"นายกฯ" เปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ พร้อมผลักดันประเทศเป็นอุตสาหกรรม 4.0 และดำเนินการตามข้อเรียกร้องกลุ่มแรงงาน 10 ข้อ เน้นการเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างเท่าเทียม เน้นย้ำทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อเดินหน้าประเทศ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2562 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พร้อมข้าราชการ ผู้นำแรงงาน และกลุ่มผู้ใช้แรงงานจาก 17 องค์กรให้การต้อนรับ และมีริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงาน จำนวน 17 องค์กร เคลื่อนไปตามถนนวิภาวดีเข้าสู่ถนนมิตรไมตรีไปจนถึงอาคารกีฬาเวสน์ 2 ซึ่งการจัดงานในปีนี้จัดภายใต้คำขวัญ "แรงงานก้าวหน้า เศรษฐกิจก้าวไกล เทิดไท้องค์ราชัน"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า วันแรงงานแห่งชาติ เป็นวันสำคัญของพี่น้องคนทำงาน ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญเติบโต รัฐบาลจึงมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีภาคการผลิตที่เป็นอุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม มาพัฒนาศักยภาพแรงงานให้เป็นผู้มีความสามารถเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำให้ผู้ใช้แรงงานเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ขอให้ทุกภาคส่วนเข้าใจว่ากฎหมายนั้น ไม่ได้ออกมาง่ายๆ กระทรวงแรงงานมีแนวทางช่วยส่งเสริมและสร้างฝีมือทุกอย่างจะเป็นไปตามลำดับ และรัฐบาลสนับสนุนแรงงานทั้งในประเทศและแรงงานส่งออกให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนตั้งแต่ระบบการศึกษา ให้ผลิตแรงงานออกมาให้ตรงกับตลาด เข้าสู่ยุค Big Data ที่เป็นระบบข้อมูลสำคัญรัฐบาลมุ่งมั่นให้แรงงานไทยพัฒนาสู่สากล สร้างความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผ่านการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการออกกฎหมายคุ้มครองครอบคลุมทุกมิติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

...

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างมาตลอด 5 ปี ความร่วมมือต้องมีพื้นฐานของความเข้าใจกัน ทั้งรัฐบาลและผู้ประกอบการ ทุกคนต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจ เพราะกระทบกับแรงงานโดยตรง ต้องช่วยกันทำให้มีความเท่าเทียมกัน และสืบสานต่อในรัฐบาลใหม่ ตัวเองพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย เพราะในช่วงนี้อยู่ในห้วงใกล้ถึงงานพระราชพิธีฯต้องทำให้ประเทศเรียบร้อย ผ่านไปอย่างสวยงาม ทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนให้ประเทศปลอดภัย มีความสงบเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ในนามรัฐบาลขอขอบคุณแรงงานไทยที่ทำให้เศรษฐกิจมีการพัฒนา เดินหน้าประเทศให้มีสังคมให้เข้มแข็ง

ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวว่า ในส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อนั้น สามารถดำเนินการไปได้แล้ว 4 ข้อ อาทิ จัดระบบสวัสดิการกองทุนให้พนักงานรัฐวิสาหกิจตามระบบประกันสังคม ระบบการจ้างงาน ได้คืนสิทธิแรงงานตามมาตรา 39 ไปแล้วกว่า 3 แสนคน และมีอัตราการว่างงานเพียงร้อยละ 9 ส่วนข้อที่เหลืออยู่ระหว่างการทบทวนและพิจารณาข้อกฎหมายถึงแนวทางความเป็นไปได้ ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ดูแลกลุ่มแรงงานอย่างเต็มที่ ทั้งส่วนทิศทางแรงงาน หลังจากนี้รัฐบาลเน้นเรื่องการจ้างงานที่มีคุณค่า และความปลอดภัย

สำหรับเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ประมาณ 340 บาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ซึ่งในปีนี้อยู่ในขั้นตอนไตรภาคี ต้องหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งกับนายจ้างและลูกจ้างที่เกี่ยวข้องโดยตรง.