“วรา” ผู้ชนะคำขวัญครบรอบ 50 ปี พรรคประชาธิปัตย์ นำโล่และเงินรางวัล 5,000 บาท มาคืนต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม เสียใจตระบัดสัตย์ต่อประชาชน หนุน “บิ๊กตู่” ร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ
วันที่ 7 มิ.ย. 2562 นายวรา จันทร์มณี ผู้ชนะคำขวัญครบรอบ 50 ปี พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2538 คือคำขวัญที่ว่า “50 ปีประชาธิปัตย์พัฒนาประชาธิปไตยรับใช้ประชาชน” เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคืนโล่รางวัลพร้อมเงินจำนวน 5,000 บาท และธูปเทียนแพ มาวางไว้ที่ฐานพระแม่ธรณีบีบมวยผม แถลงว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องกลับมาที่พรรคอีกครั้ง หลังจากเคยขอให้พรรครักษาคำมั่นสัญญาต่อประชาชน กรณีจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสืบทอดอำนาจ แต่บัดนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ตระบัดสัตย์ต่อประชาชนโดยสมบูรณ์ จึงต้องรักษาคำพูดโดยการนำโล่และเงินรางวัลมาคืน พร้อมมอบคำขวัญให้ใหม่ว่า "73 ปีประชาธิปัตย์ กัดกร่อนประชาธิปไตย ทรยศประชาชน"
“พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ยืนหยัดตามอุดมการณ์ที่บอกว่า พรรคจะดำเนินการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชน โดยอาศัยหลักกฎหมายและเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชนรุ่นหลัง จะไม่สนับสนุนระบอบและวิธีการแห่งเผด็จการของรัฐบาลใดๆ”
...
นอกจากนี้ นายวรา กล่าวด้วยว่า ไม่ได้เกลียดชังพรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้มาในฐานะพลเมืองที่ต้องมีส่วนร่วมทางการเมือง ท้วงติงให้มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อประชาชน ไม่ใช่เอาแต่ตักตวงช่วงชิงต่อรองผลประโยชน์ เพราะประชาชนต้องการนักการเมืองที่มีคุณภาพ มีมโนสำนึก มากกว่าพวกเล่นแร่แปรธาตุ ขายวิญญาณ
พร้อมระบุลักษณะของสังคมไทยวันนี้เข้าสู่ยุคแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน สะกดคำว่าละอายไม่เป็น แต่ก็ขอขอบคุณการแสดงความรับผิดชอบของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค แม้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคที่ประกาศต่อประชาชนว่าไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ แต่กลับเพิกเฉย และอ้างมติพรรคเพื่อสร้างความชอบธรรมที่จะตระบัดสัตย์เพื่อชาติ สิ่งสำคัญกว่าคือการรักษาพันธสัญญาที่มีต่อประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ควรรักประชาชนมากกว่ารักตัวเอง ไม่ควรละเลยดูถูกเหยียดหยามความรู้สึกและไม่ให้เกียรติประชาชน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง