นิด้าโพล ชี้ประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง เพราะคนเบื่อไม่ชอบวิธีการของพรรค มีความแตกแยก จนไม่สามารถตัดสินใจทางการเมืองได้เร็ว ชอบเดินเกมต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี...
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "บทเรียนและบทบาทพรรคประชาธิปัตย์" จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,261 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.83 ระบุว่า ประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ วิธีการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมา ร้อยละ 18.00 ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่แย่งฐานคะแนนเสียงไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.05 ระบุว่า นักการเมืองส่วนใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์พูดเก่งอย่างเดียวแต่ปฏิบัติไม่เป็น
นอกจากนี้ ร้อยละ 15.31 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐแย่งฐานคะแนนเสียงไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 13.40 ระบุว่า ประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 12.85 ระบุว่า ประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ วิธีการดำเนินงานทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 11.66 ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียงที่ผิดพลาด ร้อยละ 11.58 ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ร้อยละ 2.85 ระบุว่า ประชาชนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้จึงตัดสินใจสนับสนุนพรรคอื่นแทน ร้อยละ 2.46 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ถูกโกงการเลือกตั้ง และร้อยละ 6.98 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน นโยบายของพรรคไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และพรรคไม่มีผลงานที่ชัดเจน
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความรู้สึกต่อบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.17 ระบุว่า พรรคมีความแตกแยกมากเกินกว่าที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้อย่างรวดเร็ว รองลงมา ร้อยละ 21.97 ระบุว่า เดินเกมทางการเมืองต่อรองเพื่อตำแหน่งรัฐมนตรีที่ต้องการ ร้อยละ 17.61 ระบุว่า แค่ชอบอ้างอุดมการณ์ของพรรค ร้อยละ 14.83 ระบุว่า ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ร้อยละ 13.48 ระบุว่า การต่อรองทางการเมืองเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมือง ร้อยละ 7.53 ระบุว่า ไม่มีบทบาททางการเมืองที่ชัดเจน ร้อยละ 5.08 ระบุว่า เดินเกมทางการเมืองต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ร้อยละ 4.76 ระบุว่า ไม่มีเจ้าของที่ครอบงำพรรค จึงต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจทางการเมือง และร้อยละ 1.43 ระบุว่า มีความเชี่ยวชาญเกมการเมืองในสภาเป็นอย่างมาก
...