“บิ๊กตู่” สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย ลั่นรัฐบาลไม่ปิดกั้นใคร วอนใช้วิจารณญาณในการอ่าน-ฟัง อย่าให้เสียเวลา 4 ปี ร้องจ๊ากนิ้วเจ็บ ถูกจับมือแรง ย้ำอีกไม่ได้มาหาเสียง...

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ก่อนการประชุมครม.สัญจร จ.เชียงราย ในวันอังคารที่ 30 ต.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการทั้ง จ.พะเยา และจ.เชียงราย โดยภายหลังพบปะชาวอาข่า พื้นที่บ้านเมืองรวง ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย ได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช พร้อมทักทายผู้มาให้การต้อนรับ ว่า วันนี้ดีใจเจอสาวๆ ทั้งวัน ตั้งแต่ตี 5 ตรวจราชการถึง 6 โมงเย็น และดอกไม้ที่นำมาให้เป็นดอกไม้จากใจของคนเชียงรายใช่หรือไม่ ซึ่งกลุ่มสตรีได้พูดให้กำลังใจนายกฯ “สู้ๆ” ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า “วันนี้มาตรวจราชการและไม่ใช่เพียงเรื่องรถไฟอย่างเดียว รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ชาติไว้ 20 ปี ว่าจะมีอะไรบ้างในแต่ละภาค

พร้อมระบุ วันนี้เราจะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเรากำลังเป็นโลก 4.0 แต่ 4.0 ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ต้องการออกจากเมืองนอกมา แต่เราต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ ใช้หุ่นยนต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ และวันนี้ออนไลน์มีเยอะ ขายของผ่านเว็บไซต์ถ้าเรายังคิดแบบเดิม และยังเชื่อในสิ่งที่ใครมาพูดจะทำให้คงไม่ได้ เพราะบางเรื่องผิดกฎหมาย รัฐบาลเข้ามา 4 ปีออกกฎหมาย 400 กว่าฉบับไม่ใช่เพื่อจับกุม แต่เพื่ออำนวยความสะดวกการค้า ทำให้เกิดการเป็นสากล เพื่อเปิดตลาดไปข้างนอก

“ผมเดินทางไปยุโรป อียู อังกฤษ ฝรั่งเศส อาเซียน เขาตอบรับประเทศไทยหมด ขออย่ามามองที่ตัวผม มองที่ประเทศและศักยภาพที่มีความสวยงาม ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสนั่นคือเสน่ห์ของคนไทย อย่าให้ใครมาพูดบิดเบือนจนบ้านเมืองเสียหาย ตรงนี้คงเข้าใจ เพราะมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และในอนาคตยืนยันรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นอะไรใครทั้งสิ้น แต่ทุกคนต้องมีวิจารณญาณ ในการอ่านเชื่อฟังต่างๆ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปที่เก่าเสียเวลา 4 ปีที่อยู่มาด้วยกัน 4 ปี ทุกคนทุ่มเทประชาชน ผมก็ทุ่มเทอะไรที่ไม่ดีก็ช่วยกันแก้ปัญหา ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ก้าวข้ามหรือผ่านทิ้งไปวันหน้าแล้วกลับมาแก้ไขแบบที่ผมเจอ เราจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ บ้านเมืองจะต้องมีการพัฒนา ถ้าเราอยู่อย่างนี้เท่ากับเรากินของเดิมของเก่า”

...

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรามีในวันนี้คือการท่องเที่ยว จะต้องเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก วันนี้มีคนมาเที่ยวไทย 35 ล้านคนต่อปี ในขณะที่เรามีประชากร 67 ล้าน ถือว่ามีคนมาเที่ยวครึ่งหนึ่งของประชากรบ้านเรา ดังนั้นเราจะเอาสิ่งไม่ดีไม่งามมาพูดให้ข้างนอกเขาฟังเพื่ออะไร โดยเฉพาะที่พูดว่าเป็นเพราะประยุทธ์ ซึ่งไม่ใช่ ขอให้เชื่อมั่นตน ไม่ต้องการการเมือง ไม่ต้องการงานการเมือง แต่มาทำการบ้าน ให้เสรีทุกคน ขออย่าทำผิดกฎหมาย ให้วันนี้สามารถเดินทางไปไหน ไปมาหาสู่กันได้ไม่ถูกปิดถนน ไม่มีการประท้วง ซึ่งตนพูดมามากในแต่ละวันๆ จะรอดหรือไม่ยังไม่รู้อย่างไรขอให้พรซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการนำป้ายผ้ามาต้อนรับ มีข้อความระบุว่า “กลุ่มพัฒนาสตรีเทศบาลนครเชียงราย ขอเป๋นกำลังใจฮื้อท่าน นายกฯลุงตู่ ทำหน้าที่นายกฯไปเมินๆ เน้อเจ้า บ้านเมืองจะได้สงบสุข” แต่ทางทีมรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บป้ายผ้า ห้ามนำมากางต้อนรับโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง

นอกจากนี้ในระหว่างประชาชนขอจับมือ ทางพล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกว่า “อย่าบีบมือแรง เพราะนิ้วยังเจ็บ ใส่เฝือกอยู่ไปต่างประเทศเกิดอุบัติเหตุ” โดยทีมรักษาความปลอดภัยได้เดินบอกประชาชนว่าอย่าบีบมือนายกรัฐมนตรี เพราะมือเจ็บ พร้อมกันนี้ยังเดินทักท้ายร้านค้าในบริเวณดังกล่าว และระบุว่า “เป็นนายกรัฐมนตรี มาได้ทุกที่ไม่ได้มาหาเสียง ไม่ได้มาการเมือง ถ้าเป็นอย่างนั้นจะไม่มา”.