เปิดใจสาว 27 ปี โพสต์คลิป ถูกอดีตสามีทำร้ายจนน่วม ก่อนเดินทางเข้าไปแจ้งความ ยันจะขอตัดขาดไม่ยุ่งกันอีก ด้านอดีตสามีเผย ไม่คิดอะไรแล้ว รอหมายเรียกจาก ตร.
จากกรณีมีผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก เป็นคลิปถูกสามีใช้ความรุนแรงทั้งเตะทั้งต่อย ต่อว่าต่าง ๆ นานา หลายนาที จนร่างกายเขียวช้ำไปทั้งตัว พร้อมกับระบุข้อความว่า "มันเป็นโพสต์สุดท้ายของเรื่องราวในชีวิตคู่ที่ฉันได้เลือกผิดพลาดไป มีเรื่องให้เตือนให้สอนลูกเยอะแยะเลย ว่าหนูควรคิดและไตร่ตรองในการเลือกคู่ชีวิตให้มาก ๆ แม่พลาดไปแล้ว หนูอย่าพลาด อย่าได้รีบร้อนในการเลือกคู่ชีวิตเหมือนแม่อีกนะ"
โดยโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจ คนเข้าไปคอมเมนต์และมีการแชร์ต่อจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเพจดัง นักช่วยเหลือทางสังคม ออกมาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือกันจำนวนมาก จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 31 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ใน ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของบิดาและมารดาหญิงสาวที่โพสต์คลิปดังกล่าว และพบกับ นางสาวภัครดา เพชรอาวุธ อายุ 27 ปี ผู้โพสต์ เพื่อสอบถามปัญหาเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยขณะเดียวกันได้มี นายอรรถชัย ภัคดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเป็นหนึ่ง ลงพื้นที่ไปพบ และให้ความช่วยเหลือกับนางสาวภัครดาด้วย
...
นางสาวภัครดา กล่าวว่าตนได้แต่งงานและจดทะเบียนกับสามี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 โดยไปปลูกสร้างบ้านอยู่ในที่ดินของสามี ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร แรก ๆ ก็รักกันดี พอหลังจากที่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ เริ่มมีปัญหาครอบครัว สามีเริ่มใช้ความรุนแรงเรื่อยมา และตนก็รู้ว่าสามีเริ่มมีการพูดคุยคบหากับหญิงคนใหม่ด้วย
นางสาวภัครดา กล่าวว่าหลังจากพฤติกรรมสามีเปลี่ยนไป ชอบใช้ความรุนแรง ตนเคยนำใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย แต่พฤติกรรมสามีก็ยังเหมือนเดิม ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 67 เราได้ตัดสินใจจดทะเบียนหย่ากันที่อำเภอเมืองชุมพร โดยระบุเงื่อนไขว่า บุตรสาวอายุ 1 ปี 9 เดือน ทั้งสองจะปกครองร่วมกัน สำหรับบุตรให้อยู่กับฝ่ายภรรยา
แม้เราจะหย่ากันแต่เราทั้งสองก็ยังไปมาหาสู่กันปกติเพื่อลูกสาว ส่วนกรณีที่มีข้อความว่า แม่สามีจะขอซื้อลูกสาวจำนวนเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปเลี้ยงดูเองนั้น ก็เป็นเรื่องจริง แต่ตนไม่เอา จะขอเลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง และที่ผ่านมา แม่เขาก็จะมาต่อว่าตนหลายครั้ง ตนก็อาจจะมีเถียงไปบ้างด้วยเหตุด้วยผลแบบปกติทั่วไป
นางสาวภัครดากล่าวว่า ส่วนวันเกิดเหตุตามในคลิป เป็นวันที่ 23 ธ.ค. 67 เป็นบ้านที่สร้างอยู่ด้วยกันในที่ดินของอดีตสามี ในพื้นหมู่ที่ 7 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ตนได้พาลูกสาวไปหาอดีตสามีที่บ้าน และอยากให้ลูกสาวอยู่นอนกับพ่อที่บ้านหลังนั้นด้วย เพราะที่ผ่านมาแม้เราจะหย่ากัน แต่เราก็ยังพูดคุยอยู่เพื่อลูกกันตามปกติ แต่หลังจากพูดคุยกันได้ไม่นาน
ขณะตนกำลังปัดกวาดบ้าน อดีตสามีตนเริ่มมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ทำให้ตนรู้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้นอีกกับตนอีก จึงตั้งมือถือถ่ายคลิปไว้ โดยอดีตสามีบอกว่าถ้าอยากจะมาอยู่บ้านหลังนี้อีก ตนจะต้องไปกราบขอขมาแม่เขาก่อนอยู่ที่ จ.ภูเก็ต และต่อไปจะต้องฟังอย่างเดียว ห้ามโตเถียงแม่ และชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ห้ามคิดอะไร ให้อยู่เฉย ๆ เขาก็พยายามพูดโน่นนี่นั่นหลายเรื่อง ทำให้ตนก็โต้เถียงไปบ้าง ไม่นานก็ปรากฏให้เห็นตามคลิปดังกล่าว นับจากนี้ตนก็จะไม่ขอกลับไปอีกแล้วพอกันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันเกิดเหตุอดีตสามีเมาสุราหรือไม่ นางสาวภัครดากล่าวว่าไม่ได้ดื่ม แต่เขาเป็นคนมีอารมณ์รุนแรงแบบนั้นเอง แต่ในบางมุมเขาก็ดี ส่วนยาเสพติดที่เคยเห็น ก็เสพกัญชาบ้างเท่านั้น แต่ปกติเขาชอบอยู่แต่ในห้องตามลำพังคนเดียว จึงไม่ค่อยรู้อะไรมาก
หลังจากตนโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กเมื่อวาน ได้มีคนจำนวนมากทักมาช่วยเหลือตน ทั้งเพจสายไหมต้องรอด ต้นอ้อเป็นหนึ่ง กันต์ จอมพลัง ก็ประสานเรื่องการแจ้งความดำเนินดี ซึ่งเมื่อวานตอนเย็นตนก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีในข้อหาทำร้ายร่างกาย และแจ้งความดำเนินคดีกับแม่อดีตสามี ในข้อหาขู่ฆ่า ตามหลักฐานข้อความที่ส่งมาถึงตน
...
ด้าน นางขวัญตา เพชรอาวุธ อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ และนางสาวปวีณา เพชรอาวุธ อายุ 34 ปี พี่สาว กล่าวว่าทั้งคู่แต่งงานกันมาประมาณ 3 ปี เห็นทั้งคู่ก็รักกันดี ลูกสาวไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้เราได้รู้เลย แม้จะถูกทำร้ายมาแล้วกี่ครั้ง ก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง รู้เพียงว่ามีปากเสียงทะเลาะกันบ้างตามประสาผัวเมีย แม้จะหย่ากันลูกสาวก็ยังพาหลานไปหาสามีที่บ้านอยู่เป็นประจำ และเราเพิ่งจะมารู้ตอนมีคลิปเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์โดยแม่ดูได้เพียงนิดเดียว ไม่สามารถดูต่อไปได้อีก เพราะทำกับลูกแม่รุนแรงเหลือเกิน
ขณะที่ นายอรรถชัย ภัคดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังปรากฏคลิปตามสื่อต่าง ๆ ก็ได้มีการประสานงานร่วมกับตำรวจ และบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร เพื่อช่วยเหลือทางคดีความแก่น้องเขา เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ทั้งเรื่องของปัญหาสภาพจิตใจ สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะลูกที่ยังเล็ก หลังจากนี้ก็จะช่วยเหลือดูแลเรื่องการดำเนินคดี การคุ้มครองเรื่องสวัสดิภาพหากมีการข่มขู่คุกคาม
...
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ นายธนกานต์ แตงเลี่ยน อายุ 24 ปี อดีตสามีที่ปรากฏในคลิป โดยนายธนกานต์ บอกว่าเราได้หย่ากันแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา และตนเองก็ไม่ได้ยินยอมให้เขากลับมา เพราะตนเคยบอกไว้แล้วว่า ถ้าจะกลับมาต้องไปเคลียร์กับแม่ตนก่อน เพราะเมื่อก่อนนี้เขาเคยด่าแม่ตนทะเลาะกับแม่ผมหลายครั้ง แล้วเราก็หย่ากันแล้ว
แต่อยู่ ๆ เขาก็ทำมาตีมึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วกลับมาอยู่ในบ้านตนแบบนี้ ตนยอมรับผิดที่ใช้ความรุนแรงกับเขาแบบนั้น แต่ตนไม่อยากให้เขามาอยู่อีกแล้ว เพราะเขาไม่ยอมไปขอขมาแม่ตน ทะเลาะกันด่ากันแรงมากใช้คำว่ามึงกูกับแม่ตน กับยายตนแบบนี้ ตอนนี้ตนไม่คิดอะไรอีกแล้ว รอแค่หมายเรียกจากตำรวจ ตามที่ถูกแจ้งความ และยืนยันว่าตนไม่เคยมีคนใหม่เหมือนกับที่เขากล่าวหา เราแค่พูดคุยเรื่องปัญหาชีวิตให้เขาฟังเท่านั้น.