แม่พาลูกสาวบุกพบนายอำเภอ เหตุจากไปเปลี่ยนชื่อแล้วนายทะเบียนหมายเหตุมาว่า "คราวหน้าถ้าจะเปลี่ยนอีก ให้เอาใบรับรองสภาพจิตมาด้วย เนื่องจากเปลี่ยนชื่อบ่อย" บอกเพิ่งเปลี่ยนแค่ 2 ครั้ง เมื่อเดือน ต.ค. 65 และล่าสุด ก.ย. 66


วันที่ 28 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางอนันตา ถิ่นจะนะ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ถนนตลาดใหม่ ซอย 1 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่านางสาวธนัชพร ปัญญานุกิจ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของตน ได้ไปขอเปลี่ยนชื่อ ที่ว่าการอำเภอสะเดา แต่หลังจากเปลี่ยนชื่อเสร็จถึงกับงง และมีความรู้สึกไม่ดี เพราะมีหมายเหตุสลักหลัง เป็นคำสั่งของนายทะเบียนข้อความระบุว่า "ผู้ร้องยืนยันจะกลับมาใช้ชื่อเดิม หากมีการขอเปลี่ยนชื่อในครั้งหน้า ขอให้ผู้ร้องนำใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ เนื่องจากผู้ร้องมีการขอเปลี่ยนชื่อบ่อยครั้ง"

นางสาวธนัชพร ลูกสาว เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองเคยเปลี่ยนชื่อมา ครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2565 และมาขอเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 โดยขอกลับมาใช้ชื่อเดิม แต่พบว่าเจ้าหน้าที่มีท่าทีไม่อยากเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนให้ตามที่ต้องการ แต่มีใบหมายเหตุดังกล่าวไว้ด้วย และนายทะเบียนซึ่งเป็นผู้หญิงยังบอกทิ้งท้ายว่า "หากครั้งหน้ามาเปลี่ยนเขายังอยู่ก็จะไม่เปลี่ยนให้" ซึ่งตนเองรู้สึกงง และเสียใจมาก ทั้งๆ ที่เปลี่ยนชื่อมาเกือบจะครบ 1 ปี แต่โดนระบุว่าเปลี่ยนบ่อย

...

ด้านนางอนันตา บอกกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ตอนลูกสาวไปเปลี่ยนชื่อ ตนเองไม่ได้ไปด้วย แต่ลูกสาวโทรศัพท์มาว่า แม่รู้จักใครบ้าง เพราะดูเหมือนเจ้าหน้าที่ไม่อยากเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายลูกสาวบอกว่าได้เปลี่ยนแล้ว ส่วนชื่อที่เปลี่ยนก่อนหน้านั้น เป็นชื่อที่พระที่ตนนับถือตั้งให้ หัวอกคนเป็นแม่ก็อยากให้ลูกพบกับสิ่งดีๆ มีความเจริญในด้านต่างๆ แต่ลูกสาวกลับมาถึงที่บ้านเล่าให้ฟังว่านายทะเบียนมีหนังสือหมายเหตุไว้ ถึงกับตกใจและโกรธจนตัวสั่น ลูกเราสติดีนะ แต่เขาเขียนมาแบบนี้ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม จึงได้ชวนลูกไปที่อำเภอสะเดาอีกครั้ง เพื่อขอพบนายอำเภอ เพื่อจะให้บอกลูกน้อง ให้แก้ตรงที่เขียนสลักหลังไว้ ว่าต่อไปหากจะเปลี่ยนอีกให้ตรวจสภาพจิต เราต้องการแค่นั้น หลังจากที่รออยู่เป็นเวลาพอสมควรก็ไม่ได้พบ มีเพียงเจ้าหน้าที่บอกให้ไปคุยกับนายทะเบียน จึงลงไปพบกับนายทะเบียนคนดังกล่าว จะสอบถามถึงสาเหตุที่เขียนสลักหลังไว้แบบนั้น แต่นายทะเบียนบอกว่ายังไม่ว่าง และบอกว่าที่เขียนแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าลูกคุณบ้า ตนเองเลือดขึ้นหัวเลย และก่อนจะมีการโต้เถียงต่อนายทะเบียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะถ่ายคลิป จึงบอกว่าอย่าถ่ายนะ แล้วก็พาลูกกลับ 

นางอนันตา กล่าวว่าเจ้าหน้าที่น่าจะบริการประชาชน ลูกสาวเปลี่ยนชื่อเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และก็มาเปลี่ยนเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา อยากรู้ว่า 1 ปี ถึงเปลี่ยน แบบนี้บ่อยเหรอ มีที่นี่ที่เดียวละมีปัญหา ซึ่งเพื่อนๆ หลายคนเคยเล่าว่าเคยเจอ ถึงขนาดบอกว่าเปลี่ยนชื่อที่สะเดายาก ปัญหาเยอะ 

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเอกสารที่นางสาวธนัชพร แสดงให้ดูพบว่ามีการระบุข้อความดังกล่าวไว้จริง พร้อมระบุชื่อ ตำแหน่ง ไว้ครบถ้วน แต่ในช่องที่เว้นไว้สำหรับลงลายมือชื่อ พบว่าไม่มีการลงลายมือชื่อหรือลายเซ็นไว้แต่อย่างใด