ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมผลการเลือกตั้งสุดเซอร์ไพรส์ ไม่เป็นไปตามปากกาเซียน ส่วนคนที่คิดว่ามาแน่ แต่กลับกลายเป็นแพ้พ่าย จนหลายฝ่ายเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ช้างล้ม”
พื้นที่ "อดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย" พ่ายให้พลังประชารัฐ
เริ่มด้วยจังหวัดตรังที่ถือเป็นเขตเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพื้นที่บ้านเกิดของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ กลับปรากฏว่า เขต 1 จ.ตรัง นายนิพันธ์ ศิริธร อดีตรองผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (37,849 คะแนน) ชนะ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.ตรัง (36,297 คะแนน) แชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่หลายสมัย
โดย นายชวน หลีกภัย ได้ออกมาขอบคุณพี่น้องชาวตรัง แต่ยอมรับเสียใจที่นายแพทย์สุกิจ แพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภูมิใจคือทำการเมืองแบบสุจริต
ในครั้งนี้ นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองคงยุติบทบาททางการเมืองอย่างสิ้นเชิง
...
“ป๋าเหนาะ” สิ้นมนตร์ขลังที่สระแก้ว
อาณาจักร จ.สระแก้ว ถิ่นของเจ้าพ่อวังน้ำเย็น นายเสนาะ เทียนทอง คราวนี้พรรคเพื่อไทยที่สระแก้วถึงคราวสูญพันธุ์ เมื่อพรรคพลังประชารัฐได้เก้าอี้ไปยกจังหวัด
โดย สระแก้ว เขต 1 นายฐานิสร์ เทียนทอง พรรคพลังประชารัฐ 41,855 คะแนน เขต 2 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง พรรคพลังประชารัฐ 40,369 คะแนน เขต 3 นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ พรรคพลังประชารัฐ 30,589 คะแนน
“สะสมทรัพย์” พ่ายยับเยินให้ “อนาคตใหม่”
ดินแดนนครปฐม ฐานที่มั่นของบ้านใหญ่อย่าง “สะสมทรัพย์” ปรากฏว่า นครปฐม เขต 3 นั้น ถือว่าพลิกล็อกถล่มทลาย เพราะ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา เบอร์ 4 พรรคอนาคตใหม่ (32,617 คะแนน) ล้มช้างอย่าง นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร อดีต ส.ส.เบอร์ 15 พรรคชาติไทยพัฒนา (10,479 คะแนน) ที่ครองเก้าอี้มาอย่างยาวนาน ด้วยคะแนนสูงลิบ
ทั้งนี้ เขต 5 นางจุมพิตา จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ ก็ม้ามืดเข้าวินเช่นกัน ด้วยคะแนน 30,613 คะแนน ชนะผู้สมัครอย่าง นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ (17,611 คะแนน) ไปแบบขาดลอย
ในขณะที่ นครปฐม เขต 2 ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ หรือ “เสี่ยโหน่ง” อดีตกุนซือนครปฐมยูไนเต็ด เบอร์ 17 พรรคชาติไทยพัฒนา (22,135 คะแนน) เข้าวินป้ายแดง เบียดอดีต นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ หรือ ส.ส.เบ้ คนเก่าคนแก่ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (16,942) ได้สำเร็จ
"วัฒนา" เด็กหนุ่มจากพรรคลุงตู่ ล้มช้างเพื่อไทยสำเร็จ ชนิดคาดไม่ถึง
กระแสบอลไทยฟีเวอร์ ชื่อของ “วัฒนา ช่างเหลา” ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด หนุ่มเอ๊าะๆ (44,090 คะแนน) ลูกชายของ “เอกราช ช่างเหลา” แห่งพรรคพลังประชารัฐ หรืออดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จึงเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมืองขอนแก่น จนสามารถเอาชนะ “อรอนงค์ สาระผล” (33,094 คะแนน) ภรรยา “ภูมิ สาระผล” เจ้าของพื้นที่หลายสมัย หรือในฐานะอดีต รมช.พาณิชย์ ที่ติดคุกจากคดีจำนำข้าว
อนาคตใหม่ ล้ม เสี่ยเต๋า แชมป์เก่า 4 สมัย
ขณะที่ ผลการเลือกตั้งในจังหวัดขอนแก่น เขต 1 ที่เรียกได้ว่า หักปากกาเซียนไปหลายเล่ม เพราะแชมป์เก่า 4 สมัยอย่าง “เสี่ยเต๋า” จักริน พัฒน์ดำรงจิตร อดีต ส.ส.เพื่อไทย (27,773 คะแนน) ถูกล้มด้วยคะแนนทิ้งห่างขาดลอย จึงทำให้ม้ามืดจากพรรคอนาคตใหม่ที่แทบจะเรียกได้ว่า no name ในสนามเลือกตั้งอย่าง นายฐิตินันท์ แสงนาค (36,680 คะแนน) ชนะไปแบบใสๆ
พลังประชารัฐ กวาดเรียบ 3 ที่นั่งเมืองเพชร
จังหวัดเพชรบุรี ฐานที่มั่นของ “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เจอฤทธิ์ “พรรคพลังประชารัฐ” กวาดต้อนลงทะเลยกจังหวัดทั้ง 3 เขต จึงทำให้อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อย่าง นายอรรถพร พลบุตร เพชรบุรี เขต 1 น้องชายเสี่ยจ้อน พ่ายแพ้ไปตามๆ กัน
ตระกูล “เทือก” ร่วงหมด ทั้ง 6 เขต สุราษฎร์ฯ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรครวมพลังประชาชาติไทย ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค เจาะพื้นที่บ้านเกิดตัวเองไม่เข้า พรรคประชาธิปัตย์สามารถเอาชนะยกจังหวัด
โดยพบว่า 3 พี่น้องตระกูลเทือกสุบรรณ คะแนนแพ้ทั้ง 6 เขต โดยเขต 1 นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ย้ายไปอยู่พรรคกับพี่ชาย คะแนนหลุดไปอยู่อันดับ 4
ขณะที่เขต 4 นายเชน เทือกสุบรรณ พรรครวมพลังประชาชาติไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย น้องชายนายสุเทพอีกคนที่ย้ายไปอยู่กับพี่ชาย ได้ 13,214 คะแนน ซึ่งอันดับ 1 คือ นายสมชาติ ประดิษฐพร จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ไป 45,078 คะแนน
ส่วนเขต 6 นายภูมิ เทือกสุบรรณ หลานชายนายสุเทพ พรรครวมพลังประชาชาติไทย อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต อ.ท่าชนะ ได้ 16,528 คะแนน ซึ่งอันดับ 1 คือ นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ไป 40,360 คะแนน
“อนาคตใหม่” มาแรง ทำ “อิทธิพล คุณปลื้ม” สอบตก
“บ้านใหญ่บางแสน” ชื่อนี้แปลความได้ว่า “ตระกูลคุณปลื้ม” เหล่าลูกหลานกำนันเป๊าะ อดีตสังกัดพรรคพลังชน แต่โยกย้ายมาอยู่พลังประชารัฐ ซึ่งเขต 6 ส่ง อิทธิพล คุณปลื้ม อดีต ส.ส.ชลบุรี และอดีตนายกเมืองพัทยา เข้าชิงชัย ด้วยคะแนนนิยมแบบนอนมา
แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคะแนนพลิกล็อกแบบถล่มทลาย โดยเฉพาะเขต 6 ที่ใครๆ ก็มองและวิจารณ์ว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ คะแนนต้องชนะขาดแน่นอน เพราะเป็นพื้นที่ฐานเสียงของ นางกุสุมล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ภรรยาของนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ครั้งนี้นางกุสุมลไม่ได้ลง ให้นายอิทธิพล คุณปลื้มลงแทน แต่คะแนนกลับไปอยู่ที่ นายจรัส คุ้มไข่น้ำ พรรคอนาคตใหม่ ที่สามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 36,810 ต่อ 32,285 คะแนน
ส่วนเขต 7 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ เบอร์ 6 พรรคพลังประชารัฐ ลูกชายนายจรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี ชื่อดังหลายสมัย กลับพ่ายแพ้ให้กับ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ เบอร์ 13 พรรคอนาคตใหม่ ที่ขึ้นมาเป็นว่าที่ ส.ส. โดยหลายคนไม่รู้จัก
อารมณ์ของคนเบื่อหน่ายการเมือง
อารมณ์เหนื่อยหน่ายกับการแบ่งขั้ว
อารมณ์เจ็บช้ำกับการเมืองแบบเก่า
ทำเอาผลเลือกตั้งครั้งนี้ “มดล้มช้าง” ไปได้หลายตัว...