กำลังพล 54 นายจากเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับความช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้ เดินทางกลับถึงฐานที่มั่น และได้พบหน้าครอบครัวที่มารอรับ ต่างโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ
เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 20 ธ.ค.65 กองทัพเรือนำโดย พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วย คุณกีรตา พันธุ์เอี่ยม ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ, พลเรือตรี โชคชัย เรืองแจ่ม ผู้บัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 1, พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน, นาวาเอก ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้บัญชาการฯ รักษาราชการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ผู้บังคับบัญชา และครอบครัว ร่วมให้การต้อนรับกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จำนวน 54 นาย ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือถูกคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ จนอับปางลงใต้ทะเลยังอ่าวประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้ส่งเรือหลวงกระบุรีเข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย ก่อนนำขึ้นยังท่าเทียบเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งการต้อนรับกำลังพลผู้รอดชีวิตทั้ง 54 นาย ภายหลังได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากทะเล ในจำนวนนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับบาดเจ็บไม่ถึงขั้นต้องพักรักษาตัวยังโรงพยาบาล กรมการขนส่งทหารเรือ จึงได้จัดรถบัสจำนวน 2 คัน นำกำลังพลทั้งหมดออกเดินทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้ากลับสู่หน่วยที่ตั้ง ณ กองบัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 1 โดยกำลังพลทั้งหมด ได้มารวมตัวกันยังหน้ากองบัญชาการ กองเรือยุทธการ เพื่อกระทำพิธีถวายพวงมาลัยดอกไม้ สักการะขอพรต่อพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อันเป็นที่เคารพศรัทธา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทหารเรือ
...
ด้าน ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวให้โอวาทต่อกำลังพลด้วยความห่วงใย และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อุบัติเหตุครั้งนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด รวมถึงคลิปที่ทางกำลังพลถ่ายไว้ได้ก่อนอับปาง และสอบถามลูกเรือ ล้วนสอดคล้องว่า ขณะเกิดเหตุทะเลมีคลื่นยักษ์สูง ซึ่งพลประจำเรือนายหนึ่งให้การว่า ตั้งแต่ประจำการอยู่ในเรือนานนับสิบปี ยังไม่เคยประสบคลื่นยักษ์ที่มีความรุนแรงเช่นนี้ เบื้องต้น ได้มอบเงินบำรุงขวัญ ก่อนปล่อยให้พบหน้าครอบครัวที่มารอรับกลับบ้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยความรักความอบอุ่น ส่วนกำลังพลจำนวนร่วม 30 นาย ที่ยังหาไม่พบนั้น กองทัพเรือ ได้นำเรือรบ เรือตรวจการณ์ และอากาศยาน ออกลาดตระเวนค้นหาผู้รอดชีวิต เชื่อว่ายังลอยคออยู่ในทะเล โดยภารกิจจะคงดำเนินต่อไป จนกว่าจะสามารถช่วยเหลือนำชีวิตทหารทุกนาย กลับคืนสู่อ้อมอกครอบครัวให้เป็นได้