เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดไฟป่าพรุควนเคร็งต่อเนื่อง จนควบคุมไฟได้เกือบทุกจุดแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 24 ชม.หวั่นปะทุกลับมาลุกไหม้อีก ขณะที่ผู้ว่าราชการนครศรีฯ ลั่นถ้าสาเหตุไฟป่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ สั่งดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟไหม้ป่ากว่า 300 นาย ต่างเร่งระดมกำลังฉีดน้ำสกัดไฟป่าพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด และ อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.เชียรใหญ่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลุกลามขยายวงกว้างให้อยู่ในวงจำกัด พร้อมทั้งควบคุมควันไฟป่าที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณหลายสิบกิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบโดยเฉพาะเด็กนักเรียน และคนชรา ที่เริ่มมีปัญหาระบบทางเดินหายใจบ้างแล้วหลังเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งมาตั้งแต่วันที่ 2-5 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้าน นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าเหตุไฟไหม้พื้นที่เขตป่าพรุควนเคร็ง ช่วงระหว่างวันที่ 2-5 กันยายน 2559 รวม 4 จุดนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟได้แล้วเกือบทุกจุด คือ ม.4 ต.ชะอวด อ.ชะอวด ม.10 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ ม.6 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ และ ม.3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังและควบคุมตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้เกิดปะทุกลับมาลุกไหม้ขึ้นอีก

สำหรับจุดที่มีไฟไหม้เกิดขึ้นใหม่อีก ได้แก่ บริเวณ ม.2 ม.6 และ ม.12 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าฉีดน้ำสกัดไฟเรียบร้อยจนสามารถให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยในเช้าวันนี้ (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบพิกัดเพื่อระบุจำนวนความเสียหายที่แน่นอนต่อไป ซึ่งภาพรวมของความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน แต่ในส่วนของพื้นที่ป่าพรุซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนนั้นประเมินเบื้องต้นไม่น่าจะเกิน 2 พันไร่ ซึ่งไม่นับรวมกับพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ พื้นที่ทางการเกษตรซึ่งมีเอกสารสิทธิของประชาชน รวมทั้งพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งมีความเสียหายใน 3 อำเภอจำนวนหลายพันไร่

...

ด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่ 3 อำเภอ กินเนื้อที่ความเสียหายประมาณ 2,000 กว่าไร่ ล่าสุดสถานการณ์ไฟป่าสามารถควบคุมได้แล้วแต่ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่ยังไม่ดับเสียทีเดียว ประกอบกับขณะนี้ฝนหยุดตกไปหลายวันแล้ว ซึ่งสาเหตุไฟป่าครั้งนี้เกิดจากการกระทำของมนุษย์แน่นอน ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะการจุดไฟหาของป่าและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการเผาต้นไม้เพื่อให้ได้ต้นไม้ใหม่ขึ้นมา ซึ่งตนขอเตือนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดก.ม.ซึ่งจะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอนหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าใครเป็นคนจุดไฟป่าในครั้งนี้