รองโฆษก พท.เตือน กทม.ระวังผิดกฎหมาย หากไม่เป็นธรรม กรณีอนุมัติเอกชนสร้างโรงเผาขยะหนองแขม-อ่อนนุช หลังถูกร้องเรียนทำทีโออาร์ล็อกสเปก-ยื่นซองประมูล
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.62 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อสงสัยที่ทางพรรคเพื่อไทยได้รับแจ้งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีโครงการจ้างเหมาเอกชนโรงงานกำจัดขยะมูลฝอย โดยระบบเตาเผามูลฝอยขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน โรงงานหนองแขม และโรงงานอ่อนนุช วงเงินโครงการละ 6,570 ล้านบาท รวม 2 โครงการ 13,140 ล้านบาท กทม.ได้ส่งผลผู้ยื่นซองประมูลให้ทางกรมบัญชีกลางแล้ว การประกวดราคาจ้างเหมาระบบเตาเผาทั้ง 2 โครงการนี้ มีการร้องเรียนมาตลอด เริ่มตั้งแต่การร่าง TOR ว่าล็อกสเปกให้กับบางรายหรือไม่ มีการพิจารณาคะแนนด้านเทคนิคถึง 90% คะแนนด้านราคาแค่ 10% ประกอบกับการเปิดเวลาในการยื่นซองค่อนข้างน้อย ทำให้มีหลายบริษัทไม่สามารถเตรียมเอกสารได้ทันเวลา การกำหนดราคากลางการกำจัดขยะมูลฝอยถึงตันละ 900 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าเทคโนโลยีคล้ายๆ กันถึง 2-3 เท่าตัว ซึ่งหากคำนวณรายได้จากค่าไฟที่บริษัท สามารถขายให้กับการไฟฟ้านครหลวงตลอด 20 ปี ที่ดำเนินการโครงการนี้ จะมีรายได้อย่างต่ำ 5.1 หมื่นล้านบาท
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า โครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้า โดยระบบเตาเผาที่หนองแขมและอ่อนนุช ทั้ง 2 บริษัท ที่คาดว่าจะประมูลได้มีประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนเดียวกัน และมีที่อยู่ในตึกเดียวกัน ต่างกันที่ห้องติดกันเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ชนะการประมูลก็เคยทำโรงงานขยะดังกล่าวกับทาง กทม.อยู่แล้ว แถมยังเป็นผู้ลงทุนเองในการสร้างโรงงาน และดำเนินกิจการเองทั้งหมด โดยรัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยผู้ลงทุนได้สัมปทาน 20 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 5 ปี บวก 5 ปี โดยใช้รูปแบบ BOT คือ Build Operate Transfer (ก่อสร้าง ดำเนินงาน โอนสิทธิ) โดยจะโอนสิทธิให้ กทม.หลังหมดสัมปทาน พรรคเพื่อไทยเชื่อว่ามีหลายบริษัทยินดีลงทุน โดยรัฐไม่ต้องนำเงินภาษีของประชาชนมาจ่ายแม้แต่บาทเดียว หากผู้ว่าฯ กทม.และคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้ง จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่สามารถหาบริษัทที่จะมาลงทุนได้ พรรคเพื่อไทยยินดีช่วยเหลือ เพื่อจะได้นำเงินภาษีประชาชนมาใช้ในเรื่องการศึกษา หรืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะดีกว่า
...