กำนันเขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช วอน นายกฯ ประยุทธ์ ใช้ ม.44 กวาดล้างทุจริตให้หมดประเทศ โดยเฉพาะการปฏิรูประบบราชการให้โปร่งใส หลังร้องเรียนนายอำเภอหัวไทร ขอแบ่งเปอร์เซ็นต์เรียกค่าหัวคิวโครงการรัฐ

สืบเนื่องจากอธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งให้นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ นายอำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.59 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง อันเป็นผลมาจาการที่นายสุจินต์ รังสิมันสุชาติ กำนัน ต.เขาพังไกร จ.นครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนต่อทางกระทรวงมหาดไทย ว่านายสิทธิชัยทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์ค่าหัวคิวจากโครงการงบประมาณที่ลงสู่ตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท จำนวน 10 หมู่บ้าน ที่ได้รับงบนี้ มีโครงการจำนวน 13 โครงการ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรกเป็นโครงการขุดลอกเหมืองส่งน้ำ โครงการประเภทที่สอง เป็นโครงการถนนลูกรัง ปรากฏว่านายอำเภอเรียกเงินหัวคิวโครงการประเภทแรก 15% โครงการประเภทที่สองจำนวน 10% โดยเรียกเงินผ่านผู้รับเหมาที่เข้าทำโครงการ นอกจากนั้นงบประมาณหมู่บ้านที่แต่ละหมู่บ้านได้รับ นายอำเภอยังเรียกหัวคิวจากคณะกรรมการหมู่บ้าน 5% จากทุกหมู่บ้านที่ได้รับงบประมาณ (เด้ง นายอำเภอหัวไทร ถูกร้อง งาบหัวคิวงบประมาณ)

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 59 นายสุจินต์ รังสิมันสุชาติ กำนัน ต.เขาพังไกร ได้ประชุมร่วมกับแกนนำผู้นำท้องถิ่นของอำเภอหัวไทร และอำเภอใกล้เคียง ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ที่ทำการกำนัน ต.เขาพังไกร เพื่อให้นายสุจินต์ต่อสู้

นายสุจินต์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการร้องเรียนไปทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สอบสวนในเรื่องนี้แล้ว ตนได้ยื่นหนังสือหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้กับทางป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายอีกทางหนึ่งด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงที่สร้างความหนักใจและความอึดอัดให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น กรรมการหมู่บ้าน เป็นอย่างมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่พวกเราไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะระบบมันเป็นอย่างนี้ แล้วข้าราชการประจำก็เอาตำแหน่ง อำนาจ หน้าที่มาบีบบังคับ

...

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอหัวไทร มันส่อเค้ามาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันประชุมประจำเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ก่อนการประชุม นายอำเภอได้เรียกกำนันแต่ละตำบลเข้าห้องประชุมเล็กบนอำเภอ บอกว่างบประมาณได้มาแล้ว แต่ทุกตำบลต้องจ่ายเงินหัวคิวให้ตน โครงการเหมืองส่งน้ำขอ 25% โครงการถนนลูกรังขอ 15% ให้กำนันจัดหาผู้รับเหมามา แล้วให้รับหลักการนี้ หากไม่รับหลักการ นายอำเภอจะหาผู้รับเหมามาเอง แล้วต้องจัดเงินหัวคิวดังกล่าวมาให้กับนายอำเภอเป็นเงินสดเท่านั้น ห้ามมีการโอน หลังจากนั้นทางผู้นำท้องถิ่นและผู้รับเหมาได้รับผลกระทบ เพราะผู้รับเหมาขาดทุน หรือไม่มีกำไร ก็มีการเปิดการเจรจาต่อรองกับนายอำเภอ ซึ่งได้ยอมลดค่าหัวคิวโครงการเหมืองส่งน้ำจาก 25% เหลือ 15% โครงการถนนลูกรังเหลือ 10%

นายสุจินต์ กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคที่ถือได้ว่าเกิดความระส่ำในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก จากการที่ข้าราชการระดับหัวหน้าส่วนสำคัญใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ต่อประชาชนยิ่งกว่ายุคใดๆ ก่อนหน้านี้ กรมการปกครองได้สั่งย้ายนายอำเภอ 2 อำเภอ คือ นายอำเภอสิชล กับนายอำเภอชะอวด ออกจากพื้นที่ไปแล้ว หลังปรากฏข่าวและคลิปผู้ใหญ่บ้านก้มกราบนายอำเภอกลางที่ประชุม ขอให้งดเรียกค่าหัวคิวโครงการพัฒนา โครงการช่วยเหลือประชาชน

อย่างไรก็ตาม ตนเป็นกำนันที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ตระกูลกว่า 3 ชั่วอายุคน เป็นกำนันมาตลอด ทวดเป็นท่านขุน ปู่เป็นกำนัน พ่อเป็นกำนัน อาเป็นกำนัน กระทั่งมาถึงยุคตนรักษาคุณงามความดี ดูแลชาวบ้าน ดูแลลูกบ้าน ประสานระหว่างราชการกับราษฎรเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในตำบลมาอย่างยาวนาน รับรางวัลต่างๆ จากรัฐบาล จากกระทรวงมหาดไทย จากกรมการปกครอง และหน่วยงานต่างๆ มานับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้หมดความอดทนแล้ว ฉันทานุมัติจากกำนันผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดลงมติร่วมกัน นับจากวันนี้ไปเราจะไม่ยอมก้มหัวให้กับกังฉินในคราบข้าราชการอีกต่อไปแล้ว

"ขอวอนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีอำนาจมาตรา 44 อยู่ในมือ ขอให้ช่วยกวาดล้างปราบปรามการทุจริตกินบ้านกินเมือง ปฏิรูประบบราชการอย่างแท้จริงเสียที อย่าลูบหน้าปะจมูก ท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่าวงราชการทุจริตกันอย่างไร ขอให้ท่านจริงใจ แก้ไขเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ขอให้กวาดล้างคอร์รัปชันให้ลดหรือหมดไป ไม่เฉพาะที่นครศรีธรรมราช แต่ขอให้ดำเนินการทั้งประเทศ เพื่อให้ประเทศของเรา เหลือทรัพย์สิน เหลือทรัพยากรให้ลูกหลานได้พึ่งพิงต่อไป" นายสุจินต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ที่ว่าการอำเภอหัวไทร เพื่อขอพบและขอสัมภาษณ์ขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องการร้องเรียนและคำสั่งให้ไปช่วยราชการกับนายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ นายอำเภอหัวไทร หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปเพื่อขอพบมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่พบ จึงเดินทางไปที่บ้านพักนายอำเภอ ปรากฏว่าบ้านพักปิด เมื่อโทรศัพท์ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แม้จะพยายามติดต่อหลายครั้ง

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ เพื่อขอพบและสัมภาษณ์นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รับแจ้งจากเลขานุการว่า นายพีระศักดิ์ไม่อยู่ เดินทางไปราชการที่กรุงเทพมหานคร และหลังจากนั้นจะเดินทางไปราชการต่างประเทศ.