นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ สั่งเจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจกับผู้ที่เดินทางเข้าออกระหว่างไทย-มาเลเซีย พร้อมกำชับการนำกัญชา ผลิตภัณฑ์กัญชา เข้าประเทศมาเลเซีย ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประเทศไทยได้ปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสการใช้กัญชา การจำหน่ายต้นกล้า และผลิตภัณฑ์กัญชาภายในประเทศอย่างคึกคัก
ซึ่งต่อมาได้มีกระแสข่าวนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย นำน้ำดื่มกัญชา และผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ นำไปประเทศมาเลเซีย โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีด้วยกัน โดยปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก คิดเป็นเงินไทยกว่า 80,000 บาทไทย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด และการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ทั้ง 2 ประเทศ
ล่าสุดที่ด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายเชาว์ เฉลิมเกียรติ นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจกับผู้ที่เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย โดยการจัดทำเอกสาร เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำกัญชาตัวอย่าง แสดงให้นักท่องเที่ยวและคนไทยได้ทราบ ก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย
...
โดยกำชับว่าการนำต้น ใบกัญชาหรือเมล็ดกัญชา รวมทั้งเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ประกอบด้วยกัญชา หรือสกัดจากกัญชา ห้ามนำติดตัว หรือซุกซ่อนไว้ในรถอย่างเด็ดขาด รวมทั้งการเสพกัญชา ก่อนบริโภคควรคำนึงถึงระยะเวลาที่สารกัญชาออกฤทธิ์ก่อนที่จะเดินทางกลับไปประเทศมาเลเซีย ซึ่งอาจจะมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจจับ
"ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ซึ่งประเทศมาเลเซีย ยังไม่ได้ปลดล็อกกัญชา ยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต"
ทั้งนี้ ที่ด่านปาดังเบซาร์ ยังไม่มีพบการกระทำผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาแต่อย่างใด เป็นการป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิด จึงได้รณรงค์ให้ความรู้ดังกล่าว สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างนักท่องเที่ยวและประชาชนคนไทย