"ไพบูลย์" ย้ำ นโยบายปฏิรูปปกครองสงฆ์ ชี้ต้นเหตุทุจริตเงินทอนวัด ลั่นเกาะติดการประชุม มส.หลังมีกรรมการถูกแจ้งข้อกล่าวหาเอี่ยว...

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.61 นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) 3 รูป ซึ่งเป็นพระชั้นรองสมเด็จและอีก 2 รูปเป็นพระชั้นราชาคณะรวมเป็นพระผู้ใหญ่ 5 รูป กล่าวหาว่าอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม (เงินทอนวัด) ว่า ชี้ให้เห็นว่าปัญหาของการปกครองคณะสงฆ์ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ปี 2505 ยังมีช่องว่างโดยให้อำนาจผูกขาดไว้กับกรรมการมส.มากเกินไปจนกลายเป็นที่มาของการทุจริตคอร์รัปชันแสวงหาอำนาจ ผลประโยชน์ เงินทอง ทรัพย์สินและลาภยศในวงการสงฆ์ฝ่าฝืนพระธรรมวินัย เมื่อพระผู้ใหญ่ในมส.มีปัญหาก็ส่งผลกระทบไปถึงระดับเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด อำเภอ ตำบลและเจ้าอาวาสวัดซึ่งเป็นระบบผูกขาดศูนย์รวมไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย อีกทั้ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์นี้ใช้มาถึง 50 ปีโดยไม่มีการแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับภาวะสังคมรวมถึงการให้สิทธิผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สะท้อนให้สังคมเห็นว่า ต้นเหตุของการทุจริตไม่เว้นวงการสงฆ์มาจากกฎหมายที่ส่งเสริมให้คนเข้ามาหาประโยชน์ในวงการพระพุทธศาสนา 

"ผมในฐานะที่ริเริ่มก่อตั้งพรรค ปชช.เห็นถึงปัญหานี้ซึ่งตรงกับนโยบายพรรคข้อ 2 คือจำเป็นต้องปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ และให้ดำเนินการจัดการทรัพย์สินของวัด และภิกษุสงฆ์ให้ตรงตามพระธรรมวินัย โดยจะเสนอเป็นร่างกฎหมายพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ชื่อว่า ฉบับธรรมาธิปไตยซึ่งจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ผมจะติดตามการประชุมในวันที่ 20 เม.ย.นี้ว่า คณะผู้ปกครองสงฆ์จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องที่เกิดข้อกล่าวหาการทุจริตเงินทอนวัดเกี่ยวกับงบประมาณโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่มีการอ้างตัวเลขต่างๆ โดยจะติดตามอย่างใกล้ชิดว่ามส.จะยกเรื่องนี้มาหารือและแก้ไขปัญหาอย่างไร" นายไพบูลย์กล่าว.

...