"บิ๊กตู่" ลั่นต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อปฏิรูปประเทศ ส่วนเรื่องถูก-ผิด ขอเป็นเรื่องของศาล เพราะไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น กร้าวไม่เคยกลัวอะไร เชื่อสิ่งที่ทำจะคุ้มครอง ถามกลัวอะไรกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทำเพื่อประชาชนตั้งหลัก
วันที่ 11 ส.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า รัฐบาลพยายามเร่งรัดวางโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะมีคำถามว่าควรหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ แต่ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยืนยันว่าถูกต้อง เรามีความจำเป็นต้องปฏิรูปประเทศ เพราะที่ผ่านมาไทยมีกฎหมายแต่ใช้ไม่ได้ ประเทศที่พัฒนาแล้วในอาเซียน ก่อนหน้านี้ได้ใช้กฎหมายเพื่อให้ทุกคนรู้สิทธิและหน้าที่ วันนี้เราจะเอาความสบายของเขา มาเทียบกับเราไม่ได้ เพราะวันนี้ถามว่าเรามีวินัยกันครบหรือยัง เพราะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การปฏิรูปประเทศมีปัญหา
"รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ต้องเข้าใจว่า กฎหมายปกติที่ใช้วันนี้มีปัญหา เราจะปล่อยไปถึงเมื่อไหร่ จึงอยากให้นำมาเปรียบเทียบกันประเทศไทยมีความแตกต่างทั้งพื้นฐานความคิดและการศึกษา มีทั้งคนดีและไม่ดี ผมไม่อาจจะไปว่าใคร แต่เราต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ทำตอนที่ตนอยู่แล้วจะทำตอนไหน เพราะฉะนั้นอย่ามองโดยไม่ย้อนกลับไปดูในอดีต ทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพ โดยไม่สนใจว่าไปละเมิดอะไรใคร รัฐบาลนี้ยอมไม่ได้ จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของศาลกระบวนการยุติธรรม ผมไม่ใช่ศาล ไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ผิดถูกก็ไปว่ากันตรงโน้น"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องทำถนนหรือรถไฟฟ้าเส้นใด เขียนเพียงให้ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม เพิ่มรายได้ สร้างการแข่งขันของประเทศ ทำให้ระบบการขนส่งรวดเร็วขึ้น ยุทธศาสตร์ชาติมีเท่านี้จะกลัวอะไรกันนักหนา รัฐบาลพยายามทำให้ครบถ้วน ส่วนจะครบหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า เราต้องการให้ประชาชนเห็นอนาคตของประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า ประชาชนจะได้ตั้งหลักถูก ว่าจะส่งลูกหลานไปเรียนที่ใด ทำงานอะไร ไม่ใช่วิธีการที่ผิด เพราะเป็นหลักคิดที่ได้ศึกษามาจากต่างประเทศ เอามารวมกับสิ่งที่การคิดเองบ้าง เพื่อทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย
...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนต้องการสร้างความเข้าใจให้ประชาชน ต้องสร้างหลักคิดใหม่ เพื่อพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กับดักประชาธิปไตย และความขัดแย้ง โดยอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ และตนจำเป็นต้องพูดสยบความขัดแย้งให้ได้ บางคนเจตนาดี แต่ไม่มีพื้นฐานหลักคิด จึงขัดแย้งกันไปหมด ทำให้หงุดหงิดทุกวัน เพราะหนักใจแต่จะทำให้ดีที่สุดและทุกอย่างที่รัฐบาลทำในวันนี้ต้องอยู่ต่อในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับประชาชน วันนี้ทุกปัญหาพันกันไปหมด ขอให้ทุกคนนึกถึงประชาชนให้มากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านเวลานี้ วันหน้าถ้ารัฐบาลใหม่มาให้เห็นว่าดีก็ทําต่อถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องของเขากับประชาชนเป็นผู้เลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณมิตรประเทศ ที่มาร่วมพัฒนาประเทศของเราถือว่าท่านอยู่ในประวัติศาสตร์ของเราด้วยในการปรับรูปแบบขนส่งมวลชนให้ทันสมัย และขอให้เป็นมิตรที่มั่นคงและยั่งยืนอยู่ในยุทธศาสตร์ของเรา อีก 20 ปีข้างหน้านั้นขอยืนยันทุกอย่างที่รัฐบาลนี้ทำจะต้องอยู่ต่อไปถึงวันข้างหน้า ขอให้ทุกคนมีความสุขโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปีมหามงคลวันแม่แห่งชาติ และที่ผ่านมาก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยในทุกๆ เรื่อง ซึ่งตนก็ได้รับพระราโชบายมาหลายอย่างรวมทั้งได้นำพระราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดไป ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักฐานประเภทคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และในส่วนของรัฐบาลได้เติมประชาชนไปด้วย ซึ่งประชาชนจะต้องอยู่ในใจของพวกเราเสมอในการทำงาน
"คิดสิ่งดีๆ จะเป็นกุศล จะไปทำบุญที่วัดก็เชิญไป แต่ทำกุศลทำด้วยใจของตัวเอง ตื่นเช้ามาทุกคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานต้องคิดว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่ต้องนึกถึงตัวเองจะทำให้คิดงานออก และต้องมีการติดตามงานทุกวัน เพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ผิดกฎหมาย ผมไม่เคยกลัวอะไรเพราะทำเพื่อชาติ เพื่อประชาชน หวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ จะคุ้มครองตัวผมในวันหน้า เพราะคงหวังให้ใครช่วยผมไม่ได้อยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว