2 โจ๋อุกอาจซิ่ง จยย. จอดรถจ่อยิงต้นคอเด็กวัย 16 ปี โคม่า ขณะก้มเล่นโทรศัพท์มือถือ หน้าโรงเรียนดัง จ.ตรัง ระหว่างเลิกเรียน ทำนักเรียนนับร้อยแตกตื่น ตร.เร่งล่าพร้อมไล่กล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง ต่อมาผู้ปกครองพาเข้ามอบตัว ที่แท้เด็กเยาวชนวัย 14 ปี ก่อเหตุ สารภาพแค้นที่ถูกข่มขู่ แถมเพื่อนคนเจ็บเคยใช้มีดแทง
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 ร.ต.ท.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บริเวณหน้าโรงยิมเนเซียม 4000 ที่นั่ง สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ต.บางรัก เขตรอยต่อ ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง เยื้องกับหน้าโรงเรียนสภาราชินี 2 หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.วสันต์ บันลือพืช สว.สส. กำลังชุดสืบสวน และ ตร.ชุดสายตรวจ สภ.เมืองตรัง ตร.กองปราบปรามฯ 6 ก่อนแจ้งประสานไปยัง ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง และหน่วยกู้ภัยสว่างภักดี รุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโรงยิมดังกล่าว พบเด็กนักเรียนกำลังมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาเลิกเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กำลังเร่งทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่นอนจมกองเลือด อยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว หายใจรวยริน ชีพจรเต้นอ่อน ก่อนจะเร่งนำส่ง รพ.ตรัง เป็นการเร่งด่วน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายกิตติศักดิ์ โพชสาลี หรือ เบส อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 ม.6 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง (ไม่เรียนหนังสือ) ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เบื้องต้นคาดเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เข้าที่ต้นคอจำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนปืน พบเพียงรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1 กม 3769 ตรัง หน้าตะกร้ารถพบปลากัดบรรจุอยู่ในขวดพลาสติก จำนวน 4-5 ขวด ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บ ใกล้กับรถยังพบรองเท้าของคนเจ็บตกอยู่อีก 1 ข้าง
...
จากการสอบถาม นายภูวนารถ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี นักเรียนสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพยานให้การว่า หลังจากตนเองเลิกเรียน ได้ขับรถมาจอดจุดดังกล่าว เพื่อรอรับแฟนสาวที่เรียนอยู่โรงเรียนใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อมาจอด ปรากฏว่าผู้บาดเจ็บได้ขี่รถ จยย.เวฟ 110 สีน้ำเงิน คันดังกล่าว พร้อมกับเพื่อนซ้อนท้ายมาจอดใกล้ตน ตนก็รู้จักคนเจ็บแต่ไม่สนิท ก่อนจะทักทายกัน แต่ไม่ได้ถามว่ามาทำไม ระหว่างนั้นคนเจ็บได้เดินลงมานั่งก้มเล่นโทรศัพท์มือถือบนขอบปูนทางเท้า โดยที่เพื่อนที่มาด้วยนั่งอยู่บนรถ ต่อมาได้มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 ราย สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว คนขับสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว ไม่ทะเบียนทะเบียน มาจอดห่างจากคนเจ็บประมาณ 5 เมตร ก่อนที่คนซ้อนท้ายซึ่งไม่ปิดบังใบหน้าสวมเพียงหน้ากางอนามัยจะเดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนจ่อที่ต้นคอคนเจ็บ และยิงในทันทีจำนวน 1 นัด ระหว่างที่คนเจ็บก้มเล่นมือถือโดยไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่เพียงคำเดียว ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุรีบบึ่งรถและหลบหนีไปในทันที
ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตติศักดิ์ หรือ เบส คนเจ็บ และนายก้องกิดากร หวังหลี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.6 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อนที่มาด้วยกัน เพิ่งกลับจากหาปลากัดในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ขี่รถ จยย.มาจอดแวะที่สนามกีฬาทุ่งแจ้ง (จุดเกิดเหตุ) ระหว่างนั้นได้มีคนร้าย จำนวน 2 ราย ขับขี่รถ จยย.คันก่อเหตุเข้ามาหานายกิติศักดิ์ หรือเบส ก่อนที่หนึ่งในสองคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่นายกิติศักดิ์ จำนวน 1 นัด ระหว่างนั่งเล่นโทรศัพท์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุพุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว โดยพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุอุกอาจ บริเวณตรงจุดเกิดเหตุอยู่เยื้องกับหน้าโรงเรียน เป็นจุดที่เด็กนักเรียนจะมานั่งรอผู้ปกครองและรถประจำทางมารับช่วงหลังเลิกเรียน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญและแตกตื่นเป็นอย่างมาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนได้นำพยานสอบปากคำและดำเนินการเก็บกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายเดินทางมาและหลบหนี และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุได้นำตัว ด.ช.แดง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาว ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นคนลงมือยิง พร้อมด้วย นายแบงก์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง เป็นคนขี่รถ เข้ามอบตัวกับ ร.ต.ท.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองตรัง
จากการสอบปากคำ ด.ช.แดง (นามสมมติ) มือยิง ให้การรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้เรียนหนังสือ จบการศึกษาชั้น ป.5 รู้จักกับคนเจ็บ โดยเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนของผู้บาดเจ็บได้ทะเลาะกับตน ก่อนจะใช้ขาเตะตน พร้อมกับใช้อาวุธมีดพยายามแทงตน แต่ตนสามารถจับมือเอาไว้ได้ และหนีมาได้ทัน ต่อมาในวันถัดไปคนเจ็บกลับพูดข่มขู่ตนว่า ‘ระวังไว้จะตายไม่รู้ตัว’ ทำให้ตนเกิดความแค้น แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร จนกระทั่งวันนี้ บังเอิญตนขี่รถมากับเพื่อนเพื่อมาดูสาวๆ ที่หน้าโรงเรียน ปรากฏว่าได้พบเจอคนเจ็บพอดี จึงใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงเข้าที่ต้นคอคนเจ็บ ส่วนอาวุธปืนได้นำไปทิ้งภายในบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลฯ และปืนกระบอกดังกล่าวตนเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเอง โดยนำไปให้ช่างเหล็กกลึงให้ และพกติดตัวตลอดเวลา
...
อย่างไรก็ตาม ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในอาการโคม่า อยู่ในระหว่างการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนบาดเจ็บได้ออกจากบ้านในพื้นที่ อ.สิเกา เพื่อไปหาปลากัดกับเพื่อนใน อ.นาโยง หลังจากหาเสร็จได้ขี่รถมาจอดเล่นที่หน้าโรงยิมเทศบาลฯ จนบังเอิญทำให้ผู้ก่อเหตุมาพบเห็นเข้าพอดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
