รัฐบาลบิ๊กตู่เพิ่งเปิดโครงการบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย อัดฉีดแจกฟรี ช่วยค่าครองชีพคนจน 11 ล้านคน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

ผ่านไป 3 เดือน รัฐบาลก็เปิดมหกรรมเทกระจาดเอาใจคนจนรอบใหม่ เฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 5.3 ล้านคน

เป้าหมายเพื่อโอบอุ้มกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำสุดในสังคมไทยให้หลุดพ้นเส้นแบ่งความยากจนให้เห็นผลรวดเร็วทันใจ

แสดงว่ารัฐบาลใจปํ้าทุ่มงบช่วยคนจนหวังซื้อใจชาวรากหญ้า 2 ชุดใหญ่ในเวลาห่างกันแค่ 3 เดือน

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่ามาตรการอุ้มคนจนรอบ 2 ใช้งบสูงถึง 35,679 ล้านบาท แยกรายจ่ายเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆ ดังนี้คือ...

ก้อนที่ 1, ทุ่มงบฝึกอบรมพัฒนาอาชีพใหม่ เพื่อเพิ่มการจ้างงาน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน 34 โครงการ 100 หลักสูตร เป็นเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท

ก้อนที่ 2, ทุ่มงบอัดฉีดแจกเงินฟรีผ่านบัตรสวัสดิการคนจน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 ต่อปีอีกคนละ 200 บาทต่อเดือน

หรือเพิ่มจาก 300 บาทต่อเดือน เป็น 500 บาทต่อเดือน

ส่วนผู้ที่มีรายได้เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะได้รับอัดฉีดเพิ่ม 100 บาทต่อเดือน

ต้องใช้เงินอัดฉีดเพิ่มอีก 1.3 หมื่นล้านบาทต่อปี

ก้อนที่ 3, งบค่าจ้างจัดโครงการฝึกอบรมอาชีพใหม่ อบรมพัฒนาทักษะ พัฒนาเทคนิคการผลิต และการตลาดแนวใหม่อีก 2,999 ล้านบาท

ตั้งเป้าว่ามหกรรมเทกระจาดเอาใจคนจนรอบ 2 จะมีพี่น้องรากหญ้าได้รับประโยชน์ 4.6 ล้านคน จากทั้งหมด 5.3 ล้านคน

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลทุ่มงบอัดฉีดช่วยค่าครองชีพและค่าเดินทางผ่านบัตรสวัสดิการคนจนรอบแรกไปแล้ว 41,940 ล้านบาทต่อปี

เมื่อรวมกับงบก้อนใหม่ที่รัฐบาลอัดฉีดช่วยคนจนก๊อก 2 (ที่จะเริ่มเดือนมีนาคม) อีก 35,679 ล้านบาท

...

จะเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 77,619 ล้านบาทขาดตัว

เมื่อรวมกับงบอัดฉีดเบี้ยยังชีพคนชราอีก 7 หมื่นล้านบาทต่อปี เท่ากับรัฐบาลต้องแบกภาระอัดฉีดแก้ปัญหาคนยากจนปีละเกือบ 1.5 แสนล้านบาททีเดียว

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าข้อดีของมาตรการอัดฉีดผ่านบัตรสวัสดิการคนจน คือ รัฐบาลโอนเงินถึงมือคนจนทุกรายที่ลงทะเบียนคนจนโดยตรง

ฉะนั้น เงินอัดฉีดจากรัฐบาลจะไหลไปถึงพี่น้องคนยากจนทุกบาท ทุกสตางค์

ส่วนการที่รัฐบาลทุ่มงบกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท จัดโครงการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพคนจนพร้อมกัน 4.6 ล้านคน

เป็นหลักการที่ดีในการเปิดโอกาสให้พี่น้องรากหญ้าได้พัฒนาศักยภาพตัวเอง ให้มีอาชีพใหม่ๆ และมีรายได้สูงกว่าเดิม

ถ้า...โครงการนี้ช่วยคนจนให้หายจนได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของ 4.6 ล้านคน เมืองไทยจะหมดคนจนไปถึง 4.6 แสนคน!!

แต่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่ค่อยแน่ใจว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์คุ้มค่าอย่างที่ฉายหนังโฆษณา??

เพราะโครงการฝึกอบรมวิชาชีพที่จัดกันเยอะแยะมากมาย มักไม่เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน

ครั้งนี้ใช้เงินเยอะซะด้วย...อย่าตำนํ้าพริกละลายแม่นํ้าเชียวนะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”