นอยู่คนละพื้นที่ ไม่ใช่ ส.ส.ภูเก็ต ยืนยันว่าไม่เกี่ยวหรือกระทบพรรค เมื่อถามอีกว่าจะยกมาพูดคุยในการเข้าพรรควันแรกวันที่ 20 ส.ค.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย ส่วนภาพที่ออกมาทำให้มองว่า ส.ส.พรรค พปชร.กร่างทำให้เสียภาพลักษณ์และต้องกำชับ ส.ส.คนอื่นหรือไม่ ขอคุยก่อนถึงจุดประสงค์เป็นอย่างไร

ปัดยังไม่ได้ดีล “มิ่งขวัญ” ร่วม รบ.

เมื่อถามว่า ตั้งทีมยุทธศาสตร์พรรคเรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้ฟอร์มทีม ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะยังไม่ได้เข้าพรรค ให้เข้าไปก่อน เพราะตนยังไม่รู้ว่าพรรคเป็นอย่างไร และยังไม่ได้วางเรื่องที่จะพูดคุยวันที่ 20 ส.ค. เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะเข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้เจอนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ ยังไม่ได้พูดคุย ไม่ได้ดีลอะไรกัน และยังไม่รู้ว่าเขาจะมาทั้งหมดหรือมากี่คน แต่ถ้ามาร่วมก็ดี เมื่อถามว่าต้องกำชับ ส.ส.ให้เข้าประชุมสภา เพื่อป้องกันเรื่องเสียงปริ่มน้ำหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพรรคให้พรรคเขาจัดการ

วิปรัฐบาลโยน “อุตตม” จัดการ

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทราบว่า พล.อ.ประวิตรจะเรียกหารือเป็นการส่วนตัว การแสดงพฤติกรรมที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมของนายสิระจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ที่ห้าม ส.ส.ใช้ ตำแหน่งก้าวก่าย แทรกแซงการทำงานของราชการ เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือไม่นั้น ไม่ทราบราย ละเอียดว่าจะเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนจริยธรรมของนักการเมืองหรือไม่ รายละเอียดขอให้สอบถามนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

นายกฯเล็กมอบดอกไม้ให้กำลังใจ

ช่วงเย็น ที่ สภ.กะรน นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรนและคณะมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ เพราะเห็นว่าการใช้คำพูดของ ส.ส.กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่เหมาะสม และไม่เป็นธรรมควรให้เกียรติกันมากกว่านี้ โดย พ.ต.ท.ประเทืองชี้แจงว่า ทุกอย่างทำตามหน้าที่ ที่มีการกล่าวหาว่าตนไปนั่งดื่มกาแฟกับผู้บริหารคอนโดที่ถูกร้องไม่เป็นความจริง ที่เข้าไปนั่งในร้านดังกล่าวได้ไปนั่งคุยเพื่อสอบถามสถานการณ์กับตำรวจที่ออกปฏิบัติงานในพื้นที่บริเวณ 4 นายเป็นไปตามปกติ ส่วนที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดูแลนั้นจริงๆ แล้วมีการส่งชุดเจ้าหน้าที่สายตรวจคอยลาดตระเวนและสังเกตการณ์อยู่แล้ว พบว่าสถานการณ์ปกติ

รองโฆษก พปชร.รีบขอโทษสังคม–ตร.

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐต้องขอโทษสังคม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย นายสิระเป็นคนตั้งใจและทุ่มเททำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในทุกเรื่อง หากได้รับเรื่องร้องเรียนมา เพียงแต่อาจใจร้อนไปหน่อย ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทุกอย่างเข้าใจกันดีแล้ว ผู้ใหญ่ของพรรคได้พูดคุย สอบถามข้อเท็จจริงกับนายสิระแล้ว ทราบว่าได้มีการขอโทษรอง ผกก.สภ.กะรน จ.ภูเก็ต แล้วด้วย แม้การแสดงออกอาจไม่เหมาะสม แต่อยากให้มองถึงเจตนาที่นายสิระต้องการจะรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนด้วย ดังนั้น ไม่อยากให้ใครนำเรื่องนี้ไปขยายผล จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง

โฆษก พท.จวกใช้อำนาจบาตรใหญ่

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต้องดูแลทุกข์สุขประชาชน จะให้ไปเกณฑ์นายตำรวจน้อยใหญ่ยกขบวนมาต้อนรับดูแลนายสิระทั้งเมือง การแสดงอำนาจบาตรใหญ่ยกตนข่มท่าน เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์บุคลากรและการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติถูกตั้งคำถาม จนอาจทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมือง พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับที่ตั้งใจปฏิบัติงานอย่างมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ขอสนับสนุนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติของข้าราชการตำรวจที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ต้องวิตกกังวลต่อการใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่ข้าราชการที่ไม่ถูกต้องแบบนี้

ส.ส.อนค.อ่อนน้อมไม่วางก้าม

ที่พรรคอนาคตใหม่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทุกคน ไม่มีการขอกำลังตำรวจดูแล หัวหน้าพรรคพูดกับสมาชิกพรรคเสมอว่าจงอ่อนน้อมต่อประชาชน และหยิ่งทะนงต่อเผด็จการ ส.ส.เราไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ พรรคอื่นอาจไม่เหมือนกัน

“ช่อ” ชี้แก้ รธน.ถึงจะนานแต่คุ้มค่า

ที่โรงแรมเลยพาวิลเลี่ยม จ.เลย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนาหัวข้อ “รัฐธรรมนูญสร้างสรรค์ : รัฐธรรมนูญไทย ธรรมนูญไทเลย” เพื่อรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดโดยภาคประชาสังคม จ.เลย น.ส.พรรณิการ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่มารัฐธรรมนูญปี 2560 เนื้อหามีปัญหาซ่อนอยู่อีกมาก การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง เป็นอุปสรรคแก้ปัญหาปากท้องประชาชนไม่ได้ ร่างโดยใครจะรับใช้คนนั้น ประชาชนเจ้าของประเทศควรจะร่วมกันร่าง กระบวนการแก้อาจใช้เวลานานแต่จะคุ้มค่าเพราะได้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันที่ 20 ส.ค.พรรคอนาคตใหม่จัดแคมเปญ “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่รัฐธรรมนูญใหม่” ครั้งที่ 2 ที่ จ.สงขลา

“ประวิตร” รอเคาะราคาปาล์ม

เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2562 ถึงแนวโน้มการประกันราคาปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 4 บาท ตามที่ภาคเอกชนและตัวแทนเกษตรกรเสนอว่า ประกันได้ไหมเล่า ถามก่อนจะเอาเงินที่ไหนมายังไม่รู้ ขอให้ได้ประชุมก่อนมันมีวิธีอื่นๆอีก ตอนนี้ยังไม่รู้ และต้องดูด้วยว่าที่ประชุมตัดสินใจอย่างไร

ชาวสวนขู่ 3 เดือนไม่ได้มีลุกฮือ

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า ประชาชนขีดเส้นอยากให้รัฐบาลอนุมัติใช้นโยบายประกันรายได้ให้ปาล์มราคา กก.ละ 4 บาท ยางพารา กก.ละ 60 บาทเร็วที่สุดใน 3 เดือน เดือดร้อนมาตลอด 5 ปีของรัฐบาล คสช.แล้ว หากยังไม่เห็นสัญญาณดีขึ้นจะต้องแสดงท่าทีและเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลแน่นอน ขอให้รีบเร่งอย่าปล่อยให้เกษตรกร ต้องออกมาเคลื่อนไหวปิดถนน

ป.ป.ช.ห่วงทุจริตไทยทวีความรุนแรง

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดสัมมนา “การผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตสู่ประเทศไทยใสสะอาดทั้งชาติต้านทุจริต ปี 2562” โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่าประเทศไทยเผชิญปัญหาทุจริตคอร์รัปชันมาช้านานนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น สะท้อนอาการป่วยขั้นรุนแรง เชื้อโรคทุจริตเบียดบังเงินภาษี 3 ปีที่ผ่านมาสังคมไม่ทนต่อการทุจริตขยายวงไปทั่วประเทศ แจ้งเบาะแสการทุจริตหลายจังหวัด เฝ้าระวังโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ แต่สิ่งสำคัญนักการเมืองต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อส่วนรวมมากกว่ากอบโกยประโยชน์ ป.ป.ช.จะผลักดันเรื่องนี้ต่อไปให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

“สุภา” เคลียร์สินบนพยานปาล์มอินโดฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงท้ายของการสัมมนามีผู้เข้าร่วมงานสอบถามประธาน ป.ป.ช.ถึงกรณีจะเอาจริงการทุจริต แต่รอบตัวประธาน ป.ป.ช.มีคนทุจริตอยู่ อาจมีพฤติการณ์เกี่ยวพันคดีทุจริตปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย เพราะมีกรรมการ ป.ป.ช.บางคนถูกแจ้งจับที่อินโดนีเซียเรื่องติดสินบนพยานเพื่อให้การเท็จคดีดังกล่าว ทำให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เดินไปที่โพเดียมตอบคำถามทันทีว่า กรณีถูกพาดพิงไม่เป็นความจริง การไต่สวนคดีปลูกปาล์มอินโดนีเซีย เป็นการไต่สวนระหว่างประเทศ ป.ป.ช.ไทยต้องส่งคำถามที่จะไต่สวนพยานให้ ป.ป.ช.อินโดนีเซีย จากนั้นจึงเดินทางไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.อินโดนีเซียพร้อมฝ่ายอัยการ ป.ป.ช.ไทยเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ไม่มีสิทธิตั้งคำถาม เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.อินโดนีเซีย นึกไม่ออกว่ากล่าวหาให้สินบนพยานได้อย่างไร ตรวจสอบไม่พบว่ามีการแจ้งความคดีนี้ต่อตำรวจอินโดนีเซีย ยืนยันว่ากรรมการ ป.ป.ช.ทำงานหนักทุกคน

จากนั้น น.ส.สุภาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกพาดพิงให้สินบนพยานเพื่อให้การเท็จคดีทุจริตปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียว่า เป็นเรื่องปกติที่ ป.ป.ช.จะถูกฟ้องดำเนินคดี ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ บางกรณีหาก ป.ป.ช.นิ่งเฉย ประชาชนจะสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ไม่หวั่นถูกยื่นสอยยกคณะ

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ที่ถูกชี้มูลความผิดกรณีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน 227 ล้านบาท อ้างถูก ป.ป.ช.กลั่นแกล้งว่า ขอให้มั่นใจ ยิ่งนายประหยัดเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ความเป็นธรรมเต็มที่ ได้เปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ส่วนที่นายประหยัดเรียกร้องให้สภาฯล่ารายชื่อถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ถ้า ป.ป.ช.ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด กฎหมายเปิดช่องให้ฟ้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ใช้ ส.ส.และ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ส่งเรื่องให้ประธานรัฐสภาถอดถอนตามขั้นตอน ป.ป.ช.หลายคนถูกฟ้องทั้งทางอาญา แพ่ง และในชั้นศาลปกครองมากมายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่หวั่นไหว ถ้าหวั่นไหวมาทำหน้าที่นี้ไม่ได้ เชื่อมั่นในพยานหลักฐานของคดีที่พิจารณาครบถ้วนสมบูรณ์

“ประหยัด” พร้อมสู้รวยผิดปกติอีกคดี

นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า หาก ป.ป.ช.ส่งคดีตนไปยังอัยการแล้ว จะขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการ เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการเสนอให้สภาฯถอดถอน ป.ป.ช.ทั้งคณะมีใครติดต่อมาหรือยัง นายประหยัดตอบว่า ยังไม่มีใครติดต่อมา ที่พูดไปเพื่อให้หลายคนพิจารณา ความจริงหลังจากแถลงข่าวชี้แจงเสร็จถือว่าจบ ตนยังเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ส่วนกรณี ป.ป.ช.จะขยายผลสอบกรณีร่ำรวยผิดปกติเพิ่มเติมยังไม่ทราบ ยังไม่ได้แจ้ง อาจตั้งแล้วหรืออาจอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลอยู่ ถ้าแจ้งมาพร้อมจะชี้แจงคดีร่ำรวยผิดปกติ